ขอแค่เศษเสี้ยวยุติธรรม จตุพรปลุกชิงเก้าอี้อบจ.


เพิ่มเพื่อน    


         “จรุงวิทย์” หวัง 20 ธ.ค. ประชาชนแห่มาใช้สิทธิ์ เตรียมเปิดตัวหน่วยเคลื่อนที่เร็วตรวจการซื้อเสียง “จตุพร” กร้าวประกาศขอทานเศษเสี้ยวความยุติธรรม อย่าให้คนชั่วเหยียบบันได อบจ.เชียงใหม่
         เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ธ.ค. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งหน่วยเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้ง และหีบบัตรเลือกตั้ง โดยการจัดหน่วยเลือกตั้งยังต้องจัดตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อไม่ให้เป็นสถานที่ในการแพร่เชื้อโรค ส่วนการรณรงค์การออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นแต่ละจังหวัดช่วงประมาณวันที่ 16-17 ธ.ค. จะจัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ บางจังหวัดอาจจัดบิ๊กเดย์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนร่วมกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่หากจังหวัดใดพบว่าสถานการณ์โควิด-19 ไม่ค่อยดี อาจใช้วิธีรณรงค์อื่นแทน 
         "วันที่ 7 ธ.ค. จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อทำงานร่วมกับผู้ตรวจการเลือกตั้งในการตรวจการกระทำหรือหาเสียงที่ผิดกฎหมาย การแจกเงินซื้อเสียง การเก็บบัตรประชาชน ดังนั้น อยากฝากเตือนผู้สมัครทุกคนว่าอย่าทำสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย เพราะถ้าเป็นคดีขึ้นมาจะลำบากได้" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว และว่า อยากขอเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้กันให้มากๆ 
         มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. จะเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดผ่านระบบการประชุมทางไกลเพื่อชี้แจงแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกับชุดเคลื่อนที่เร็ว ตลอดจนซักซ้อมการจัดทำและส่งรายงานเพื่อประกอบการพิจารณาผลการเลือกตั้ง อบจ.
         วันเดียวกัน การหาเสียงของ อบจ.เชียงใหม่ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่อง ล่าสุด นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายก อบจ. โดยปราศรัยที่ อ.ไชยปราการ ตอนหนึ่งว่า กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าทรยศต่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ไปอยู่กับเผด็จการในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งการเมืองในเชียงใหม่ได้สะท้อนถึงความอยุติธรรม ถ้าอยู่เฉยๆ ทนต่อความอยุติธรรม ก็จะไม่ถูกข้อกล่าวหาไปอยู่กับ พปชร. ทั้งที่ไล่ คสช.ทุกวัน และยังไล่ถึงปัจจุบัน แต่เมื่อพรรค พท.ไม่เอานายบุญเลิศ ก็ตัดสินใจยืนข้างนายบุญเลิศ เพราะนายบุญเลิศเป็นนายก อบจ.คนเดียวที่ติดคุกเพราะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2560 แต่พรรค พท.กลับอ้างรูปถ่ายใบเดียวมาตัดสินย้อนหลังเพียงหาเหตุไม่เอานายบุญเลิศเท่านั้น ซึ่งถ้าคนจะทรยศกันต้องรอถึง 2 ปีด้วยหรือ 
         นายจตุพรกล่าวว่า ได้ต่อสู้มาตลอด 10 ปี เข้า-ออกคุกมา 4 ครั้ง มีโทษสูงสุดประหารชีวิต เป็นการต่อสู้กับสองมาตรฐาน หรือเรื่องความอยุติธรรม หากพรรค พท.พิจารณาผู้ลงสมัครนายก อบจ.เชียงใหม่รอบคอบแล้ว คงจดจำเหตุการณ์ปี 2555 กรณีบอส กระทิงแดงได้ ซึ่งคดีบอสเกี่ยวข้องกับคนในเชียงใหม่ 2 คนคือ มีพยานปากสำคัญให้กาตำรวจตามสำนวนการสอบสวนของนายวิชา มหาคุณ ที่เขียนตัวย่อว่า จ. แปลความว่า นายจารุชาติ มาดทอง ให้การว่ารถของบอสขับด้วยความเร็วแค่ 50-60 กม.ต่อชั่วโมง และอีกรายตัวย่อว่า ช. ซึ่งเป็นชื่อเดิม มีส่วนเปลี่ยนแปลงความเร็วรถที่ขับชนตำรวจด้วย 
         “นายบุญเลิศถูกใส่ร้ายว่าเป็นพลังประชารัฐ ทั้งที่ไม่ได้เป็น และผมมาช่วยนายบุญเลิศ ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นพลังประชารัฐทั้งที่ไม่ได้เป็นอีกเช่นกัน แต่พรรคเพื่อไทยที่อ้างว่าตั้งคณะกรรมการสรรหา ถามว่าได้ตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ซึ่งเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างย่อยยับ และดึงคดีจนบ้างคดีขาดอายุความหรือไม่ ผมจึงชวนพรรคเพื่อไทยว่า คุณกับผมไปพบนายวิชา ไปขอดูหลักฐานทั้งหมดเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เมื่อประชาชนต่างรักความยุติธรรม และนายบุญเลิศถูกกล่าวหาอย่างอยุติธรรม และมีกรณีบอส กระทิงแดง เข้ากับคำว่าสองมาตรฐานอย่างชัดเจน ถ้าเขามีมลทินมัวหมองนั้น คนเชียงใหม่ต้องรับรู้ และพรรคการเมืองที่สังกัดต้องแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน" นายจตุพรระบุ
         นายจตุพรยังย้ำว่า พรรคการเมืองต้องรักษาความยุติธรรม จึงมาขอความยุติธรรม แต่ถ้าความยุติธรรมเป็นเพียงแค่ยัดเยียดคนหนึ่ง เพื่อเอาอีกคนหนึ่งที่เป็นคนมีประวัติน่าสงสัย จึงกล้ายืนกับนายบุญเลิศ พร้อมประกาศท้าทายอย่างชัดเจนว่า ไม่เอาเผด็จการ นายบุญเลิศก็ไม่เอาเผด็จการ และไม่มีวันไปร่วมกับพลังประชารัฐทั้งชาตินี้หรือชาติหน้า แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำกับนายบุญเลิศ ไม่เห็นด้วย เมื่อตระกูลนี้ซื่อสัตย์ต่อพรรคมากว่า 20 ปี เพียงแค่ภาพเดียวตัดสินเขาเลยหรือ แล้วเอาอีกคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ มีแต่ความน่าสงสัย ความยุติธรรมอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง เพราะไม่มีพรรคไม่มีพวก มีแต่ความเสมอหน้า ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่ใช่มีคนมาชี้ว่านี้ถูกหรือผิด แต่ความจริงต่างหากที่เป็นเรื่องถูก-ผิด 
         “การเลือกตั้งครั้งนี้ขอประชาชนช่วยรักษาความยุติธรรมไว้ แม้จะแพ้หรือชนะก็ตาม ถ้าเลือกแค่คิดอะไรก็ได้แล้ว ประเทศนี้เราจะหาธรรมไม่ได้เลย วันนี้ผมมาขอทานเศษเสี้ยวความยุติธรรมให้กับนายบุญเลิศ อย่าปล่อยให้ความไม่ถูกต้องครองเมือง อย่าให้คนชั่วเหยียบบันได อบจ.เชียงใหม่” นายจตุพรกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"