"บิ๊กตู่" เตรียมลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตรวจสถานการณ์น้ำ 7 ธ.ค. สั่ง สทนช.จัดทำแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน เผย 5 จังหวัดภาคใต้ยังจมบาดาล ชาวบ้าน 290,997 ครัวเรือนเดือดร้อน "ปภ." สำรวจความเสียหายก่อนฟื้นฟู "ฝ่ายค้าน" จี้รัฐบาลใช้กลไกสภาเร่งเยียวยาน้ำท่วม "นครศรีธรรมราช" ดับเพิ่ม 2 ราย ทำยอดเสียชีวิตพุ่งเป็น 22 ศพ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ จะเดินทางไปศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อและเยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
นายอนุชากล่าวว่า ได้รับทราบรายงานเบื้องต้นสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ขณะนี้ในหลายจังหวัดระดับน้ำเริ่มลดลงต่อเนื่อง เพราะฝนจะลดลงต่อเนื่องไป 1 สัปดาห์ และจากอิทธิพลน้ำทะเลหนุนที่ไม่กระทบต่อการระบายน้ำเช่นกัน ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมเครื่องจักรเครื่องมือเร่งระบายน้ำให้ลดลงโดยเร็วที่สุด ก่อนจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค.นี้ และมอบให้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติติดตามประเมินปริมาณฝนในช่วงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์พื้นที่ประสบอุทกภัยคงเหลืออีก 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง และสงขลา รวมทั้งสิ้น 51 อำเภอ และมีประชาชนได้รับผลกระทบ 290,997 ครัวเรือน โดยนายกฯ กำชับหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนและปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ รวมทั้งสั่งให้การช่วยเหลือประชาชนต้องเป็นไปในรูปแบบบูรณาการ
นอกจากนี้ สั่งการให้กระทรวงกลาโหมเร่งช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างสาธารณะ ถนน สะพานที่ได้รับความเสียหาย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงสาธารณสุข ดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย เพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งสำรวจจำนวนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเร่งชดเชย เยียวยา ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังและสำนักนายกรัฐมนตรี
“นายกฯ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกระจายกันลงพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มีการแจ้งเตือนและประสานไปยังจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ด้วย" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ถามถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ระยะยาว โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ได้มอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดทำแผนงานในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน เพื่อให้มีเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก ทั้งการเร่งแผนงานโครงการที่ได้เริ่มดำเนินการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้วทั้งสิ้น 66 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 30 แห่ง และตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 19 แห่ง
ขณะที่นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ได้มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยและประกาศเขตให้ความช่วยเหลือแล้ว คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) จะสำรวจความเสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบ และพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบฯ
วันเดียวกัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย, นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ และนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามจุดต่างๆ
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมายและเป็นฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล พบว่าในพื้นที่มีโครงการเพื่อป้องกันภัยพิบัติน้ำท่วมในพื้นที่มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาท แต่ปัจจุบันพบว่าโครงการไม่คืบหน้า พรรคฝ่ายค้านจะติดตามและตรวจสอบรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการ โดยจะเอาปัญหาของพี่น้องไปช่วยผลักดันว่าควรทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก หรือถ้าเกิดเหตุการณ์แล้วทำอย่างไรถึงจะไม่ให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน หรือจะมีวิธีป้องกันอย่างไร
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขอเสนอให้รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนใน 3 ระดับ คือ 1.การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบเร่งด่วน รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือภาคเอกชน จัดตั้งโรงครัวปรุงอาหารพร้อมรับประทาน แจกจ่ายให้กับประชาชน 2.การแก้ไขปัญหาภายหลังน้ำลดแล้ว รัฐบาลต้องจัดงบประมาณช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และ 3.การแก้ปัญหาระยะยาว รัฐบาลจะต้องเร่งรัดการก่อสร้างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองนครศรีธรรมราชตามแนวทางพระราชดำริ ที่ใช้งบประมาณ 9,580 ล้านบาท ของกรมชลประทาน ซึ่งมีการก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด
จ.นครศรีธรรมราช นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช สรุปสถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีพื้นที่ประสบภัย 23 อำเภอ 165 ตำบล 1,545 หมู่บ้าน 120 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 919,003 คน 323,536 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 19 ราย บ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมขัง รวม 18 อำเภอ รวม 91 ตำบล 704 หมู่บ้าน 92 ชุมชน พื้นที่คลี่คลายอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายจำนวน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ลานสกา อ.นบพิตำ อ.สิชล อ.ขนอม และ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
"สำหรับผู้ที่จมน้ำเสียชีวิตมีเพิ่มอีก 2 ราย คือเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ธ.ค. ชื่อนายวราวุฒิ วรสิงห์ อายุ 38 ปี จมน้ำเสียชีวิตริมถนนที่ถูกน้ำท่วมสูง บ้านนายเอื้อน หมู่ 6 ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง อีก 1 รายชื่อนายสมจิตร ทองศรีจันทร์ อายุ 54 ปี ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เสียหลักตกลงข้างทางจมน้ำเสียชีวิต ที่บ้านแสงวิมาน-ท่าพระ หมู่ 6 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง เมื่อช่วงเย็น 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม ล่าสุดอยู่ที่ 22 ราย" ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราชกล่าว
จ.ตรัง บริเวณคลองช้าง ริมถนนสายตรัง-สิเกา เจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้นำเอาเครื่องจักรกลหนัก รวมทั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ มาทำการสูบน้ำเพื่อผลักดันให้น้ำจากแม่น้ำตรังไหลออกสู่ปากน้ำทะเลกันตังได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น หลังมวลน้ำจำนวนมาก จากพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชไหลบ่าลงมา ทำให้พื้นที่ด้านเหนือคลองช้าง ซึ่งได้แก่ ต.หนองตรุด, ต.นาตาล่วง และ ต.นาโต๊ะหมิง ขณะเดียวกันน้ำจากแม่น้ำได้ไหลเข้าท่วมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยตรัง ซึ่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำตรัง ระดับน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 20-50 เซนติเมตร และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น โดยขณะนี้ จ.ตรัง น้ำท่วม 6 อำเภอ 29 ตำบล 4 ชุมชน 141 หมู่บ้าน 5,602 ครัวเรือน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |