จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยเป็นอย่างมาก ภาคธุรกิจต้องหยุดชะงัก หลายภาคอุตสาหกรรมก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ “มาตรการปิดเมือง : ล็อกดาวน์” เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดสะดุดลงในทันที ซึ่งรวมถึง “ภาคการท่องเที่ยว” ด้วย
ย้อนกลับมาดูข้อมูลว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาล โดยในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.06 ล้านล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยกว่า 1.96 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 39.77 ล้านคน เติบโต 4% ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศ นักท่องเที่ยวไทยเดินทางทั้งหมด 167 ล้านคน-ครั้ง เติบโต 1% สร้างรายได้กว่า 1.1 ล้านล้านบาท เติบโต 3%
แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเกือบทั่วโลก แน่นอนว่า “ภาคการท่องเที่ยว” ถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติในครั้งนี้ โดย ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบกับภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก ทำให้คาดว่าในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพียง 6.7 ล้านคนเท่านั้น สร้างรายได้ 3-4 แสนล้านบาท และจากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ หลายประเทศยังใช้มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ไทยต้องหันมาพึ่งพาการท่องเที่ยวจากภายในประเทศเป็นหลัก
โดยตั้งแต่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเริ่มมีมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวออกมาจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้เริ่มมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 โดยอัตราการเข้าพักตามโรงแรมก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งอัตราการเข้าพักในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 34% จากเดือน เม.ย.2563 อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 2% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำมาก และในช่วง 10 เดือนของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางท่องเที่ยวแล้ว 65 ล้านคน-ครั้ง และคาดว่าภายในสิ้นปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางท่องเที่ยว 95-100 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7.5 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าอย่างน้อย 70-80%
เดิมที ททท.คาดว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะเริ่มฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 4/2564 ซึ่งนั่นหมายถึงต้องรออีกกว่า 1 ปี แต่จากข่าวดีของการผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่ออกมาเป็นระยะ และมีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าภาพการท่องเที่ยวระหว่างประเทศน่าจะกลับมาได้เร็วขึ้น เป็นไตรมาส 3/2564 แม้จะยังไม่เป็นการฟื้นตัวที่เต็มที่ แต่ก็เชื่อว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพอสมควร อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านคน ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศก็น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านคน-ครั้ง ทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านล้านบาท
ก่อนที่ปี 2565 สถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีเป็นลำดับ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้นเป็น 20 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับประเทศ 1.3 ล้านล้านบาท ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 170 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท รวมแล้วภาคการท่องเที่ยวในอีก 2 ปีข้างหน้า จะสร้างรายได้ให้ประเทศรวม 2.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 80-90% ของรายได้ในปี 2562
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าในปี 2564 ภาคการท่องเที่ยวก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนหลักไปก่อน โดย ททท.ได้เตรียมจัดทำแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ “ฟีนิกซ์ แพลน” เพื่อปลุกปั้นการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากเผชิญวิกฤติรุนแรงในปี 2563 โดยแนวทางหลักคือ การเน้นส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัว และช่วยสนับสนุนการเติบโตของจีดีพี เพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเข้มแข็งได้ในระดับเดียวกับก่อนที่จะเกิดวิกฤติ.
ครองขวัญ รอดหมวน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |