พ่อแม่ร่ำไห้รับศพ "น้องจูน" ว่าที่บัณฑิตเหยื่อไอ้คลั่งแทง 2 ศพกลางเมืองอุดรฯ เผยลูกคือความหวังของครอบครัว เรียนดีจนได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ขอให้ผู้ก่อเหตุรับโทษประหารตายตกตามกัน ผู้ว่าฯ ประชุมล้อมคอกหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอย จิตแพทย์ยันไม่พบประวัติรักษาด้านจิตเวชตามที่ผู้ต้องหาอ้าง
เมื่อช่วงสายวันที่ 6 ธันวาคมนี้ นายสุติ หินคำ อายุ 45 ปี และนางนันทนา หินคำ อายุ 52 ปี ภรรยา พร้อมญาติๆ เดินทางไปยัง รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรับศพ น.ส.ชลดา หรือน้องจูน หินคำ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ที่จะจบการศึกษาในอีกไม่กี่เดือน ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 หลังถูกนายอิทธิพล หรือแจ๊ค อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี ลูกจ้างโรงเชือดหมูที่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง แทงคอเสียชีวิต พร้อม น.ส.อัญชญา บุญยียวน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล โดยจะมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลน้องจูนที่วัดโพธิสมภรณ์ (อารามหลวง) เขตเทศบาลนครอุดรธานี
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายอิทธิพลขี่รถจักรยานยนต์มีเพื่อนซ้อนท้าย ไปถึงบริเวณสี่แยกหลังเรือนจำ เขตเทศบาลเมืองอุดรธานี ขณะรถติดไฟแดง จากนั้นนายแจ๊คได้ชักมีดแทงคอน้องจูนที่จอดรถจักรยานยนต์อยู่ใกล้กัน ก่อนที่จะไล่แทงผู้ที่พบเห็นอีกหลายคน ทำให้ น.ส.อัญชญาเสียชีวิตเป็นศพที่ 2 นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีก 5 คน ชาย 1 คน ต่อมาตำรวจล้อมจับนายอิทธิพลไว้ได้ ให้การวกวนคล้ายคนติดยา คาดว่าประสาทหลอนด้วยฤทธิ์ยาจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ขณะที่เพื่อนซึ่งซ้อนจักรยานยนต์มาด้วยให้การว่า นายอิทธิพลชวนไปเที่ยวงานทุ่งศรีเมือง ขากลับบอกว่ายังไม่อยากกลับบ้าน ขอขี่รถเล่น กระทั่งมาติดไฟแดงก็ก่อเหตุดังกล่าว
นายสุติ บิดาน้องจูน กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวร้ายครอบครัวถึงกับช็อก เพราะลูกเป็นเด็กดี ขยัน และเรียนดีมาตลอด ทราบว่าจะได้เกียรตินิยม ซึ่งกำลังฝึกงานอยู่ที่ธนาคารออมสิน สาขาบงคำ ในเมืองอุดรธานี หลังฝึกงานจบลูกบอกว่าธนาคารจะรับเข้าทำงาน น้องจึงเป็นความหวังของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุลูกไปกินส้มตำที่ตลาดแล้วโดนแทง อยากให้ตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ส่วนนางนันทนากล่าวว่า มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย ส่วนน้องจูนเป็นคนเล็ก เป็นเด็กดี กำลังจะเรียนจบและทำงาน น้องจูนเป็นความหวังของครอบครัวที่จะดูแลพ่อแม่เพราะเรียนสูงที่สุด ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ประหารคนร้ายให้ตายตกไปตามกัน
ด้านนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและเยียวยาฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุของนายอิทธิพล สรุปว่าเบื้องต้นยุติธรรมจังหวัดอุดรธานีจะนำเงินเยียวยาไปมอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 110,000 บาท หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานีได้ลงไปเยียวยาฟื้นฟูจิตใจ และนำเงินไปมอบให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต นอกจากนี้จังหวัดอุดรธานีได้มีหนังสือสั่งการด่วนไปยังทุกอำเภอให้มีการเฝ้าระวังเหตุการณ์อาจจะเกิดซ้ำรอย พร้อมทั้งตั้งทีมเฉพาะกิจออกตรวจสอบ ตระเวนตามจุดสำคัญตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านจิตแพทย์ชี้แจงในที่ประชุมว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุสามารถตอบคำถามได้ดี ไม่ได้ให้การสับสนเมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่ก่อเหตุ ผู้ต้องหาอ้างว่าจำไม่ได้ ทั้งนี้ ที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีประวัติการรักษาทางด้านจิตเวช จากการค้นหาข้อมูล พบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาในด้านจิตเวชเลย ทั้งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น หรือปราจีนบุรี ตามที่อ้างว่ามีประวัติการรักษา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังฟันธงไม่ได้ว่าตัวผู้ก่อเหตุมีประวัติทางด้านจิตเวชหรือไม่ ส่วนผลตรวจปัสสาวะและเลือดหาสารเสพติด ขอเวลายืนยันข้อมูลอีกนิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในชั้นพนักงานสอบสวน ขณะนี้ญาติผู้ต้องหาคือ ลุง ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ก่อเหตุเคยมาทำงานกับตนเองที่หนองวัวซอ ไม่พบอาการคลุ้มคลั่ง เป็นคนพูดจารู้เรื่องปกติดี
ด้านครอบครัว น.ส อัญชญา บุญยียวน หรือน้องอุ๋งอิ๋ง นายคำสิงห์ และนางสมบัติ คำยียวน พ่อและแม่ของน้องอุ๋งอิ๋ง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดจะสูญเสียลูกสาวคนสุดท้องไปเร็วขนาดนี้ เขากำลังโต ขยันเรียน ตั้งใจว่าจะเรียนสถาปัตย์ จบแล้วมาช่วยงานพ่อแม่ที่บ้าน วันเกิดเหตุตอนเช้าพี่สาวได้ไปส่งน้องที่ บขส.หนองหาน โดยน้องบอกว่าเสาร์อาทิตย์นี้ทางโรงเรียนมีกิจกรรม พอช่วงบ่ายได้รับโทรศัพท์ว่าลูกสาวโดนแทง ตกใจมาก รีบไปที่โรงพยาบาล แต่สุดท้ายน้องเสียชีวิต ตอนนี้เหนื่อยใจ พูดอะไรไม่ออก หากย้อนเวลาได้อยากได้ชีวิตลูกสาวคืน ส่วนคนร้ายอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ที่บ้านเลขที่ 16 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วยนายกองเอก ปราโมทย์ ธัญญพืช นายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี คณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.อุดรธานี ชมรมแม่บ้านมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจนางสาวอรวรรณ ชูแก้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว เย็บ 4 เข็ม โอกาสนี้ นายสยามและคณะได้มอบกระเช้า ถุงยังชีพ และเงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมผูกข้อมือเพื่อเรียกขวัญให้ผู้บาดเจ็บ
น.ส.อรวรรณเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนขี่รถมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นคนร้ายยืนอยู่บริเวณทางเท้าแล้วคนร้ายก็วิ่งเข้ามาล็อกคอตน พยายามใช้มีดจี้คอ ตนก็ยื้อแย่งดิ้นขัดขืนจนหลุดออกมาได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บมีดบาดมือ ต้องการให้กฎหมายบังคับใช้โทษสูงสุดกับผู้ก่อเหตุรายนี้
หลังจากนั้น คณะของนายสยามได้เดินทางไปที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.วิลาสินี พรหมกูล อายุ 49 ปี ถูกแทงที่แก้ม ในส่วนของผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ ได้มอบหมายให้ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงเยี่ยมครบทั้ง 6 ราย
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในเวลา 17.00 น. วันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้นำพวงหรีดไปแสดงความเสียใจและเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |