บอกลาปัญหาผิวกับ “มะม่วงถ้วยน้อยๆ” ล่าสุดผลวิจัยออกมาระบุว่า การบริโภคมะม่วงสามารถป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ ก่อนหน้านี้หากคุณต้องการลดร่องลึกและริ้วรอย คุณอาจต้องข้ามขั้นตอนการดูแลผิว แต่ไปโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวแทน แต่การวิจัยล่าสุดได้เผยว่า การกินผลไม้ขึ้นชื่อของไทยสามารถลดริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้าได้ แต่งานวิจัยดังกล่าวได้ออกมาบอกว่า เทคนิคการลบเลือนริ้วรอยร่องลึกด้วยการกินผลไม้เมืองร้อนชนิดดังกล่าว ปัญหาผิวของคุณจะต้องไม่มากจนเกินไป
จากข้อมูลข้างต้นที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients ได้ระบุว่า “เทคนิคการลดเลือนริ้วรอยดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการวิจัยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน จำนวน 28 คน โดยกลุ่มหนึ่งนั้นกินมะม่วงประมาณ 4 ถ้วยต่อสัปดาห์ หรือประมาณวันละ 1 ถ้วย และผู้หญิงวัยทองจำนวนอีกครึ่งหนึ่งกินมะม่วงครึ่งถ้วยต่อสัปดาห์ (วันละครึ่งถ้วยภายใน 1 สัปดาห์) หลังจากนั้นนักวิจัยได้มีการใช้กล้องที่มีความละเอียดสูง เพื่อประเมินริ้วรอยบนใบหน้าทั้งก่อนและหลังการเข้าร่วมวิจัย
ทั้งนี้ ผลปรากฏว่ากลุ่มผู้เข้าร่วมงานวิจัยที่กินมะม่วงในปริมาณที่น้อย หรือประมาณวันละครึ่งถ้วยต่อสัปดาห์ พบว่ามีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด หรือริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนกว่าไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ดังนั้นนักวิจัยจึงได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มของผู้ที่รับประทานมะม่วงวันละ 4 ถ้วยต่อสัปดาห์ ซึ่งก็พบว่าเป็นการกินผลไม้ชนิดดังกล่าวมากเกินไป
แม้ว่านักวิจัยจะไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเหตุใดมะม่วงจึงก่อให้เกิดปัญหาริ้วรอยให้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ก็น่าจะเป็นเพราะมะม่วงค่อนข้างมีน้ำตาลจากธรรมชาติในปริมาณที่ค่อนข้างสูง หรือหวานมากเกินไป ที่สำคัญนั้นน้ำตาลส่วนเกินจะเข้าไปจับกับโปรตีนที่อยู่ในผิวหนัง ซึ่งนั่นจะทำให้คอลลาเจนที่ทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่นทำงานได้น้อยลง หรือทำให้ปริมาณคอลลาเจนใต้ผิวอ่อนแอลง
ด้าน “ดร.เจสซี เฉียง” ผู้ก่อตั้งสถาบันส่งเสริมสุขภาพและความงาม Cheung Aesthetics & Wellness จากเมืองชิคาโก กล่าวว่า “การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้ผิวพรรณสูญเสียความยืดหยุ่น และนั่นจะทำให้ริ้วรอยของคุณเด่นชัดขึ้น” แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเลิกกินมะม่วงไปเลย เพราะ “ดร.เจสซี เฉียง” ได้ระบุว่า “กลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ผิวของคุณดูสวยเด้ง คือการบริโภคผัก ผลไม้ปลอดสารเคมีที่หลากหลายชนิดกัน เช่น การบริโภคมะม่วงเพียงวันละครึ่งถ้วยร่วมกับผักผลไม้ชนิดอื่นๆ ก็จะช่วยปกป้องผิวพรรณของคุณจากริ้วรอยต่างๆ ได้”
ด้าน “มาร์ธา ลอว์เดอร์” นักโภชนาการจากสถาบันโภชนาการและการกำหนดอาหารแห่งแคลิฟอร์เนีย กล่าวเสริมว่า “การกินมะม่วงเพียงครึ่งถ้วยยังให้ประโยชน์ทางโภชนาการอื่นๆ นอกเหนือจากสุขภาพผิวอีกด้วย เพราะมะม่วงเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ดี และทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดี รวมถึงยังมีสารโคลีนซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง หรือกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ดังนั้นแนะนำให้คุณกินมะม่วงเป็นส่วนประกอบของมื้ออาหารที่รับประทาน ซึ่งไม่ใช่การบริโภคเป็นอาหารหลัก นั่นจะทำให้คุณได้รับประโยชน์ต่อร่างกายจากผลไม้ชนิดดังกล่าว”
แต่ถ้าหากคุณไม่ชอบกินมะม่วงก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ เพราะจากการศึกษาพบว่า ผัก ผลไม้สีส้มชนิดอื่นๆ ก็สามารถป้องกันปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า และให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันกับการบริโภคมะม่วง ทั้งนี้ ผักผลไม้สีส้ม ได้แก่ ส้ม แครอต ลูกพีช ลูกพลับ แคนตาลูป ฟักทอง มันเทศ ซึ่งจะอุดมไปด้วยสารเบตาแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการทำลายเซลล์ ที่สำคัญนอกจากการบริโภคผัก ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในการป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นแล้ว คุณก็ต้องสำรวจปัญหาผิวด้วยว่ามีมากน้อยแค่ไหนที่ตัวช่วยเหล่านี้จะสามารถคืนผิวสวยให้คุณได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |