6 ธ.ค.63- รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ...เรื่องที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้สำคัญมากนะครับ...สัจธรรมในชีวิตคนเรานั้นคือ "ภาพที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น และเรื่องที่รับฟังอาจไม่สะท้อนสถานะที่เป็น"

รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า โบราณสอนให้เรามีสติ รู้ว่ากำลังทำอะไร เหมาะสมหรือไม่ อันไหนเสี่ยงไม่ควรทำ ที่ใดอันตรายก็ควรเลี่ยง โบราณสอนให้เราใช้ปัญญา ในการคิดไตร่ตรอง จนตกผลึก รู้แจ้งได้ว่า จะทำอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัย พ้นจากภัยโรคระบาดหรือภาวะคุกคามต่างๆ การจะมีปัญญาได้นั้น จำเป็นต้องรับทราบข้อมูล ความรู้ที่ถูกต้อง และนำมาพิจารณาปรับใช้กับตนเองอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์

"วันนี้ผมขออนุญาตที่จะไม่เล่าให้ฟังเรื่องความรู้เกี่ยวกับโรค COVID-19 แบบที่เคยทำมาตลอดในวันอาทิตย์แต่ละสัปดาห์ แต่อยากเรียนว่า จากที่ผมได้ติดตามสถานการณ์การระบาดของไทยและทั่วโลกมาตลอด ขอเรียนให้ทราบมุมมองของผม ดังนี้ หนึ่ง ตอนนี้สถานการณ์ไทยไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่หลายคนโฆษณาประชาสัมพันธ์
สอง ตอนนี้มีพื้นที่เสี่ยงหลายจุด หลายจังหวัด หลายภูมิภาค ทั้งเขตชนบทและเขตเมือง สาม  มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรค COVID-19 ในระดับชุมชนวงกว้าง หากการ์ดของเราไม่แข็งแรงพอ และไม่มีมาตรการคุมอย่างเข้มข้นอย่างทันเวลา สี่ การระบาดซ้ำในประเทศต่างๆ ทั่วโลกสอนให้เรารู้ว่า หากเกิดขึ้น จะเร็ว หาต้นตอลำบาก คุมยาก จำนวนการติดเชื้อสูงสุดต่อวันจะมากกว่าเดิม 5 เท่า และใช้เวลาคุมนานกว่าเดิม 2 เท่า ห้า การอ้างสมดุลระหว่างการหาเงินและการระบาดนั้น ไม่มีที่ใดเลยในโลกที่จะทำได้ ที่ที่หาญกล้าทำนั้นต่างประสบปัญหาการระบาดซ้ำอย่างสะบักสะบอม นี่คือสิ่งที่เราเห็นจากข้อมูลเชิงประจักษ์"

รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า คำแนะนำที่ผมขอร้องให้เราทุกคนพิจารณา ช่วยกันทำอย่างจริงจัง คือ 1. "ลด ละ เลี่ยง การเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ยกเว้นจำเป็นจริงๆ เท่านั้น"  2. หากจำเป็นต้องไปในพื้นที่เสี่ยง หลังกลับมา โปรดป้องกันตัวอย่างเต็มที่ คิดเสมือนท่านเผลอได้รับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว สังเกตอาการตนเอง 2 สัปดาห์  3. สำหรับคนทั่วไป ทั้งในกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด สิ่งที่เราทุกคนจะช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำได้ คือ ใส่หน้ากาก 100% ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่น และพบคนน้อยลงสั้นลง เท่าที่จำเป็น 4. การประกาศพื้นที่เสี่ยง และการตรวจคัดกรองวงกว้างในชุมชนเป็นสิ่งที่รัฐจำเป็นต้องทำ โดยคาดว่าจะมีช่วงเวลาทอง 1-2 สัปดาห์ มิฉะนั้นอาจมีโอกาสกลับไปคล้ายเดือนมีนาคม 

"ณ เวลานี้ หากใครมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ หรือท้องเสีย ขอให้หยุดเรียน หยุดงาน และรีบไปตรวจรักษา สำหรับผมแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเที่ยวอย่างปลอดภัยแล้วครับ แต่เป็นเวลาที่จำเป็นต้องช่วยกันจำศีล ร่วมกันป้องกันบ้านของเราอย่างสุดหัวใจครับ ด้วยรักต่อทุกคน"