ในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความผิดในการพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของกองทัพ เพราะระเบียบของกองทัพและความเป็นตัวตนของนายกรัฐมนตรี พวกเขาฟ้องว่านายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่บ้านพักดังกล่าว และการที่ทางกองทัพจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับการอยู่อาศัยในบ้านดังกล่าวนั้น เป็นการได้รับผลประโยชน์อันไม่ควรได้ จริงๆ แล้วถ้าหากคนที่ยื่นคำร้องให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ได้อ่านระเบียบของกองทัพและความเป็นตัวตนของนายกรัฐมนตรีอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาก็จะรู้ว่าไม่ควรเสียเวลาของศาลในการที่จะต้องพิจารณาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย

แต่การที่พวกเขายื่นคำร้องไปนั้น เป็นเพราะพวกเขามีเจตนาที่จะให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งให้ได้ เผื่อถ้าหากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่ง ก็จะต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในกรณีนี้ทางฝ่ายพรรคพลังประชารัฐไม่มีชื่อใครที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกแล้ว เพราะได้เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้แต่เพียงผู้เดียว เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาอาจจะมีความหวังว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ เพราะทางฝ่ายของเขานั้นยังมีชื่อบุคคลที่ได้เสนอรายชื่อคนที่จะมีโอกาสถูกเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไว้ในตอนที่มีการเลือกตั้งอยู่หลายคน ถ้าหากสามารถชนะพรรคใดพรรคหนึ่งที่ร่วมรัฐบาลอยู่ในตอนนี้ให้เปลี่ยนขั้วได้ก็มีสิทธิ์ที่จะได้เป็นรัฐบาล เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะวัฒนธรรมการเมืองของไทยเรามีความสำคัญอยู่ที่โควตาของกระทรวงที่จะได้ในการเข้าร่วมรัฐบาล ดังนั้นถ้าหากมีการเสนอกระทรวงที่พรรคอยากได้ก็อาจจะมีการเปลี่ยนขั้วได้

ความพยายามในการทำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลุดจากตำแหน่งนั้นมาจากแรงจูงใจหลายๆ อย่างของคนหลายๆ คนที่มีแรงจูงใจที่แตกต่างกันออกไป

· บางคนก็แค้นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหารที่ทำให้พวกเขาหลุดจากการเป็นรัฐบาล หมดอำนาจในการบริหารประเทศตามที่เขา (หรือนายใหญ่ของเขา) ต้องการ

· บางคนก็แค้นที่ในสมัยที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี คดีต่างๆ มีความคืบหน้า มีการตัดสินหลายคดี ทำให้พวกเขาถูกยึดทรัพย์บ้าง ต้องติดคุกบ้าง ต้องหนีออกนอกประเทศบ้าง ถูกถอดถอนจากตำแหน่งและจะต้องเว้นวรรคทางการเมืองบ้าง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินคดีความที่เป็นเรื่องของฝ่ายตุลาการ และเรื่องการถอดถอนก็เป็นเรื่องของสภาที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ

· บางคนก็ไม่พอใจกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่เรียกขานกันว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง และพวกเขาคิดว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้กำกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อให้ตนเองสามารถสืบทอดอำนาจตลอดไป โดยเฉพาะประเด็นที่ให้สมาชิกวุฒิสภาสามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้ จึงมีความพยายามที่จะแก้มาตรานี้

· บางคนก็มองว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นทหารที่ทำหน้าที่ค้ำราชบัลลังก์ แต่พวกเขานั้นมีความพยายามที่จะล้มล้างสถาบัน โดยที่เราจะเห็นได้จากการแสดงปาฐกถา การอภิปราย การปราศรัย การให้สัมภาษณ์ และการเขียนข้อความต่างๆ ทั้งในสื่อสารมวลชน และใน Social Media ที่มีข้อความจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นถ้าจะให้การล้มล้างสถาบันสำเร็จ ก็จะต้องกำจัดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ให้เป็นผู้มีอำนาจ

· บางคนโกรธพลเอกประยุทธ์ที่ทำให้ตัวเองต้องหลุดจากแวดวงของการเมืองโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้นจะต้องกำจัดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ได้จึงจะหายแค้น

เมื่อนายกรัฐมนตรีหลุดจากคำร้องเรื่องการพักอาศัยในบ้านพักของกองทัพแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขาจะหาประเด็นใดมาร้องเรียนอีก เพราะตราบใดที่นายกรัฐมนตรียังคงอยู่ในตำแหน่ง พวกเขาคงไม่หยุด เพราะการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีทำให้พวกเขาไม่มีความสุข ดังนั้นไม่ว่าจะมีทางใดที่สามารถทำให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งได้ พวกเขาต้องทำอย่างแน่นอน ทุกวันนี้ไม่ว่าเขาจะกล่าวถึงปัญหาอะไรก็ตาม (ทั้งปัญหาที่มีจริงหรือปัญหาที่เกิดจากการมโนของพวกเขา) การพูดจาของเขาก็จะต้องจบลงด้วย “นายกรัฐมนตรีคือปัญหาของประเทศชาติ ดังนั้นท่านต้องลาออก” พวกเขาพูดเป็นเสียงตกร่องซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องเสียสละ แต่เมื่อมีการตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีทำผิดอะไร ขอความจริงเชิงประจักษ์ พวกเขาก็มักจะตอบไม่ได้ นอกจากใช้คำกว้างๆ เช่น นายกรัฐมนตรีโง่ ทำงานไม่เป็น เป็นเผด็จการ สืบทอดอำนาจ เฮงซวย แก้ไขเศรษฐกิจไม่ได้ (โดยไม่มองเลยว่าเศรษฐกิจเป็นปัญหาทั่วโลกตั้งแต่ก่อนเกิด COVID และถูกซ้ำเติมด้วย COVID) เรื่องที่นายกรัฐมนตรี (ด้วยความร่วมมือของคณะแพทย์) สามารถจัดการกับเรื่อง COVID ได้เป็นอย่างดี พวกเขาไม่เคยพูดถึงเลย และการโกงบ้านโกงเมืองและการทำผิดกฎหมายหลายๆ เรื่องที่เกิดในยุคของพวกเขานั้น เราไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงเลย มาดูกันว่าพวกเขาจะพยายามไล่นายกรัฐมนตรีอย่างไรต่อไป.