ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรสำคัญ

                พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีมังกร ระหว่าง 5 ธันวาคม 2563-1 มีนาคม 2566

                เล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม (๒)-ทำมุมพิเศษถึงพระพุธดวงเดิม (๔)-พระศุกร์ดวงเดิม (๖) และพระราหูดวงเดิม (๘)

            หลังจากได้บอกผลของพระเสาร์จร (7) ที่จะเข้าไปเดินในราศีมังกร ระหว่าง 5 ธันวาคม 2563-1 มีนาคม 2566 ต่อเมืองตามโฉลก คือ ให้ระวัง ไฟ-ศัตรูใหญ่จะรบกันไทยเดือดร้อน ไปแล้วนั้น

            ต่อไปนี้จะเป็นผลเพิ่มเติมจากการที่พระเสาร์จรในราศีมังกรที่ทำมุมถึงดาวต่างๆ ในเมือง ที่มี แนวโน้ม จะออกผลมาทั้ง ด้านดี-ร้าย ดังนี้

            1.โดยภาพรวมประชาชนคนเดินดินในเมือง จะมีเคราะห์เกิดปัญหาเป็นระยะๆ ให้ต้องแก้ไข เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย-หนี้สิน-ระวังเสียเงินทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการหลอกลวง-มีเรื่องพลัดพรากสูญเสีย โศกเศร้าครั้งใหญ่ (พระเสาร์จรตัวทุกข์-เล็งพระจันทร์ ๒ ประชาชน-ถึงพระศุกร์ ๖ ดวงเดิม) ตำราบอกเป็นระยะที่ควรจะสวดมนต์ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละศาสนาคุ้มครองอาจจะช่วยได้ตามโฉลก...ขอคุณพระรักษา ชนม์ชีพจะยืนนาน…

                2.เป็นระยะที่ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล แม้จะมั่นคงโดยภาพรวม แต่จะต้องแบกภาระหนักมากจนหลังแอ่น เหนื่อยยากแสนสาหัส (อาการของพระเสาร์ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลและการบริหารราชการแผ่นดิน-เดินอยู่ในราศีมังกร ได้มาตรฐานเกษตราธิบดี-มั่นคง-แต่ก็ไม่ได้อะไรง่ายๆ) โดยเป็นภาระในการดูแลประชาชน-หนี้-เศรษฐกิจและการทำมาหาได้ของชาติ พร้อมๆ กับการต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้ชาติ (พระเสาร์จรเล็งพระจันทร์ ๒ ตัวแทนประชาชน และถึงพระศุกร์ดวงเดิม ๖ ดาวเศรษฐกิจของเมือง)

            สิ่งที่เริ่มเห็นแล้วขณะนี้ เช่น รัฐบาลต้องดูแลสุขภาพประชาชนจากโควิด-19 เตรียมหาวัคซีนมาใช้-พยายามหาทางงัดเศรษฐกิจที่ดิ่งจากโควิด-19 ให้ฟื้น ทำสารพัดโครงการ เช่น การเติมเงินให้ชาวบ้าน-และกำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้เมืองอุตลุด

            ผู้เขียนคาดว่า ผลที่ลงมือทำในช่วงนี้จะออกมาอย่างงดงาม-หนักแน่น-มั่นคงช่วงตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2566 เป็นต้นไป

            3.ภาคฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เป็นระยะที่ดวงจะตกเป็นระยะๆ ทำอะไรก็เหมือนคนป่วย ไม่มีแรง บางครั้งสูญเสียสมาชิก หรือสมาชิกป่วย (พระเสาร์จรเล็งใส่นำทุกข์ใส่พระจันทร์ ๒ ดวงเดิม และราศีกรกฎซึ่งเป็นดินแดนของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล) หากเป็นคนก็เข้าข่ายตามโฉลก.. นระ (คนนั้น) บ่มิสบาย ทรัพย์สินจะสูญหาย อุปสรรคจะมีมา ข้าคนและลูกเมียก็จะเสียและโศกา วิธีรับมือคือ …ขอคุณพระรักษา ชนม์ชีพจะยืนนาน.. เพื่อไปให้ถึงช่วงพ้นอิทธิพลของดาวโทษทุกข์ คือตั้งแต่มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

            4.เป็นช่วงที่ราคาที่ดินทั่วประเทศโดยภาพรวมจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นช้าๆ แต่หนักแน่นมั่นคง (พระเสาร์จรเดินอยู่ในราศีมังกรธาตุดิน-ที่ดินของชาติจะถูกจำกัดปริมาณ-ส่งผลต่อราคา) คาดว่าอาจจะน้องๆ ช่วงรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี

            อีกทั้ง คาดว่ากิจกรรมสีเขียว ได้แก่ ป่าไม้-ปลูกป่า-ถ้ำ-ทุ่งนา-ป่าเขา เช่น สร้างคอนโดฯ ให้นกอยู่-อุทยานแห่งชาติที่หวังผลระยะยาวจะคึกคักมาก เช่น ในอดีตพระเสาร์จรเดินอยู่ในราศีมังกร ประกาศใช้กฎหมายอุทยานแห่งชาติ และประกาศตั้งอุทยานแห่งชาติแห่งแรกคือ เขาใหญ่

            5.ไม่ว่าจะแบกภาระหนักหลังแอ่นเพียงใด ใครมาเป็นรัฐบาลก็จะเอาชนะปัญหาอุปสรรคได้ แถม มีขุมทองให้ขุด จากต่างประเทศ ทั้งแขก-จีน-พลังงาน-แก๊ส ฯลฯ เพียงแต่จะหาเจอและทำได้หรือไม่เท่านั้น (พระเสาร์จรถึงพระราหู ๘ ดวงเดิม) ถ้าเป็นคนก็เหมือนไปหาปลา แต่ไปเจอขุมทองแทนตามโฉลก... จักชำนะศัตรู ประสิทธิโชคชัยยา ตำนานหนึ่งหญิง จรสุ่มประสงค์ปลา พบแท่งธรสาร์ ตรุรัตนะขุมทอง..

                6.รัฐบาล-ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีโอกาสพากันร่ำรวย ถึงเคยมีปัญหาอุปสรรคต่อกันก็จะแก้ไขได้-การคมนาคมทะลุถึงกันไปหมด (พระเสาร์จรถึงพระพุธดวงเดิม ๔ ตัวแทนภพสหัสชะ) ในระดับ.. โชคลาภจะพูนเพ็ญ และศัตรูจะอัปรา… เช่น ในอดีตรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เคยเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้ามาแล้ว

                7.โอกาสทอง ฮับด้านสุขภาพของภูมิภาค โดยรัฐบาลต้องเป็นฝ่ายทำให้เกิด (พระเสาร์จรตัวแทนรัฐบาล ถึงพระพุธดวงเดิม ๔ ตัวแทนภพอริ) ถ้าทำได้ดี.. โชคลาภจะพูนเพ็ญ..

            8.คนระดับหญิงงาม ดารา นางพญาแพ้ภัยพระเสาร์จร รวมทั้งคนวงการบันเทิง-คนเด่นๆ คงมีเรื่องประเภทผิดหวัง อกหัก-เตียงหัก โรคเก่ากำเริบ พลัดพรากเป็นระยะๆ (พระเสาร์จรถึงพระศุกร์ดวงเดิม ๖ ตัวแทนดารา-บันเทิง)

            สรุปคือ พระเสาร์จรย้ายราศีรอบนี้แม้จะออกแนวร้ายแต่แนวดีก็มีด้วย เพียงแต่ต้องผ่านการต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเท่านั้น แล้วอย่าลืมว่ายังมีอิทธิพลของดาวอื่นๆ อีกหลายดวงที่จะบ่งบอกเรื่องดีร้ายในเมือง ซึ่งต่อไปจะได้ทำนายดวงชะตาเมืองในภาพรวมต่อไป

            อ้อ สำหรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ก่อนหน้านี้จำได้ใช้ไหมว่าผู้เขียนเคยบอกว่าต้องผ่านระยะอภิมหาอึดอัดในชีวิตให้ได้นั้น

            วันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป พ้นจากอภิมหาอึดอัด เหลืออึดอัด

            ครั้นวันที่ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไปออกชะตาออกจากสภาวะอึดอัด สู่มิติใหม่ รอบใหม่ของชีวิต คือ แบกภาระหนักหลังแอ่น ทุกข์ร้อยแปดทับตัว ขนาดเจ็บไข้ได้ป่วย ถูกไล่เป็นระยะๆ (อาการกษัตริย์โปริสาตร์ถูกไล่จากเมือง) แต่ขณะเดียวกันก็จะเป็นช่วงการสร้างตัวตนรอบใหม่ว่าจะเป็นอะไร ตามอาการของท่านที่ลัคนาสถิตราศีมังกรทั้งหลาย

            เหตุการณ์ที่ผ่านมามีตัวอย่างของชีวิตท่าน คือ แบกภาระหนักพาเมืองฝ่าโควิด-19 ท่ามกลางม็อบสามนิ้วพยายามไล่ให้พ้นทำเนียบฯ แล้วท่านก็ทำได้ในที่สุด-ในขณะที่ผู้นำหลายประเทศทำไม่ได้-ตกจากตำแหน่งเอาดื้อๆ เช่น อเมริกา-อาการเช่นนี้จะเกิดกับท่านเป็นระยะๆ-ขึ้นอยู่กับว่าชะตาช่วงนั้นๆ จะตกหรือขึ้น.