วันประวัติศาสตร์ “ประยุทธ์” ชวนคนไทยทุกหมู่เหล่าเฝ้าฯ รับเสด็จ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” จุดเทียนมหามงคล เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 ณ ท้องสนามหลวง ในเวลา 19.19 น. ทุกเหล่าทัพพร้อมใจจัดกิจกรรมรำลึก
    เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงว่า รัฐบาลขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีจุดเทียนมหามงคล เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ 5 ธันวาคม 2563 ท่ามกลางมหาสมาคมของประชาชนทุกหมู่เหล่า ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย ในวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค.เวลา 19.19 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
    “ภูมิภาคทุกจังหวัดให้จัดพิธีพร้อมกับส่วนกลาง ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม สำหรับต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุล พิจารณาจัดพิธีตามที่เห็นสมควร สำหรับการแต่งกาย เชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ชุดไทย ชุดผ้าไทย ชุดพื้นเมือง ชุดท้องถิ่น ชุดย้อนยุค หรือชุดสุภาพ สีตามอัธยาศัย ยกเว้นสีดำ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1-6 ธ.ค. รัฐบาลได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ  และวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีการนำพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 มาสืบสาน รักษา และต่อยอด มาจัดแสดง ซึ่งในงานจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งโซนพระราชทาน โซนนิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
     นายธีรภัทรกล่าวว่า ครม.ยังมีมติให้วันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันรู้รักสามัคคี เพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพี่น้องคนไทย โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดกิจกรรมจิตอาสา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4-31 ธ.ค. ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนวันที่ 5 ธ.ค. ช่วงเช้าจะมีกิจกรรมพิธีทำบุญตักบาตรบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล วางพานพุ่มถวายบังคมทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ขณะที่ในเวลา 19.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จฯ ทรงเป็นประธานจุดเทียนมหามงคลสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ท้องสนามหลวง จึงขอเชิญชวนประชาชนมาเฝ้าฯ รับเสด็จ   
    นายมงคลชัย สมอุดร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดอาหารพระราชทานบริการประชาชนในพิธีจุดเทียนมหามงคลสดุดีพระเกียรติคุณ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคมนี้ โดยเต็นท์อาหารพระราชทานจะตั้งอยู่ในสนามหลวง ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้บริการตั้งแต่ 04.00 น.เป็นต้นไป ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุและฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา เปิดให้บริการ 4 รอบ ตั้งแต่ 10.00 น. นอกจากนี้มีจุดบริการอาหารและน้ำดื่มจากหน่วยงานรัฐและเอกชนอีก 70จุด เพื่อดูแลประชาชน
    วันเดียวกัน กองทัพไทยได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. โดย พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานจัดกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป และพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมภริยา เป็นประธานจัดกิจกรรมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธ.ค.2563 กิจกรรมประกอบด้วย พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 20 รูป จากวัดโสมนัสราชวรวิหาร ถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายราชสักการะและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ จากนั้นชมนิทรรศการเผยแพร่พระเกียรติคุณ “พ่อสร้าง ลูกสาน สายใยผูกพัน" และกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลระหว่างเดินชมนิทรรศการ
    ทั้งนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่นำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่ทรงออกราชการสนามเหล่านี้ จัดใส่กรอบรูป เมื่อเวลาที่ไปตรวจเยี่ยมกองกำลังต่างๆ จะได้นำไปมอบไว้ตามฐานทหาร ในขณะเดียวกันหมู่บ้านต่างๆ ที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไป ก็ขอให้นำภาพเหล่านี้ไปมอบให้ด้วย โดยสั่งให้กรมกิจการพลเรือนทหารบกจัดเตรียมภาพที่ขนาดใหญ่พอสมควร เพื่อนำไปติดไว้เป็นอนุสรณ์ และได้รำลึกถึงพระราชภารกิจของทั้งสองพระองค์
    “ในวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 15.00-20.30 น. กองทัพบกยังได้จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณบริเวณสนามหญ้า และด้านหน้า บก.ทบ. โดยภายในงานมีกิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีด้วยการร่วมรับ-ส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และจุดเทียนมหามงคล”
ส่วนที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศล พระสงฆ์จากวัดดอนเมือง จำนวน 10 รูป และตักบาตรพระสงฆ์ 40 รูปจากวัดชูจิตธรรมาราม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พร้อมกันนี้ได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ณ อาคารศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และบริการตรวจสุขภาพฟรี ส่วนกองบิน ณ ที่ตั้งต่างจังหวัด และโรงเรียนการบิน ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ โดยพร้อมเพรียงกัน
    พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม บริเวณลานหน้าอาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม และพิธีปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด จากนั้นได้จัดกิจกรรมการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ที่วัดครุฑ ริมคลองมอญ และตั้งแต่วันที่ 1-7 ธ.ค. กองทัพเรือยังกิจกิจกรรม "เทิดไว้เหนือเกล้าผองเราเหล่าราชนาวี" โดยในหลายกิจกรรมย่อยนั้น ได้เชิญชวนและเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย
ส่วนในภูมิภาคก็มีหลายจังหวัดที่เริ่มจัดกิจกรรมแล้ว อาทิ จ.อ่างทอง จัดกิจกรรมวันพัฒนาวันพ่อแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์บัญชา, จ.พิษณุโลก จัดแสดงนิทรรศการน้อมรำลึกในหลวง รัชกาลที่ 9 และเหล่ากาชาด จ.ปทุมธานี รวมพลังบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศลฯ เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ เป็นต้น.