แพ้ไม่ได้! "ทักษิณ" ลงทุนหาเสียงข้ามประเทศ ร่อนจม.อ้อนคนเชียงใหม่ เทคะแนนเลือก "พิชัย" นั่งนายก อบจ. หลังผลโพลยังตามหลัง "บุญเลิศ" บุรีรัมย์จี้ กกต.เร่งสอบเอาผิดกลุ่มบุคคลทุจริตจ้างคนลงสมัครเพื่อให้ได้หมายเลขเดียวกัน "คุณตาวัย 98" ชวนคนโคราชออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
    เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์จดหมายที่เขียนด้วยลายมือตัวเองบนเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาว่า "ปี๋น้องจาวเจียงใหม่ตี้เคารพฮักทุกท่านครับ วันนี้ผมต้องเขียนจดหมายมาถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่เพื่อขออย่าได้ทิ้งผมนะครับ ผมอาจจะถูกทิ้งโดยนักการเมืองบางคนไปบ้าง ผมรู้สึกเฉยๆ ครับ แต่ถ้าพี่น้องชาวเชียงใหม่บ้านเกิดของผมทิ้งผม ผมคงเสียใจมาก
     ผมอยู่ต่างประเทศกับน้องสาว (นายกฯ ปู) ก็อยู่ค่อนข้างว่าง มีงานไม่มาก เรามาปรึกษากันว่าวันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายค้าน เราไม่มีโอกาสแชร์ประสบการณ์และความรู้ในการแก้ปัญหาประเทศได้ ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วยคิดแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะเชียงใหม่บ้านเกิดของเราที่เรารู้ปัญหามากที่สุดได้ เลยต้องรีบเขียนจดหมายมาฝากผู้สมัครนายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ เบอร์ 1 พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เพื่อผมจะได้ใช้สมองซึ่งยังใช้การได้ดีอยู่ร่วมกับน้องสาวแนะนำการแก้ปัญหาของชาวเชียงใหม่ผ่านก้องไป ผมก็จะรู้สึกดีว่าได้ใช้เวลาว่างอยู่ต่างประเทศบวกกับประสบการณ์ที่ได้เห็นอะไรมากมายในต่างประเทศมาช่วยคนที่อยู่จังหวัดบ้านเกิดของเราได้
    อยากให้ท่านนึกถึงตอนสมัยไทยรักไทย เชียงใหม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สวยงาม มีเศรษฐกิจดี พืชผลเกษตรมีราคาดี คนค้าขายทุกระดับค้าง่ายขายคล่อง ยาเสพติดก็หมดไป สิ่งดีๆ เหล่านี้ต้องกลับมาสู่เชียงใหม่โดยเร็ว ถ้าเรามีช่องทางเสนอความคิดให้นายก อบจ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะให้ก้อง นำไปทำเพื่อรับใช้ชาวเชียงใหม่ ก็ถือว่าเราได้ช่วยพี่น้องชาวเชียงใหม่บ้านเกิดของเราแล้ว ผมขอฝากตวยเน่อ ถ้ายัง บ่าลืมเฮาตึงสองคนเตื่อ ขอได้โปรดเลือก พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เบอร์ 1 ฮื้อกำเน่อ กิ๊ดเติงหาเจียงใหม่บ้านเฮาขนาดครับ"
    รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเผยว่า สำหรับสาเหตุที่นายทักษิณโพสต์เฟซบุ๊กครั้งนี้ เนื่องจากการทำโพลรอบล่าสุด นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือชื่อเดิมชูชัย หรือ ส.ว.ก๊อง ที่เปลี่ยนชื่อเล่นเป็นก้อง ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด และอดีต ส.ว.เชียงใหม่ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ยังตามหลังคู่แข่งขันคือ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ 2 สมัย จึงต้องออกมาขอเสียงคนเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของสองอดีตนายกฯ นายทักษิณกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกทั้งยังเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง จึงไม่อยากให้ผู้สมัครจากฝ่ายตรงข้ามได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวันที่ 20 ธ.ค.
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายบุญเลิศ เดิมเคยเป็นกำลังสำคัญของตระกูลชินวัตร ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย กระทั่งถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2559 และถูกดำเนินคดีในข้อหาจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้กลับปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายก อบจ. เมื่อปี 2561 ซึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ไว้ใจ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคตัดสินใจส่งนายพิชัยลงในนามพรรคเพื่อชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่จากนายบุญเลิศ
    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินทางไปช่วยหาเสียงให้กับนายบุญเลิศ โดยระบุตอนหนึ่งว่า "ผมพร้อมไปปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยในทุกจังหวัดตามคำเชิญชวน แต่ยกเว้นเชียงใหม่ จังหวัดเดียวที่ไม่สามารถไปช่วยพรรคเพื่อไทยได้ เพราะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยทำไม่ถูก ที่ทอดทิ้งคนติดคุกด้วยเหตุไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องปรบมือให้นายบุญเลิศ แทนการผลักใสให้ไปพ้นพรรค ขอประชาชนเชียงใหม่ช่วยกันแสดงการยืนหยัดว่า พรรคการเมืองไม่มีสิทธิ์ชี้ว่าใครเป็นเผด็จการหรือเป็นประชาธิปไตย คนในพรรคการเมืองหนึ่งไปอยู่เผด็จการก็ถูกตามไปด่า เมื่อเขากลับมาบอกเป็นประชาธิปไตย กรณีเชียงใหม่เช่นกัน นายบุญเลิศไม่ต้องการออก กลับผลักเขาออก แต่บางคนแม้แต่อนาคตใหม่ยังไม่รับเลย เพราะมีข้อความโพสต์เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง พอเข้าพรรคเพื่อไทยกลายเป็นนักประชาธิปไตยทันที"    วันเดียวกัน น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ. ในนามคณะก้าวหน้า โดยช่วงเช้าเริ่มที่ จ.สมุทรสาคร เดินตลาดกระทุ่มแบน พร้อมนายอวยชัย จาตุรพันธ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร เบอร์ 4 ประชาสัมพันธ์นโยบายพัฒนาเมืองสมุทรสาคร โดยยึดนโยบายหลัก 5 ด้าน คือ แก้ปัญหาขยะ แก้ปัญหาน้ำเสีย พัฒนาคุณภาพการศึกษา แก้ปัญหาคมนาคม และการเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐ จากนั้นไปช่วยหาเสียงให้กับนายชัชวาล นันทะสาร ผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม เบอร์ 1 บริเวณตลาดสดศาลายาและตลาดตรงข้ามมหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนที่ช่วงเย็น ไปช่วยหาเสียงให้กับนายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี เบอร์ 1 ที่ชุมชนบริเวณโรงเรียนสตรีนนท์และ?โรงเรียนวัดเขมาฯ
    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ถ.สายบุรีรัมย์-นางรอง ต.กระสัง อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ นายประเสริฐ เลิศยะโส อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 1 ได้เดินทางมาติดตามเรื่อง พร้อมกับยื่นเอกสารเพิ่มเติม ประกอบด้วย สำเนาร้องเรียนการรับสมัครเลือกตั้ง, สำเนาประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ และสำเนาประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ให้กับนายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ รอง ผอ.กกต.บุรีรัมย์ หลังจากเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนการสมัครรับเลือกตั้งต่อ น.ส.ปิยนาฏ กลางพนม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ถึงประธาน กกต.บุรีรัมย์ และนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กลาง
    ทั้งนี้ หนังสือร้องเรียนระบุว่า เนื่องจากวันที่ 2-6 พ.ย.2563 ได้มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งใช้วิธีอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ดำเนินการใช้หรือจ้างวานให้คนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยประสงค์ให้คนของตนเองได้หมายเลขเดียวกัน เพื่อประสงค์ที่จะทุจริตในการเลือกตั้ง จึงขอให้ กกต.ดำเนินการสอบสวนและลงโทษตามกฎหมายโดยด่วนที่สุด ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค.2563
    ที่ จ.นครราชสีมา ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 2 กลุ่มสร้างโคราชโฉมใหม่ ซึ่งเป็นแคนดิเดตคนสำคัญ และผู้สมัคร ส.อบจ. ได้ปราศรัยหาเสียงที่ชุมชนวัดบูรณ์ มีผู้ร่วมฟังกว่า 200 คน ที่ศาลาการเปรียญวัดบูรณ์ อ.เมืองฯ โดยในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุที่ร่วมนั่งฟังการปราศรัยหาเสียงคือ คุณตาสง่า ศรีรัตนสัตย์ อายุ 98 ปี ชาวชุมชนวัดบูรณ์ บอกว่า ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ แม้อายุมากแล้ว จะไปเข้าคูหาใช้สิทธิ์ที่โรงเรียนเทศบาล 1 วัดบูรณ์ และที่ผ่านมาเลือกตั้ง ส.ส. และทุกครั้งก็ไปใช้สิทธิ์ ไม่เคยหนี จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงกัน เพื่อให้ผู้ได้รับเลือกตั้งไปพัฒนาบ้านเมือง และต้องไปทำตามที่หาเสียงไว้ ส่วนเลือกตั้งเขาจะทำหรือไม่ทำ หรือทำได้แค่ไหนก็แล้วแต่ เพราะความสามารถของแต่ละคนไม่เท่ากัน.