ก็เป็นอันเรียบโร้ยย์ย์ย์...โรงเรียนนายร้อย จปร. หรือโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป สำหรับการตั้งข้อกล่าวหาท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ในเรื่องอยู่บ้านหลวง บ้านทหาร โดยไม่คิดจะจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ เมื่อองค์กรสูงสุดด้านกฎหมายอย่าง ศาลรัฐธรรมนูญ ท่านวินิจฉัยชี้ขาดไปเป็นที่เรียบร้อย ว่าหายห่วง หมดกังวล ได้หมดถ้าสดชื่น ไปต่อได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลัง เหมือนอย่างที่ต่อใครเคย มองโลกในแง่ร้าย ไว้ก่อนหน้านี้...

       ----------------------------------------------------

            คือเรื่องของคำวินิจฉัย ชี้ขาด ของศาลรัฐธรรมนูญนั้น...อาจมีผู้ที่ ไม่เห็นควรด้วย อยู่บ้างประปราย โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่โกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง บิ๊กตู่ อย่างเป็นพิเศษ ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องเหน็บๆ แหนบๆ กระทบกระเทียบ เปรียบเปรย อยู่บ้างเป็นธรรมดาของสัตว์โลกทั้งหลาย แต่ถ้าใครดันเผลอไปกระทบแบบหนักๆ แรงๆ ต่อศาลรัฐธรรมนูญท่านโดยตรง อันนั้น...คงต้องหาทาง รับผิดชอบ กันเอาเอง เพราะไม่ว่าศาลไหน ต่อศาลไหน ก็เถอะ ท่านคงไม่ใช่เพื่อนเล่น เพื่อนหัว ที่จะไปตอดนิด ตอดหน่อย ท่านได้ง่ายๆ ด้วยเหตุเพราะโดยอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ท่านคงต้องเดินไปตามตัวบทกฎหมายอย่างมิมีทางปฏิเสธไปเป็นอื่น...

                    -------------------------------------------------

            อย่างไรก็ตาม...ในแง่ ความสมเหตุ-สมผล หรือในทัศนคติ มุมมอง แบบชาวบ้านๆ แล้ว งานนี้...ไม่ว่าใครก็เถอะที่คิดเล่นงาน คิดเอาเป็น-เอาตาย กับท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ในเรื่องทำนองนี้ คงน่าจะลำบากตั้งแต่แรก เพราะโดย คอมมอนเซนส์ หรือโดยสัญชาตญาณขั้นพื้นฐาน มันน่าจะเป็นเรื่อง ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง เป็นราว มาตั้งแต่ต้น ถึงพยายามเสาะแสวงหาเหตุผลต่างๆ นานา มาโต้ มาด่า มากระทบกระเทียบเปรียบเปรย ลากเอาความเป็นเผด็จการ ความมีนอก-มีใน ความไม่โปร่งแสง-ไม่โปร่งใส ฯลฯ ใดๆ ก็แล้วแต่ กลับส่งผลให้ผู้ที่พยายามหยิบเอาเหตุผลทำนองนี้มาเล่นงาน บิ๊กตู่ กองทัพ หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ กลายเป็นพวก เบบี้ดอลล์ ไปซะอีกต่างหาก หรือแสดงออกถึงความไม่เข้าท่า-ไม่เข้าทาง ของตัวเองไปซะฉิบ!!!

              ------------------------------------------------------

            เรียกว่า...ขนาดผู้ซึ่งพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเป็น ฝ่ายซ้าย ในยามแก่ ยามชรา อย่างคุณพี่ พญาไม้ ที่โดยปกติอาจไม่ถึงกับ ศรศิลป์ กินอยู่กับ บิ๊กตู่ มากมายซักเท่าไหร่ แต่อาจด้วยเหตุเพราะความเป็น แมน หรือเหตุเพราะยังพอหลงเหลือความมีเหตุ-มีผล ติดปลายนวมอยู่มั่ง ไม่มากก็น้อย ก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องออกมายอมรับแบบตรงไป-ตรงมา ว่าไม่น่าจะเป็นเรื่อง เป็นราว หรือไม่น่าจะได้เรื่อง ได้ราว ซักเท่าไหร่ สำหรับการคิดจะไล่บด ไล่บี้ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ในเรื่องทำนองนี้...

             -------------------------------------------------------

            คือการคิดจะหักโค่น ล้างผลาญ ทำลาย ผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม หรือเป็น ศัตรูทางการเมือง ของใครต่อใครก็แล้วแต่ เอาเข้าจริงๆ แล้ว...ย่อมถือเป็นเรื่อง ปกติธรรมดา นั่นแหละทั่น!!! สำหรับสิ่งที่เรียกว่า การเมือง โดยทั่วไป หรือโดยความเป็นไปของโลกียวิสัย ที่ต้องมีชอบ มีชัง มีรัก มีเกลียด กันไปตามสภาพ แต่สิ่งที่คงต้องถือเป็นเรื่องสำคัญเอามากๆ ก็คือผู้ที่คิดจะหักโค่น ล้างผลาญ ทำลาย ผู้อื่นนั้น อย่างน้อย...คงต้องพยายามหาทางแสดงให้เห็นถึงความเก่ง ความฉลาด ความดี ความงาม ฯลฯ ของตัวเอง ที่เหนือไปกว่าฝ่ายตรงข้าม หรือฝ่ายที่ตัวเองคิดจะหัก คิดจะโค่น ให้เป็นที่ประจักษ์กันแบบชัดๆ จะจะ...

                       -------------------------------------------------------

            แต่สำหรับการปะทะ ขัดแย้งทางการเมือง ช่วงหลังๆ...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละ แม้ว่า บิ๊กตู่ ท่านอาจไม่ถึงกับเก่ง ไม่ถึงกับฉลาด หรือแม้แต่ไม่ถึงกับดีเลิศประเสริฐศรี เพียบพร้อม สมบูรณ์ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังติด ขี้ยัวะ หรือขี้อะไรต่อมิอะไรอีกหลายขี้ก็ตาม แต่บรรดาผู้ที่คิดหักโค่น ล้างผลาญ ทำลายศัตรูการเมืองรายนี้นั้น ดันหนักไปทางทั้งทื่อ ทั้งโง่ ไม่ก็เต็มไปด้วยเบื้องหน้า เบื้องหลัง หนักไปทาง เชื้อชั่ว...ไม่เคยตาย ซะเป็นหลักใหญ่ จะหาประเภท ดี-เด่น-ดัง มาทำน้ำอิ๊ว น้ำยา หรือเป็นตัวเปรียบเทียบบารมีกับ บิ๊กตู่ ค่อนข้างหายาก หาเย็น พอๆ กับหาหนวดเต่า-เขากระต่าย ยิ่งเข้าไปทุกที...

                -------------------------------------------------------

            แม้แต่บรรดาพวกเด็กๆ...ที่ถือเป็นพลังบริสุทธิ์ สะอาด สดใส โดยพื้นฐานก็เถอะ แต่เอาไป-เอามาแล้ว...ชักออกไปทาง ซกมก ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเลอะเทะ เละเทอะ หารูป หาทรง อะไรแทบไม่ได้ ต่างไปจากพวกเด็กๆ รุ่น 14 ตุลา แบบคนละเรื่อง คนละม้วน คือแทนที่จะพยายามแสดงให้เห็นถึงพลังอันบริสุทธิ์ แสดงออกถึงความรัก ความเมตตา ปรานี ไปจนแม้แต่ความกตัญญูรู้คุณ ฯลฯ อันเป็นสิ่งที่มวลมนุษย์พึงมี ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็แล้วแต่ หรือแม้แต่สิ่งที่ เด็กเอ๋ย...เด็กดี”ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน แบบเด็กยุคโบร่ำโบราณ ก็เถอะ แต่ไปๆ-มาๆ...ดันออกไปทางคิดจะขายนาผืนน้อย ขายควายโดยเสรี เพรียกหาพอร์นฮ้ง พอร์นฮับ ฯลฯ จนเป็นอะไรที่ก่อให้เกิดความปวดเศียร เวียนเกล้า หนักยิ่งเข้าไปทุกที...

                     -----------------------------------------------------

            อันนี้...ก็เลยมีแต่ต้อง เสร็จบิ๊กตู่ จนได้!!! ยิ่งตั้งเป้า ตั้งจุดมุ่งหมายไว้สูงๆ ระดับคิด พลิกฟ้า-คว่ำดิน เอาเลยถึงขั้นนั้น แต่แค่เทียบ ตบะ หรือ บารมี โดยอาศัยความดี หรือสิ่งดีๆ เป็นมาตรฐานในการวัดตัดสิน ก็แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึงอีกต่อไปว่าอะไรจะ เราชนะ...แล้วแม่จ๋า ภายในขั้นตอนสุดท้าย คือถ้าตัวเองยันดันปราศจาก ธรรมะ แม้แต่ข้อเดียว โอกาสไปเทียบเคียงกับผู้ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ที่จะต้องเดินไปตามแนวทาง ทศพิธราชธรรม อย่างมิอาจเบี่ยงเบนไปเป็นอื่น ยังไง...คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้...โอกาสที่จะ เหี่ยวปลาย ลงไปตามลำดับ โดยกระทั่งแค่ บิ๊กตู่ ยังเอาลงแทบไม่ได้ จึงมีความเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที...

                          -----------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Plato” (อีกครั้ง)... “Virtue does not spring from riches, and all other human blessings, both private and public, from virtue.- คุณธรรมมิได้เกิดจากทรัพย์ศฤงคาร คุณงามความดีของมนุษย์ทุกประการ ไม่ว่าส่วนตัว หรือสาธารณะ มีกำเนิดจากคุณธรรม...”.

             ----------------------------------------------------