ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "วันนี้ผมต้องเขียนจดหมายมาถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่เพื่อขออย่าได้ทิ้งผมนะครับ ผมอาจจะถูกทิ้งโดยนักการเมืองบางคนไปบ้าง ผมรู้สึกเฉยๆ ครับ แต่ถ้าพี่น้องชาวเชียงใหม่บ้านเกิดของผมทิ้งผม ผมคงเสียใจมาก... เลยต้องรีบเขียนจดหมายมาฝากผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่เบอร์ 1 พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เพื่อผมจะได้ใช้สมองซึ่งยังใช้การได้ดีอยู่ร่วมกับน้องสาวแนะนำการแก้ปัญหาของชาวเชียงใหม่ผ่านก้องไป ผมก็จะรู้สึกดีว่าได้ใช้เวลาว่างอยู่ต่างประเทศบวกกับประสบการณ์ที่ได้เห็นอะไรมากมายในต่างประเทศมาช่วยคนที่อยู่จังหวัดบ้านเกิดของเราได้... ผมขอฝากตวยเน่อ ถ้ายังบ่าลืมเฮาตึงสองคนเตื่อ ขอได้โปรดเลือก พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เบอร์ 1 ฮื้อกำเน่อ" ตอกย้ำเพื่อแม้วอาการหนัก ถึงขั้นต้องทิ้งใบไพ่ตาย เทหมดหน้าตัก ชิงเก้าอี้นี้ ต้องให้ "นายใหญ่" ทักษิณ ชินวัตร ออกโรงเอง หาเสียงทางไกลข้ามน้ำข้ามทะเล อุตส่าห์เขียนจดหมายด้วยลายมือ อ้อนชาวเชียงใหม่ เทคะแนนให้ ส.ว.ก้อง หลังโพลล่าสุดยังเป็นรองตามหลัง "บุญเลิศ บูรณุปกรณ์" อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ 2 สมัย คนเคยรัก แต่สายสัมพันธ์ต้องสะบั้นเมื่อรัฐบาล คสช.ที่เคยจับนายบุญเลิศเข้าซังเต กลับยอมปล่อยตัวและคืนตำแหน่งให้ในปี 61รวมถึงข่าวคราวความใกล้ชิดกับผู้กองมนัสแกนนำ พปชร.ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ "เจ๊แดง" เลยหันไปดัน "ส.ว.ก๊อง" ที่เลือกตั้งหนนี้ที่เปลี่ยนชื่อจากชูชัยเป็นพิชัยแก้เคล็ดแล้ว ยังขอให้ชาวเชียงใหม่เรียกชื่อเล่นให้ถูกว่าก้อง แทนที่จะเป็นก๊องที่ออกเสียงเพี้ยนติดปากไปแล้ว ก็ต้องรอดูว่าจะกู้สถานการณ์ได้ทันหรือเปล่า กับอีกกว่า 2 สัปดาห์ที่เหลือ ศึกสายเลือดครานี้เดิมพันใหญ่หลวงนัก 20 ธันวา.จะได้รู้กันว่ายี่ห้อทักษิณยังมีมนต์ขลังอยู่มั้ย เพราะถ้าทำขนาดนี้แล้วยังพ่าย นายใหญ่หน้าแตกยับต้องพึ่งปี๊บดูไบคลุมหัว ส่วนบรรดาแกนนำเพื่อไทยทั้งหลายคงหารูมุดดินกันแทบไม่ทันแน่

            ๐ "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก"จริงๆ ไม่งั้น "หญิงหน่อย "สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คงไม่บ๊ายบายตัดขาดเพื่อไทย ทั้งที่ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมากับทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 41 กระทั่งถูกตัดสิทธิการเมืองในคดียุบพรรคไทยรักไทย จนมาถึงเพื่อไทย ในปี 63 คงต้องบอกว่าทำไมถึงทำกับชั้นได้ ถึงจะแว่วมาว่า "นายใหญ่" เอ่ยปากขอให้อยู่ต่อ แล้วจะช่วยจัดการปัญหาให้ก็ตาม แต่ทำไมปล่อยให้ล่วงเลยจนถึงป่านนี้ ก็น่าเป็นคำตอบได้ดีที่สุด แม้ล็อตแรกที่ตามหญิงหน่อยไป มีแค่นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข นายพงศกร อรรณนพพร แต่เชื่อว่าไม่หมดแค่นี้ ล็อตสองมีอีกแน่ โดยเฉพาะก๊วน กทม. ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ว่าจะเป็น เสี่ยปุ่น-น.ต.ศิธา ทิวารี, เสี่ยอ๊อบ-สุรชาติ เทียนทอง, ปุ๊น-ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส, หมวดเจี๊ยบ-ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง ส่วนกลุ่ม ส.ส.ที่ใกล้ชิด ยังคงต้องอยู่ต่อไปก่อน อาทิ หมวดป๊อป-น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, เก่ง-การุณ โหสกุล, จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส่วนก้าวย่างทางการเมืองของ "หญิงหน่อย" จะเป็นอย่างไรต่อไป หญิงหน่อยเตรียมแถลงเปิดใจวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค.นี้ และสายข่าวการันตีชัดเจนว่าการที่หญิงหน่อยแยกตัวออกไป ไม่มีทางไปตั้งพรรคอะไหล่หรือพรรคสาขาเพื่อไทยชัวร์

            ๐ ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว! ในขณะที่ "บิ๊กตู่" ได้ไปต่อ หลังศาลวินิจฉัยเรื่องปมบ้านพักทหารไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ทำหน้าที่นายกฯ ตามปกติ งานนี้ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ ไม่แปลกที่นายกฯ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล แค่ชู 3 นิ้วส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู 2 วันติด เท่านี้ก็แจ่มแจ้ง ไม่เหมือนอีกฝั่งแทบจะแดดิ้น ล่าสุด "เพนกวิน" โพสต์เฟซบุ๊กเป็นตุเป็นตะ จะมีการสังหารแกนนำในคุกวันอาทิตย์ที่ 6 ธ.ค.นี้ ถึงจะบอกว่าไม่หวั่นไหวกับข่าวจำพวกนี้ แต่ดูแล้วมันย้อนแย้งพิลึก เข้าตำรา "ปากกล้า ขาสั่น" นอกจากโดนคดีหนักๆ เป็นหางว่าว ทั้งมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว ยังเจอคดีดูหมิ่นศาลเพิ่ม หลังร่วมกับสหายราษฎรจัดหนักจัดเต็มไปเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทั้งบนเวทีที่ห้าแยกลาดพร้าว รวมทั้งโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแบบห้าวเป้ง ตุลาการศาล รธน.ก็จัดให้ทันที ส่ง ส.ต.ท. มนตรี แดงศรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานนิติการ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความดำเนินคดี ต่อ บก.ปอท. ประเดิม มาตรา 198 ประมวลกฎหมายอาญา "ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ".

 ลี้คิมฮวง