นักเรียนเลวแต่งไปรเวทลากแตะ ประเดิมแหกกฎรับเปิดเทอม โวยโดนลงโทษ-ห้ามเข้าเรียน ทำบัญชีหนังหมาโพสต์ประจานครู ก่อนบุก ศธ.บี้แก้ระเบียบอ้างชุด นร.ไม่ปลอดภัย สพฐ.เผยไม่ใส่เครื่องแบบทั่วประเทศแค่ 580 คน ยันไม่มี รร.ใดปิดกั้น "ณัฏฐพล" ซัดแกนนำเบื้องหลังใจร้ายใช้เด็กชนสถานศึกษา นายกฯ ชี้ป้องอันตรายในที่สาธารณะ-สิ้นเปลืองน้อยกว่า "ทอน" ได้ทีสดุดีกล้าหาญทำลายวัฒนธรรมกดขี่
    เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม จากกรณีที่กลุ่มนักเรียนเลว และภาคีนักเรียน KKC ได้ประกาศเชิญชวนให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียนในวันที่ 1 ธ.ค.63 ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 วันแรก ภายใต้แคมเปญ "#1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ" โดยมีรายชื่อโรงเรียนจำนวน 23 แห่ง ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ที่เด็กนักเรียนจะเข้าร่วมกิจกรรมนั้น พบว่าในช่วงเช้านักเรียนส่วนใหญ่แต่งชุดนักเรียนมาเรียนตามปกติ มีเพียงส่วนน้อยบางรายแต่งชุดไปรเวทมาโรงเรียน บางรายแต่งชุดนักเรียนแต่สวมรองเท้าแตะ อาทิ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนสตรีวิทยา, โรงเรียนหอวัง, โรงเรียนสารวิทยา, โรงเรียนแก่นนคร จ.ขอนแก่น, โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา เป็นต้น
    โดยก่อนหน้านี้หลายโรงเรียนได้ออกประกาศเรื่องการแต่งเครื่องแบบของนักเรียน อาทิ โรงเรียนหอวัง, โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์, โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี), โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยมีสาระสำคัญตรงกันคือ ให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบนักเรียนมาเรียน หากนักเรียนไม่แต่งเครื่องแบบมาเรียนครูจะร่วมพูดคุยทำความเข้าใจกับนักเรียน และแจ้งผู้ปกครอง รวมทั้งเชิญผู้ปกครองมาร่วมหาแนวทางช่วยเหลือดูแลนักเรียนต่อไป    ขณะที่ประกาศของโรงเรียนหอวังระบุด้วยว่า หากนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติของโรงเรียนได้ ให้นักเรียนและผู้ปกครองลงชื่อยืนยันรับรองข้อมูล ทั้งนี้ ทางโรงเรียนจะประสานจัดหาหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดูแลนักเรียนในด้านการเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้
    ทางด้านกลุ่มนักเรียนเลวได้เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า "ครูไม่ให้เข้าโรงเรียน ครูเรียกพบผู้ปกครอง แจ้งเลย! เราได้ทำบัญชี… ไว้ประจานครูล้าหลังเหล่านั้นแล้ว สามารถเข้าเว็บและกรอกข้อมูลได้เลย ข้อมูลทั้งหมดที่กรอกมาจะถูกประจานอยู่บนหน้าเว็บ และจะถูกรวมส่งให้กระทรวงศึกษาธิการต่อไป" ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์ badstudent.co พบว่าได้มีการโพสต์ชื่อครูและโรงเรียน ในบัญชีหนังหมาประจานครูและโรงเรียนล้าหลัง
    นอกจากนี้ยังพบว่ามีเด็กนักเรียนได้ถ่ายคลิปครูคนหนึ่งไล่นักเรียนที่แต่งชุดไปรเวทกลับบ้าน โดยภายในคลิปครูชายบอกกับนักเรียนที่ใส่ชุดไปรเวทว่า ใส่ชุดนี้มากลับบ้านไปเลย ไม่ให้เรียน เพราะไม่ได้บอกให้แต่งชุดแบบนี้มา ซึ่งเด็กๆ ได้ถามกลับว่า เหตุใดจึงไม่สามารถเรียนได้ และตอบครูกลับว่า ไม่เรียนก็ได้ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่งที่แต่งชุดไปรเวทนั่งอยู่บริเวณหน้าประตูโรงเรียนด้วย
     ขณะเดียวกัน นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการ และผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์เอกสารแจ้งความของผู้ปกครองรายหนึ่งที่ สน.พหลโยธิน พร้อมข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวัง ถูกผู้ปกครองแจ้งความละเมิดสิทธิ เดือดลูกถูกห้ามเข้าเรียนเพราะไม่ใส่ชุดนักเรียน
บุกศธ.คืนชุดนักเรียน
    ต่อมาเวลา 16.00 น. กลุ่มนักเรียนเลวได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อเรียกร้องให้ ศธ.ปรับแก้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแต่งกายเครื่องแบบนักเรียน และจากการรณรงค์ #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ พบว่าบางโรงเรียนใช้อำนาจโดยมิชอบกลั่นแกล้งนักเรียน โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ เข้าร่วมประมาณ 40 คน
    โดยตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลวกล่าวว่า เรามีจุดประสงค์สำคัญ คือเรื่องการยกเลิกการบังคับใส่เครื่องแบบนักเรียน ยกเลิกกฎ ระเบียบที่บอก หรือบังคับว่าเราต้องใส่ชุดอะไรมาโรงเรียน ทั้งนี้จากการที่ทางเพจเฟซบุ๊กนักเรียนเลวได้เปิดเว็บไซต์ ht tps://badstudent.co/?fbclid=IwAR0jmdVNFHgK4hY9YGAUWh_LAC3YdJT83Nk9kDZZI6uLUC7qAD0BnaWKJPg เพื่อให้นักเรียนที่ถูกลงโทษจากการแต่งการชุดไปรเวทไปโรงเรียน พบว่า โรงเรียนที่ล้าหลังอันดับที่ 1 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ถูกรายงานแล้วถึง 613 ครั้ง
    ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลวระบุด้วยว่า หลายครั้งที่มีคนพยายามบอกว่าการใส่ชุดนักเรียนเป็นเรื่องของความปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้นั้นเป็นปัญหาของระบบโครงสร้าง หรือระบบการเมืองอย่างแน่นอน เพราะเหตุใดการใส่ชุดนักเรียนจึงปลอดภัย ทั้งที่ทุกคนควรที่จะได้รับความปลอดภัยอย่างเท่าเทียม ส่วนตัวตนเองมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยสีชมพู ซึ่งวันนี้มีนักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาเยอะมาก รู้สึกดีใจที่ได้เห็นเพื่อนๆ ใส่ชุดไปรเวท ใส่รองเท้าและถือกระเป๋าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ เพราะนั่นคือเรากำลังต่อสู้กับอำนาจที่กดทับพวกเรามาเป็นเวลานาน นอกจากจะต่อสู้กับอำนาจเรายังต่อสู้กับเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแล้ว เราต้องการยกเลิกการบังคับแต่งชุดนักเรียน เพราะเราควรมีสิทธิในการแต่งชุดอะไร แต่งอะไรมาโรงเรียนก็ได้
    ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนเลวยังได้ทำกิจกรรมแขวนชุดนักเรียนรอบรั้วกระทรวง พร้อมติดป้ายผ้าข้อความ ‘ชุดนักเรียนไม่ปลอดภัย’ ทับตราเสมาสัญลักษณ์ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่า ชุดนักเรียนไม่ได้มีความปลอดภัย ราคาแพง จึงขอคืนกระทรวงศึกษาธิการ
    ด้านตัวแทนจากเพจบอดินไม่อินเผด็จการ กล่าวว่า ได้นัดรวมตัวกับเพื่อนที่แต่งชุดไปรเวทมาโรงเรียนในเวลา 07.00 น. เมื่อเข้าโรงเรียนก็พบผู้อำนวยการโรงเรียนและครู โดยให้เข้าแถวพิเศษ เดินขึ้นเรือนเจ้าพระยาแล้วไม่ได้ลงมาอีกเลย และทุกคนถูกขังในเรือนไทย 3-4 ชั่วโมง เราจึงสงสัยว่าการไม่ใส่ชุดนักเรียนมาเรียน เราไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวหรือ และการที่จะขึ้นตึกเรียนนักเรียนต้องนำชุดนักเรียนมาเปลี่ยน แต่เมื่อมีสื่อมวลชนมาจำนวนมาก ผู้อำนวยการจึงเปิดโอกาสให้นักเรียนกลุ่มที่ใส่ชุดไปรเวทขึ้นตึกเรียนได้ อยากขอฝากว่าพวกเราเป็นนักเรียน ทุกคนต้องปกป้องสิทธิของตนเองไว้
    นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียนเลวมีการนำผ้าสีรุ้งมาติดบริเวณกำลังด้านหน้า ศธ. เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ให้ ศธ.ยอมรับในความหลากหลายของนักเรียน
    ตัวแทนจากโรงเรียนชื่อดังย่านตลาดน้อยกล่าวว่า ตนและเพื่อนถูกห้ามไม่ให้เข้าโรงเรียนในทันที พอเข้าโรงเรียนได้ก็ถูกจับมาสายและเข้าห้องฝ่ายปกครอง และเมื่อได้มีการพูดคุยครูและผู้บริหารจะยกเรื่องของความเหลื่อมล้ำมาเป็นเหตุผลที่จะต้องใส่ชุดนักเรียน ซึ่งเห็นว่าเด็กกลุ่มหนึ่งไม่มีแม้แต่เงินจะใส่ชุดนักเรียน และต้องการให้มีการมองถึงเพศวิถีด้วย
    จากนั้นกลุ่มนักเรียนเลวได้จัดกิจกรรมเต้นเพลงสีดาลุยไฟที่ปรับเป็นเพลงนักเรียนลุยไฟ บริเวณหน้าป้าย ศธ. โดยเพลงดังกล่าวมีเนื้อหา อาทิ เราเกิดมาก็ถูกตัดสิน ถูกกัดกินจากการศึกษา คือระบอบที่ย่ำยีเรา คือความรุนแรงที่มึงไม่มอง เราเกิดมาก็ถูกกดหัว ต้องเจียมตัวให้พวกผู้ใหญ่ คือความเชื่อย่ำยีเรา เป็นต้น จนกระทั่งเวลา 18.30 น. กลุ่มนักเรียนเลวประกาศยุติการชุมนุม
ใส่ไปรเวทแค่ 580 คน
    ขณะที่นายนิพนธ์ ก้องเวหา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นตัวแทนผู้บริหาร ศธ. มารับฟังความคิดเห็นของกลุ่มนักเรียนที่ต้องการเรียกร้องให้ ศธ.แก้ปัญหา เปิดเผยว่า ภาพรวมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันแรกนี้ยังไม่มีรายงานว่าโรงเรียนไหนปิดกั้นไม่ให้นักเรียนที่ใส่ชุดไปรเวทมาโรงเรียนเข้าเรียน ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่ามีนักเรียนที่แต่งชุดไปรเวทมาโรงเรียนทั่วประเทศทั้งหมด 580 คน ซึ่งทุกโรงเรียนเปิดโอกาสให้เด็กเข้าเรียนทุกคนโดยไม่มีการปิดกั้น
    นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มนักเรียนเลวรณรงค์ให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน แทนการแต่งเครื่องแบบนักเรียนเพื่อแสดงออกถึงสิทธิในร่างกายตนเองว่า ระเบียบเรื่องแต่งกายของกระทรวงศึกษาธิการมีอยู่แล้ว ดังนั้น หากแต่งชุดอื่นมาโรงเรียนถือว่าผิดระเบียบ และถึงแม้จะมีการพูดคุยถึงเรื่องการแต่งกาย แต่ยังไม่มีการแก้ไขระเบียบ รวมถึงเรื่องทรงผมด้วย ยังต้องรอความเห็นจากคณะครูและผู้บริหารโรงเรียนก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ ยืนยันยังต้องใช้ระเบียบเดิมไปก่อน เชื่อว่าทางโรงเรียนจะมีมาตรการต่างๆ และต้องพูดคุยกับนักเรียนว่าเราอยู่ในสังคมที่ต้องมีระเบียบวินัย เมื่อกฎระเบียบยังไม่เปลี่ยนต้องปฏิบัติตามในทุกๆ เรื่อง หากไม่ทำตามจะมีผลกระทบ สำหรับบทลงโทษแต่ละโรงเรียนจะมีมาตรการที่แตกต่างกัน แล้วแต่ความรุนแรงของการแสดงออก แต่ระเบียบของกระทรวงระบุไว้ชัดเจนว่าจะเริ่มจากการพูดคุยทำความเข้าใจกับนักเรียน จากนั้นจะมีการเชิญผู้ปกครองมาชี้แจงถึงบทลงโทษ ซึ่งจะไม่รุนแรงถึงขั้นไล่ออก   
    “เรื่องที่เกิดขึ้นไม่โทษนักเรียน แต่แกนนำคนที่คิดเรื่องนี้ใจร้ายในการเอานักเรียนมายืนเผชิญหน้ากับสถานศึกษา แต่เวลาชุมนุมกลับไม่เห็นคนที่อยู่เบื้องหลัง วันนี้คนที่ได้รับผลกระทบ คือเด็กนักเรียน แล้วแกนนำที่จะมารับผลกระทบเรื่องนี้อยู่ไหน และหวังว่าเรื่องนี้จะสามารถเจรจาพูดคุยกับนักเรียนได้ เพราะหน้าที่หลักคือการเรียนหนังสือ” นายณัฏฐพลระบุ
    รมว.ศึกษาธิการยืนยันว่า ตนเองมีหน้าที่ในการรักษากฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ และกำลังพิจารณาความเหมาะสมเรื่องการแต่งกาย เชื่ออีกไม่นานจะแล้วเสร็จ เพราะยังติดปัญหาจะให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียนทั้งประเทศไม่ได้ เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับครูและผู้ปกครองว่าชุดที่นักเรียนใส่มีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ เพราะชุดอาจจะโป๊ หรือไม่เหมาะสมกับสถาน แต่มีความเป็นไปได้ในอนาคตจะให้แต่งชุดไปรเวทได้ 1 ครั้งต่อเดือน หรือ 1 ครั้งต่อเทอม ยืนยันว่าทุกปัญหาพร้อมรับฟังและพยายามแก้ไข แต่จะให้ทำทันทีถูกใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ และมั่นใจมีนักเรียนและผู้ปกครองมากกว่า 50% ยังสบายใจที่จะใส่ชุดนักเรียน
    ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการพัฒนาสื่อเสมือนจริง (AR) เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และโครงการพัฒนานวัตกรรมสื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งนายกฯ ได้ร่วมพูดคุยกับเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลสามเสน โรงเรียนพญาไท และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ว่า เป็นการถ่ายทอดให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของประเทศชาติ เกิดความรักและความกตัญญูต่อประเทศชาติ สร้างความเป็นปึกแผ่นของประเทศ เพราะเยาวชนคืออนาคตสำคัญของชาติ
    ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงเครื่องแบบนักเรียนว่า มีวัตถุประสงค์หลายประการ ส่วนหนึ่งคือเครื่องแบบนักเรียนยังช่วยน้องๆ นักเรียน ทำให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย หากเกิดเหตุอันตรายในที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองน้อยกว่าการแต่งชุดไปรเวทที่อาจจะต้องมีหลายชุดด้วย จากนั้นนายกฯ ร่วมถ่ายรูปเซลฟีกับนักเรียน พร้อมชูนิ้วสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้กำลังใจให้ทุกคน “สู้ สู้”
ไปม็อบอยากแต่ง นร.
    อดีตพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "นี่หรือตรรกะของเด็กเลว ตอนชุมนุมอยากแต่งชุดนักเรียน แต่เวลาเรียนจะแต่งชุดไปรเวท ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชุดนักเรียนที่ทุกคนในประเทศนี้ล้วนผ่านมาทั้งนั้น ไม่เห็นเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาใดๆ เลย ไม่ว่าประเทศนี้จะนายกฯ ซักกี่คนที่ผ่านมา ก็ล้วนแล้วแต่แต่งชุดนักเรียนเวลาไปโรงเรียนกันทั้งนั้น แต่ผู้ที่เรียกตนเองว่า เด็กเลว กลับไม่ยอมแต่งชุดนักเรียน
    เมื่อสมัครที่จะเป็นเด็กเลว เช่นนั้นผู้ใหญ่ดีๆ มีจิตกรุณา ควรจักช่วยกัน จัดดัดสันดานให้เด็กเลวได้มีจิตสำนึก ที่จักปรับตัวให้เข้ากับคนหมู่มากในสังคมนี้เสียบ้าง ไม่ใช่จะใช้กำลังมาบีบบังคับ คนหมู่มากให้เปลี่ยน เพื่อสนองตัณหาของตนเองอย่างที่ทำอยู่ เมื่อกล้าที่จะเรียกตนเองเป็นเด็กเลว ต้องกล้าที่จะรับทราบข้อกล่าวหาในการเป็นเด็กเลวที่ละเมิดกฎหมาย"
    วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @Thanathorn_FWP ระบุว่า “ชื่นชมในความกล้าหาญของนักเรียนที่ใส่ชุดปกติไปโรงเรียนทุกคนในวันนี้ วัฒนธรรมแห่งการกดขี่กำลังถูกทำลายในทุกที่ ช่วยกันห้ามไม่ให้มีใครถูกดำเนินคดี/ถูกไล่ออก หรือถูกลงโทษ เพียงเพราะยืนหยัดต่อสู้ระบอบอำนาจนิยม”
    นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ชุดนักเรียนไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่คือโครงสร้างอำนาจนิยมที่ทำให้เด็กไร้ตัวตน ถึงเวลาที่ต้องมีการปรับตัว คุณครูรวมถึงผู้ใหญ่ ควรเริ่มพูดคุยในการแต่งตัวของเขา เพื่อให้เกิดการแสดงความคิดเห็น รวมถึงเปิดพื้นที่บางวันให้เขาได้แสดงออกด้านการแต่งตัว ได้เป็นตัวเอง ให้เขารู้สึกมีตัวตน ไม่ใช่ไร้ตัวตนในชุดนักเรียน.