ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประกาศสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จีนสนใจจะพิจารณาเข้าเป็นสมาชิก CPTPP สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
เพราะจีนเพิ่งลงนามก่อตั้งเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก RCEP ก่อนหน้านั้นไม่นาน
RCEP คือ Regional Comprehensive Economic Partnership ที่มีสมาชิก 15 ประเทศ (รวมทั้งไทยและอาเซียนอื่นๆ) ที่มีจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และอาเซียน 10 ประเทศ
มีประชากรรวมกันกว่า 2,200 ล้านคน หรือเท่ากับ 1 ใน 3 ของโลก
และมีผลผลิตมวลรวมเท่ากับ 1 ใน 3 ของโลกเช่นกัน
อินเดียซึ่งเข้าร่วมเจรจาตั้งแต่แรกบอกว่ายังไม่พร้อมจะร่วม จึงขอรอไปก่อน
ส่วน CPTPP นั้นมาจาก TPP (Trans-Pacific Partnership) เดิมทีสหรัฐฯ ภายใต้บารัก โอบามา (ที่มีรองประธานาธิบดีขณะนั้นชื่อโจ ไบเดน) เป็นคนริเริ่มเพื่อตั้งเป็นเขตการค้าเสรี มีสมาชิกเริ่มต้น 12 ประเทศ
พอโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปีก่อน ก็ดึงเอาสหรัฐฯ ออกจาก TPP สมาชิกอื่นๆ ที่เหลืออยู่ก็เดินหน้า ปรับเรียกเสียใหม่ว่าเป็น CPTPP (โดยเพิ่ม C อันหมายถึง Comprehensive คือครอบคลุมหลายด้าน และ P คือ Progressive หรือก้าวหน้าให้มีความกระชับชัดเจนในเป้าหมายมากขึ้น)
การก่อตั้ง TPP เดิมโดยโอบามานั้นถูกมองว่าเป็นการสกัดจีน เพราะไม่เชิญชวนจีนเข้ามาร่วม
ขณะที่ RCEP นั้นก็ถูกขนานนามว่าเป็นเขตการค้าเสรีที่กันไม่ให้สหรัฐฯ เข้าร่วม เพราะมีจีนเป็นแกนนำทั้งๆ ที่อาเซียนยืนยันว่ากลุ่มนี้ตนเป็นผู้ริเริ่ม และไปชวนจีนมาเป็นสมาชิกก่อตั้ง
ไปๆ มาๆ ถูกมองว่าสองกลุ่มนี้เป็นการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
แต่เมื่อทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจาก TPP กลไกนี้ก็หยุดนิ่งไปพักใหญ่
ไทยเราไม่ได้เป็นสมาชิก CPTPP ยังอยู่ในกระบวนการถกแถลงกันว่ามีข้อดีข้อเสียอะไรสำหรับเราบ้าง
พอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ออกมาชัดว่าโจ ไบเดนจะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ก็เริ่มมีคนตั้งคำถามว่าอเมริกาจะกลับมา TPP หรือไม่
หรือไบเดนจะแยกไปตั้งกลุ่มใหม่โดยยังให้ความสำคัญกับเอเชีย เพราะเขาประกาศว่า America is Back! หรือสหรัฐฯ กลับมาคึกคักในเวทีโลกอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ยังไม่ทันที่ทรัมป์จะยอมประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ สี จิ้นผิงก็ประกาศบนเวทีประชุมสุดยอด APEC ประจำปีว่าจีนพร้อมจะพิจารณาเข้าร่วม CPTPP
สร้างความประหลาดใจไปทั่ว
ผมชวน ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร กูรูเรื่องเมืองจีนมาคุย เพื่อช่วยกันวิเคราะห์ว่าจีนกำลังเดินเกมอย่างไร จึงดูแล้วเหมือนมีการปรับกลยุทธ์ระดับโลกอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
"เกมนี้แสดงว่าสี จิ้นผิงไม่ธรรมดาจริงๆ" ดร.อาร์มบอก
ที่สี จิ้นผิงประกาศความสนใจให้จีนเข้าร่วม CPTPP นั้น ไม่ได้หมายความว่าปักกิ่งเข้ามาร่วมกลุ่มนี้แล้ว
เพราะหากจีนสนใจจริง กระบวนการขั้นตอนของการต่อรองเจรจายังต้องใช้เวลาอีกหลายปี
ประเด็นที่สำคัญคือ จีนประกาศเจตนารมณ์ที่จะเจรจาเพราะต้องมีการส่งเอกสารและต่อรองกันอีกยาวนานพอสมควร
แต่ที่สำคัญคือ สี จิ้นผิงส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมจะเข้าร่วมเจรจา
ก่อนหน้านี้นายกฯ หลี่ เค่อเฉียงก็ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้แบบกว้างๆ ว่า "เราก็สนใจทั้งนั้นแหละ..."
แต่ครั้งนี้สี จิ้นผิงไม่ได้ตอบคำถามเรื่องนี้ หากแต่เป็นการพูดออกมาเอง สะท้อนว่ามีเป้าประสงค์ชัดเจนที่จะเดินหมากใหม่นี้
สื่อจีนก็พาดหัวเรื่องนี้อย่างเอิกเกริก กลายเป็น "ไฮไลต์" ของคำปราศรัยผู้นำจีนบนเวที APEC
ท่านทูตจีนประจำสหรัฐฯ ก็ทวีตประเด็นนี้อย่างฉับพลันทันทีเช่นกัน
ชัดเจนว่านี่มิใช่เป็นเรื่องของความบังเอิญ...หากแต่เป็นก้าวย่างของสี จิ้นผิงที่คิดวางแผนมาแล้วอย่างละเอียด
พรุ่งนี้ว่ากันต่อแล้วสี จิ้นผิงจะวางจุดยืนของจีนอย่างไร เมื่อโจ ไบเดนเข้านั่งทำเนียบขาวแทนโดนัลด์ ทรัมป์
เกมการเมืองมหาอำนาจมีอันต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่แน่นอน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |