1 ธ.ค.63 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แต่งชุดไพรเวท(private)ไปโรงเรียน เรื่องนี้มีหลายมุมที่ต้องร่วมกันคิด จะห้ามเสียทีเดียวเด็กก็จะหาว่าหัวโบราณ หรือจะสนับสนุนเต็มที่ ก็น่าจะมีปัญหาตามมาเหมือนกัน ผมมีความเห็นว่า การแต่งกายของคนในโลกตะวันตก กับ โลกตะวันออกต่างกัน เพราะการแต่งกายมีวัฒนธรรมกำกับอยู่ด้วย เมื่อวัฒนธรรมต่างกันการแต่งกายก็ต่างกัน
ในยุโรป ความแตกต่างในเรื่องชนชั้นมีน้อย ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยมีน้อยกว่าในประเทศไทย การแต่งกายของนักเรียนในเมืองไทยส่วนหนึ่งก็ปิดช่องว่างตรงนี้ด้วย ไม่ว่า จน หรือ รวย ก็แต่งเหมือนกัน หากเราปล่อยเสรีให้นักเรียนแต่งอย่างไรก็ได้ ลูกคนรวยจะแต่งด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนม ลูกคนจนก็แต่งด้วยเสื้อผ้าราคา 199 ต่อไปเด็กจะแข่งขันกันตามระบบทุนนิยมที่มันครอบงำเด็ก วันนี้ เราเริ่มเห็นเด็กที่แต่งไพรเวท ใส่รองเท้าไนกี้ไปโรงเรียนกันแล้ว นั่นมันแพงกว่ารองเท้านักเรียนทั่วไปเยอะนะครับ(ผมเป็นคนช่างสังเกตนะ)
ข้อดีของเครื่องแบบนักเรียนอีกประการหนึ่งคือ ได้รับความคุ้มครองจากสาธารณะ ใครเห็นก็ต้องปกป้อง เราปกป้องเด็กแต่งเครื่องแบบนักเรียน เหมือนเราปกป้องพระที่ใส่จีวรเหลืองนั่นแหละ ผิดถูกไม่รู้ล่ะ แต่เครื่องแต่งกายก็คุ้มครองผู้สวมใส่ได้เหมือนกัน
สมัยผมเป็นรัฐมนตรี เคยคิดที่จะให้นักเรียนแต่งกายตามประเพณีท้องถิ่นสัปดาห์ละวัน เป็นการทดลอง แต่สถานการณ์ทางการเมืองช่วงนั้นมีความขัดแย้งรุนแรงยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ก็มีการยุบสภาเสียก่อน เรื่องการแต่งกายของนักเรียน ผมห่วงว่า มันจะทำให้ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยห่างออกจากกันมากขึ้นไปอีก แล้วเรื่องประหยัดนี่ ไม่ต้องพูดถึงผู้ปกครองเดือดร้อนแน่ และไม่รู้ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะจัดงบประมาณค่าเครื่องแบบให้อย่างไร คิดให้รอบคอบเถอะครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |