บุกยึดลูกเสือ พบสวนสัตว์ สวมทะเบียน


เพิ่มเพื่อน    


    กรมอุทยานฯ ตรวจสอบสวนสัตว์มุกดาฯ จ.มุกดาหาร ยึดลูกเสือโคร่ง 5 ตัว พบแล้ว 3 ตัวไม่มีหลักฐานการครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย เข้าแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา มีโทษทั้งจำ-ปรับ เผยอยู่ระหว่างตรวจดีเอ็นเอเสืออีก 1.5 พันตัวจากสวนสัตว์ 32 แห่งทั่วประเทศ
    เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมด้วยนายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ร่วมแถลงข่าวการตรวจสอบกิจการสวนสัตว์มุกดาสวนเสือและฟาร์ม ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร โดยนายประกิตกล่าวว่า ตามนโยบายของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้กำชับให้คุมเข้มเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้ดูแลในส่วนของสวนสัตว์เกี่ยวกับการให้อนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ได้ ซึ่งทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้ร่วมกับทีมเฉพาะกิจเหยี่ยวดง และพญาเสือ เข้าตรวจสอบสวนสัตว์มุกดาฯ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.62 เข้าตรวจยึดจับกุมสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ เต่าเหลือง และสัตว์ป่าต่างประเทศ 10 ชนิด รวม 44 ตัว อาทิ แพนดาแดง ค่าง 4  สี เป็นต้น แต่เนื่องจากกฎหมายตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ที่กรมอุทยานฯ บังคับใช้ในขณะนั้นไม่ได้คุ้มครองสัตว์ป่าจากต่างประเทศ ศาลจึงยกฟ้อง แต่ปัจจุบันกรมอุทยานฯ ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ที่สามารถครอบคลุมถึงสัตว์ป่าจากต่างประเทศได้แล้ว  
    นายประกิตกล่าวว่า การเข้าตรวจยึดดังกล่าว กรมอุทยานฯ ได้เก็บตัวอย่างเลือดของลูกเสือโคร่ง 5 ตัว เพื่อตรวจสอบพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ โดยเจ้าของสวนสัตว์มุกดาฯ ให้ข้อมูลว่า พ่อให้ลาภ และแม่ให้ทอง มีลูก 4 ตัว ชื่อข้าวยำ ข้าวกล่ำ ข้าวเจ้า และข้าวเหนียว เกิดเมื่อ 11 ส.ค.58 แต่ข้าวเหนียวได้ตายไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.62 โดยสวนสัตว์ยังเก็บซากข้าวเหนียวไว้ ส่วนลูกเสืออีก 3 ตัว ได้เจาะเลือดไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว ผลการตรวจจากศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มีผลรายงานตรงกันว่า ลูกเสือโคร่ง ชื่อ ข้าวยำ ข้าวกล่ำ และข้าวเจ้า ไม่มีความสัมพันธ์เป็นลูกเสือโคร่งของให้ลาภและให้ทอง ตามที่เจ้าของสวนสัตว์กล่าวอ้างแต่อย่างใด รวมทั้งนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของเสือโคร่งตัวอื่นภายในสวนสัตว์อีก 20 ตัว พบว่าไม่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ลูกเช่นกัน
    รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า จึงถือได้ว่าลูกเสือโคร่ง 3 ตัว ไม่มีหลักฐานได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 17 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 137 และฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามมาตรา 267 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ส่วนลูกเสืออีก 2 ตัว คือ ข้าวเม่า และข้าวเปลือก เป็นลูกของพ่อโตโต้ และแม่มะเฟือง ขณะนี้ยังรอผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออยู่ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือนน่าจะทราบผล อย่างไรก็ตาม ทางกรมอุทยานฯ ได้อายัดลูกเสือของกลางทั้ง 5 ตัว ไปดูแลรักษาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
    ด้านนายสมปองกล่าวว่า ปัจจุบันมีสวนสัตว์อยู่ทั้งหมด 49 แห่งทั่วประเทศ อยู่ในกรุงเทพฯ 4 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 45 แห่ง โดยมีสวนสัตว์ 32 แห่งที่มีเสือโคร่งอยู่ รวมทั้งสิ้น 1,511 ตัว ทางกรมจะเร่งตรวจสอบดีเอ็นเอเสือโคร่งในสวนสัตว์ทั้งหมด ซึ่งกรมอุทยานฯ มีฐานข้อมูลอยู่แล้วว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ หากไม่เชื่อมโยงกันก็แปลว่านำเสือจากธรรมชาติมาสวมรอย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"