จับตา 2 ธ.ค.ชี้ชะตา "บิ๊กตู่" อาศัยบ้านพักทหาร เจ้าตัวจัดคิวทัวร์สมุทรสงคราม “เพื่อไทย” พาเหรดฟันธง “ภูมิธรรม” บอกเป็นจุดท้าทายกระบวนยุติธรรม อ้างนักกฎหมายเชื่อไม่รอด รอวัดใจ “ลุงตู่” ไขก๊อกเอง
วันพุธที่ 2 ธันวาคมนี้ ในเวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ รวมทั้งออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่
ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าวนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานสภาฯ เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่ากรณี พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักของทางราชการทหาร เป็นที่พักอาศัยของตนเองและครอบครัว ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน โดยไม่เสียค่าเช่าให้ทางราชการทหาร ทั้งที่เกษียณอายุราชการมาตั้งแต่ 30 กันยายน 2557 อาจเข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 184(3) และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่
สำหรับวันดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการเดินทางตรวจราชการที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนริมคลองโฮมสเตย์ ตรวจเยี่ยมการทำน้ำตาลมะพร้าวแท้แม่กลอง กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงชุมชน กิจกรรมโคกหนองนาโมเดล และเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูมะพร้าวครบวงจรที่อัมพวา
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องนี้ว่า ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกำลังเป็นที่จับตามอง และเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่กระบวนการยุติธรรมไทยจะได้พิสูจน์ตัวเอง จากการพิจารณาผลการชี้ชะตา พล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับการเข้าพักอาศัยอยู่ในบ้านหลวง ใช้น้ำฟรี ไฟฟ้าฟรี และอยู่ฟรี ซึ่งหากว่ากันตามตัวบทกฎหมาย และผลการตัดสินพิจารณาคดีที่คล้ายคลึงกันในอดีต ในมุมมองของนักกฎหมายและนักวิชาการทางด้านนิติศาสตร์ ต่างเชื่อมั่นไปในทิศทางเดียวกันว่านายกฯ น่าจะหาเหตุผลมาชี้แจงเอาตัวรอดให้พ้นผิดได้ค่อนข้างยาก
“2 ธันวาคม 63 จึงเป็นอีกสถานการณ์สำคัญหนึ่งที่ท้าทาย และส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นต่อระบบกระบวนการยุติธรรม และสถาบันการเมืองของไทย นายกฯ ยังจะฝืนเดินหน้าต่อ หรือหยุดพอแค่นี้ เป็นคำถามสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องตอบตัวเองว่าจะยื้ออยู่ต่อไปแล้วทำให้สังคมไทย จะยิ่งถูกซ้ำเติม ตกต่ำลงทุกที หรือลาออกเพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคม เพื่อทำประโยชน์ให้ประเทศสักครั้งหนึ่งในชีวิต”
ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขอให้ศาลตัดสินเป็นไปตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม เพราะจะเป็นบรรทัดฐานของประเทศนี้ต่อไป หากมองทั้งด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์แล้ว ในกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องมีเหตุให้พ้นจากตำแหน่งจะเป็นประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นปัญหาและเดินหน้าต่อไปได้
“หากมีเหตุให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องหลุดจากตำแหน่งโดยทันที จะช่วยลบภาพของรัฐบาลที่สืบทอดมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์อยู่นาน เศรษฐกิจไทยจะยิ่งฟื้นยากขึ้นไปเรื่อยๆ และหาก พล.อ.ประยุทธ์หลุดออกจากตำแหน่ง ก็จะทำให้หยุดการชุมนุมได้ อีกทั้งทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น”
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในฐานะผู้ร้อง ก็จะแต่งตั้งตัวแทนไปรับฟังการพิจารณาคดีในวันดังกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |