โฆษกรัฐบาลยันคนละครึ่งเฟส 2 มาแน่ เผยมีร้านร่วมโครงการแล้ว 8.5 แสนร้านค้า ยอดการใช้จ่ายเฉียด 3 หมื่นล้านแล้ว กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจ พ่อค้าแม่ค้าแฮปปี้ยอดขายทะลัก เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่
เมื่้อวันที่ 28 พฤศจิกายน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันโครงการคนละครึ่งเตรียมเปิดเฟส 2 อย่างแน่นอน หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เนื่องจากสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้สิทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้อย่างชัดเจน และช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย หาบเร่แผงลอย พ่อค้าแม่ค้ารายเล็กได้อย่างแท้จริง ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนในระบบจากการใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการเรียนรู้ระบบเทคโนโลยีการใช้แอปพลิเคชันไปในตัวด้วย
โดยได้รับรายงานว่า ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.5 แสนร้านค้า มียอดการใช้จ่ายสะสม 28,609 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 14,599 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 14,010 ล้านบาท
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 และได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้รีบติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” พร้อมยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย โดยขอให้เริ่มใช้สิทธิ์ในการใช้จ่ายโดยเร็วภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์ เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
นอกจากนี้ ผู้ค้ายังสามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่องด้วยการลงทะเบียนและติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โดยหวังว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการทะลุ 1 ล้านร้านค้าภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติโครงการภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเริ่มเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์ได้ในเดือนมกราคม 2564
นายอนุชากล่าวอีกว่า เนื่องจากผู้ซื้อและผู้ขายมีความคุ้นเคยกับการใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใจวิธีการใช้งานว่าใช้ได้ไม่ยากอย่างที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นกังวล จึงทำให้มั่นใจว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ขอเตือนให้ระวังเรื่องการกระทำผิดด้วย เนื่องจากกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยมีการติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยได้ระงับสิทธิการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และระงับการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการนำส่งข้อมูลหลักฐานการกระทำความผิดให้แก่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อใช้สำหรับการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
"ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ที่เป็นการดำเนินการผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด ซึ่งจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปด้วย" โฆษกรัฐบาลกล่าว
กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “พ่อค้าแม่ค้าว่าไง...การขายในโครงการคนละครึ่ง” โดยเก็บข้อมูลจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า ร้านค้าที่ตอบแบบสอบถามมากที่สุดคือ ร้านอาหารทั่วไป คิดเป็นร้อยละ 44.3 รองลงมาคือร้านสะดวกซื้อ คิดเป็นร้อยละ 10.0 และร้านขายเครื่องดื่มและร้านขายเสื้อผ้ามีร้อยละ 9.7 เท่ากัน
เมื่อถามว่า โครงการคนละครึ่งช่วยทำให้ยอดขายเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 88.3 เห็นว่าช่วยทำให้ขายได้เพิ่มขึ้น (โดยในภาพรวมยอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 30.2) ส่วนร้อยละ 11.2 เห็นว่าขายได้เท่าเดิม และร้อยละ 0.5 เห็นว่าขายได้ลดลง (โดยในภาพรวมยอดขายลดลงเฉลี่ยร้อยละ 7.1)
ส่วนความเห็นต่อโครงการคนละครึ่งมีผลอย่างไรบ้าง นอกเหนือจากการกระตุ้นยอดขาย ส่วนใหญ่ร้อยละ 68.0 เห็นว่าทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น รองลงมาร้อยละ 61.2 เห็นว่าทำให้สะดวก รวดเร็วเวลาจ่ายเงิน และร้อยละ 57.3 เห็นว่าทำให้ใช้แอปพลิเคชันโอน-ถอนเงินเป็น
เมื่อถามความเห็นต่อภาพรวมโครงการคนละครึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศได้มากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.5 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ส่วนร้อยละ 35.8 เห็นว่าช่วยได้ระดับปานกลาง ขณะที่มีเพียงร้อยละ 0.7 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |