27 พ.ย.63 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชา Business Analytics and Intelligence และ Actuarial Science and Risk Management คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นของรัฐ (ราษฎร) หรือเป็นของพระมหากษัตริย์
แนววินิจฉัยนี้ง่ายนิดเดียว
2475 คณะราษฎรไปปล้นพระราชอำนาจมา แล้วก็ปล้นพระราชทรัพย์เข้ากระเป๋าตัวด้วย ตามวิสัยโจร มีสมาชิกคณะราษฎร รวยด้วยการซื้อทิ่ดินทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ไปในราคาถูกแสนถูกกันมากมาย
2479 ออกพระราชบัญญัติสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฉบับแรก มีผู้จัดการกองทุน ที่ตั้งหลังจากไปปล้นพระราชทรัพย์มา คือนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
แต่ก็ไม่กล้าฮุบ ได้แต่หาเศษหาเลย ตามวิสัย พรบ. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เขียนกำหนดไว้ชัดเจนทุกฉบับว่า ดอกผลและกำไรจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พระเจ้าแผ่นดินเป็นเจ้าของ จะทรงไปจับจ่ายใช้สอยได้
เอาละสิครับ รัฐบาลมาดูแล เป็นแค่ผู้จัดการกองทุน ไม่ใช่เจ้าของ คนรับผลประโยชน์สิครับคือเจ้าของ จะไปเรียกร้องอะไรเล่า
ไม่ใช่ของราษฎร ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่ประการใดครับ คนที่ได้รับผลตอบแทน ผลประโยชน์ มาตลอดนั่นแหละครับ เจ้าของตัวจริง เสียงจริง
ขืนมาเรียกร้องอย่างนี้ ใครเล่นหุ้น ผู้ดูแลพอร์ตฟอลิโอก็ฮุบหุ้นเราไปเป็นของตัวเองได้หมดอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่นะครับ
ยกตัวเช่น blind trust ของคุณธนาธร ที่ให้นักการเงินอย่างนายบย ไปบริหาร นายบย ก็แค่บริหาร จะยักยอกไปเป็นของตนก็ไม่ได้ จะรับผลประโยชน์แทนนายธนาธรก็ไม่ได้ เพราะยังเป็นของธนาธร ไม่ได้เป็นของ นาย บย
น้องๆ จะได้นึกออกครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |