ตร.ยันรัดกุมคดีสวมบัตรปชช.


เพิ่มเพื่อน    

ตำรวจแจงคดีสาวถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมบัตรประชาชน ทำตรงไปตรงมาไร้ข้อบกพร่อง ยันออกหมายเรียก 2 ครั้งไม่มาจึงออกหมายจับ "วิระชัย" เผยพบอีก 2 บัญชีรับโอนเงินเหยื่อที่ตาก ด้าน ผบช.ภ.6 สั่งตั้งคณะทำงานย้อนสอบใหม่หมด สมาคมธนาคารไทยบอกต้องรออีกครึ่งปีถึงจะนำระบบดิจิตอลยืนยันตัวบุคคลมาใช้
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเมื่อวันพุธ คดี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกคนร้ายสวมบัตรประชาชนแล้วนำไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายคนอื่นโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว ว่า เรื่องนี้สืบเนื่องจากวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก จ.ตาก ว่ามีกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งรู้จักทางเฟซบุ๊ก หลอกลวงให้ทำธุรกิจซื้อขายที่ดินในประเทศไทย โดยคนร้ายอ้างว่าได้ส่งเงินค่าซื้อที่ดินมายังประเทศไทย แต่ติดปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียม กลุ่มคนร้ายจึงแจ้งให้ผู้เสียหายรายดังกล่าวโอนเงินค่าธรรมเนียมกว่า 1,375,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ชื่อบัญชี “น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์” อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนจำนวนมาก ผู้เสียหายได้หลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 1,375,000 บาท  
    ต่อมาผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกลุ่มคนร้ายได้ จึงมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย รวมถึงเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าว ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหาย, ขอเอกสารคำขอเปิดบัญชี รายการเดินบัญชีจากธนาคาร จากนั้นได้ออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีธนาคารคือ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ เพื่อให้มาให้การเกี่ยวกับบัญชีธนาคารดังกล่าว แต่ น.ส.ณิชาไม่ได้มาพบหรือแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดตาก และศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของบัญชีคือ น.ส.ณิชา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” 
       ต่อมาวันที่ 4 ม.ค.61 น.ส.ณิชาได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามและถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.บ้านตาก สถานที่เกิดเหตุ ซึ่งในทางคดีพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ได้ดำเนินการสอบสวน น.ส.ณิชา ตามกระบวนการของกฎหมายทุกประการ ได้บันทึกคำให้การผู้ต้องหาพร้อมทั้งได้รวบรวมพยานหลักฐานที่ น.ส.ณิชานำมาให้ไว้ทุกอย่างแล้ว แต่เนื่องจาก น.ส.ณิชา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตาก พนักงานสอบสวนจึงต้องส่งตัวไปยังศาลจังหวัดตากตามกระบวนการของกฎหมายที่กำหนดไว้ ส่วนศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นอยู่ในดุลพินิจของศาล ขณะที่การสอบสวนอยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลจากธนาคารและสอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวกับรายละเอียดการเปิดบัญชี รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดมายืนยันอีกชั้นหนึ่ง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการต่อไป
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า กรณีคนร้ายนำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีนั้น กองปราบได้รับคำร้องทุกข์จาก น.ส.ณิชาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้แยกสำนวนการสอบสวนออกเป็นอีกคดีหนึ่ง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชาไปเปิดบัญชีกับธนาคาร จำนวน 3 ธนาคาร ส่วนที่เหลืออีก 4 ธนาคาร ซึ่ง น.ส.ณิชาเคยไปแจ้งความไว้กับสถานีตำรวจต่างๆ นั้น อยู่ระหว่างขอโอนคดีจากสถานีตำรวจดังกล่าวมารวบรวมเป็นคดีเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการสืบสวนสอบสวนในการติดตามกลุ่มคนร้าย
    "ในส่วนคดีของ สภ.บ้านตาก เมื่อ น.ส.ณิชาตกเป็นผู้ต้องหาและได้แสดงพยานหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนมีหน้าที่พิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์ตามพยานหลักฐานที่ผู้ต้องหานำมาให้พนักงานสอบสวนอยู่แล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และขอยืนยันว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามพยานหลักฐาน ด้วยความตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายผู้เสียหายที่สูญเสียเงินจากการถูกหลอก และ น.ส.ณิชาที่ถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีด้วย" พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว
    รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ประชาชนที่ทำบัตรประชาชนสูญหาย ให้รีบดำเนินการทำบัตรประชาชนใหม่ทันที ซึ่งเมื่อทำบัตรประชาชนใหม่แล้ว บัตรเก่าจะถูกระงับการใช้งาน  หากท่านมีการทำธุรกรรมทางการเงิน ให้รีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันบัตรหายที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน และให้นำบันทึกประจำวันดังกล่าวไปแจ้งกับธนาคารเพื่อเป็นการป้องกันการถูกแอบอ้าง หรือสวมสิทธิ์บัตรประชาชนของท่านอีกทางหนึ่ง หากท่านไม่มั่นใจว่าบัตรประชาชนของท่านจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพไปเปิดบัญชีนำไปหลอกลวงบุคคลอื่นหรือไม่ สามารถติดต่อขอตรวจสอบข้อมูลได้ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1155 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2251-9793 ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สายด่วน 1710
    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบเพื่อแจ้งความดำเนินคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่นำบัตรประชาชนใบเก่าของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคาร หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีในชื่อตนเอง ทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็น เพียงแต่ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายเมื่อวันที่ 6 ต.ค.60 และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันก่อนทำบัตรประชาชนใหม่ที่ศูนย์บริการประชาชน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
    พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ม.ค.นี้ ว่า ขณะนี้ประสานขอกล้องวงจรปิดกับธนาคารทั้ง 7 แห่ง ที่พบว่าถูกเปิดบัญชีโดยชื่อของ น.ส.ณิชา มาตรวจสอบว่าผู้ไปเปิดบัญชีเป็นหญิงสาวคนเดียวกับที่ปรากฏในภาพของธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ที่ น.ส.ณิชานำมามอบให้หรือไม่ 
    ต่อมาในช่วงบ่าย ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จ.ตาก และทีมพนักงานสอบสวน ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เพื่อคลี่คลายคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงปลายปี 2560 ขบวนการคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าชื่อ นายลารี่ สมิธ ชาวอังกฤษ ติดต่อนางกาสิณี ยะเมา ทางเฟซบุ๊ก อ้างว่าต้องการซื้อที่ดินใน จ.ตาก ขอให้นางกาสิณีเป็นนายหน้าซื้อที่ดิน โดยนายราลี่จะส่งเงินจำนวน 30 ล้านบาท จากอังกฤษทางพัสดุไปรษณีย์มาให้ผู้เสียหาย แต่มีค่าธรรมเนียม 1 ล้าน 3 แสนบาท ที่ผู้เสียหายต้องจ่ายล่วงหน้าก่อน จากนั้นขบวนการคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โทร.หานางกาสิณี แจ้งถึงค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน 1,370,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร 3 แห่ง ประกอบด้วย บัญชีของ น.ส.ณิชา 340,000 บาท 5 ครั้ง บัญชีนายขวัญ และบัญชีนายธีรภัทรนนท์ งามวงษ์ ด้วย เมื่อติดต่อกลับไปก็ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.นิชา
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า พล.ต.ต.ปริญญาได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เนื่องจาก น.ส.ณิชา ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ต้องหาเปิดบัญชี เป็นผู้เสียหายแจ้งความถูกนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร จึงต้องบูรณาการการสอบสวน โดยให้ สภ.บ้านตาก ทำสำนวนคดี และขยายผลไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จ.ตาก ส่วนกองปราบปรามขยายผลในพื้นที่จังหวัดอื่น เนื่องจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ายังมีการเปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายอีก 2 บัญชี คือบัญชีชื่อ นายขวัญ ทองน้อย สาขาบิ๊กซีติวานนท์ รับโอนเงินจากผู้เสียหาย 5 ครั้ง รวม 400,000 บาท และบัญชีชื่อนาย ธีรภัทร์นนท์ งามวงษ์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลงามวงศ์วาน รับโอนเงิน 2 ครั้ง รวม 630,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าบุคคลทั้ง 2 มีภูมิลำเนาใด และอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
    "ยืนยันการดำเนินคดีกับ น.ส.ณิชา ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีสิ่งใดบกพร่อง เหตุที่ น.ส.ณิชาถูกออกหมายจับ เนื่องจากพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง มีระยะเวลาประมาน 2 เดือน แต่กลับเงียบหาย พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติศาลจังหวัดตากออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน"
    รอง ผบ.ตร.เปิดเผยด้วยว่า พนักงานสอบสวนได้ประสานขอข้อมูลจากธนาคาร 9 แห่ง ที่มีชื่อ น.ส.ณิชาเปิดบัญชี แต่พบว่าธนาคารบางแห่งไม่ให้ความร่วมมือ โดยอ้างว่าต้องขออนุมัติจากสำนักงานใหญ่ วันนี้ตนจึงจะประสานไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อขอข้อมูลด้วยตนเองหลายแห่ง 
    ยังมีคำชี้แจงจาก พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ. 6 ว่าคดี น.ส.ณิชา ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง ก่อนที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับ และ น.ส.ณิชาได้ไปแสดงตนที่กองปราบ ทางตำรวจ สภ.บ้านตาก จึงนำรถไปรับตัวมาทันที เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายที่ถูกหลอกโอนเงิน จะร้องว่าทำคดีไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม เมื่อ น.ส.ณิชายืนยันว่าถูกสวมบัตรประชาชน ตนก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ โดยมีรอง ผบก.ภ.ตากเป็นประธาน หากตรวจสอบแล้ว น.ส.ณิชา ไม่กระทำผิดจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะถอนคดีนี้ได้
    พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. กล่าวว่า ธนาคารที่ให้มีการเปิดบัญชีในนาม น.ส.ณิชา จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้น ถ้าในทางคดีอาญาต้องดูเจตนาร่วมกระทำผิดหรือไม่ หรือถ้าเป็นความบกพร่องก็ต้องไปรับผิดทางคดีแพ่ง แต่เชื่อว่าธนาคารไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์เสียหาย เสียชื่อเสียง น่าจะเป็นการกระทำของคนร้ายมากกว่าที่ตั้งใจมาหลอกธนาคาร .
    ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกเรื่องบัตรประชาชน ได้มีแนวทาง หรือการลงนามเอ็มโอยูกับทุกๆ ธนาคารอยู่แล้ว เพื่อให้การเปิดบัญชีธนาคารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการผิดพลาด เหลือเพียงแต่ทางธนาคารควรที่จะดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวให้เต็มรูปแบบ ถ้าจำเป็นต้องมีการพิสูจน์บุคคลในขั้นต้น ทางกระทรวงมหาดไทยก็มีเครื่องอ่านพิสูจน์บุคคลอยู่ทุกสาขา เราเปิดให้อยู่แล้ว หรือหากต้องการข้อมูลที่ลึกกว่านั้น ก็จะต้องมีโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ติดต่อประสานกัน ซึ่งก็สามารถทำได้ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น ทางกระทรวงมหาดไทยจะมีการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เราทำดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องดำเนินการอย่างอื่น เพราะเรามีสำนักทะเบียนที่ออกบัตรประชาชนได้ทุกแห่ง ก็มีความเรียบร้อยอยู่แล้ว และเท่าที่ตนตรวจสอบ ได้รับการยืนยันว่าดำเนินการมาตั้งนานแล้ว แต่ถึงจะมีระบบแล้ว ก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งเรามีสถิติหมด ลองขอข้อมูลดูว่าธนาคารใดมีการตรวจสอบบ้าง ธนาคารที่ถูกตรวจสอบมากคือธนาคารต่างประเทศในไทย แต่ธนาคารไทยไม่ค่อยได้ตรวจสอบ ไม่ตรวจสอบแม้กระทั่งการยืนยันตัวบุคคล ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า น่าจะต้องมีการตรวจสอบ ถ้าต้องการตรวจสอบลึกไปกว่านั้นว่าบัตรประชาชนยกเลิกไปแล้วหรือไม่ ก็จะต้องเป็นการประสานกันในระดับโปรแกรม ซอฟต์แวร์ 
    นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยจะนำระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ National Digital Identity เข้ามาใช้ในสาขาของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทย โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง มหาดไทย สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังหารือกันอยู่ สำหรับงบลงทุนมาจากทุกภาคส่วน คาดว่าจะนำระบบดังกล่าวมาใช้ในช่วงครึ่งปีหลังปีของปีนี้ สามารถป้องกันการทุจริตได้อย่างรัดกุม
    นายปรีดีกล่าวว่า สมาคมยังได้กำชับให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งเข้มงวดในเรื่องตรวจสอบตัวแทนบุคคลที่มาเปิดบัญชีใหม่มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้การบริการช้าบ้าง และการติดต่อกับธนาคาร ประชาชนต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนใช้บริการ โดยการเปิดบัญชีใหม่แต่ละครั้ง พนักงานจะตรวจสอบขอดูบัตรประชาชน และนำบัตรเข้าเครื่องอ่านข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูลก่อนที่จะเปิดบัญชีให้ลูกค้า" 
    "ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายต้องการให้ธนาคารรับผิดชอบนั้น ธนาคารต้องพิจารณาตามกระบวนการ แต่กรณีนี้บุคคลที่เป็นผู้เสียหายไม่ได้รับความเสียหายทางการเงิน" นายปรีดีกล่าวถึง น.ส.ณิชาที่ตกเป็นผู้ต้องหา หลังมีผู้สวมบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารต้มตุ๋นเหยื่อรายอื่น. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"