รถตู้รับส่งนักเรียนหวิดก่อเหตุสยอง รับเด็กชั้นอนุบาล-ประถมไปส่งโรงเรียนท่ามกลางฝนหนัก คนขับปิดกระจกแต่ไม่เปิดแอร์ ทำเด็กเล็ก 7 คนหวิดช็อกหมดสติ ตรวจสอบเป็นรถเถื่อนทั้งดัดแปลง เจอหลายข้อหา
    เช้าวันที่ 10 มกราคมนี้ ศูนย์วิทยุสมาคมอยุธยารวมใจ รับแจ้งนักเรียนหลายคนเป็นลมใกล้หมดสติอยู่ภายในรถตู้รับส่งนักเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนประชาศึกษา หมู่ 1 ต.หัวรอ อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานรถพยาบาลของศูนย์กู้ชีพ รพ.พระนครศรีอยุธยา ให้การช่วยเหลือ พบนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมเป็นลม 7 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลก่อนนำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาการปลอดภัยแล้ว สามารถกลับบ้านได้ ส่วนรถตู้คันเกิดเหตุ หมายเลขทะเบียน นค-5959 พระนครศรีอยุธยา มีนางวนารี จินดารัตน์ อายุ 52 ปี เป็นคนขับ 
    นางอัมพร แสนสุข รองผู้อำนวยการโรงเรียนประชาศึกษา เปิดเผยว่า รถตู้คันดังกล่าวรับนักเรียนมาจากย่านวัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และแวะรับมาตลอดทาง จนถึงโรงเรียน เมื่อครูที่คอยรับพบว่าเด็กมีอาการสะลึมสะลือ เหมือนง่วงนอน และจะเป็นลม จึงรีบนำลงมาจากรถแล้วช่วยกันเอายาดมให้ดม ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ประสานหน่วยกู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจมารับไปโรงพยาบาล จากการตรวจสอบพบว่ารถตู้คันนี้ปกติจะวิ่งรับส่งนักเรียนด้วยการเปิดกระจกตลอดทาง แต่เช้าก่อนเกิดเหตุฝนตกหนัก คนขับรถจึงปิดกระจกโดยไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ ทำให้เด็กอึดอัดจนจะเป็นลมดังกล่าว ขณะที่นายศพงษ์ ขอพร อายุ 38 ปี ผู้ปกครองเด็กนักเรียน กล่าวว่า เคยได้ยินเด็กๆ บ่นก่อนหน้านี้ว่านั่งรถตู้มาแล้วร้อน เพราะคนขับไม่ค่อยเปิดแอร์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุภายในรถมีเด็กนักเรียนจำนวนมาก เมื่อรถวิ่งโดยไม่เปิดแอร์จึงทำให้อากาศไม่เพียงพอ 
    พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการสอบสวนนางวนารี ทราบว่ารับนักเรียนจาก อ.อุทัย เพื่อไปส่งที่โรงเรียนประชาศึกษา ซึ่งทุกครั้งจะเปิดกระจกเพื่อระบายอากาศและเปิดพัดลมภายในรถ แต่วันนี้ฝนตกหนักและอากาศเย็น จึงปิดกระจกและเปิดแอร์พร้อมพัดลม แต่เนื่องจากสภาพรถเก่า เมื่อเปิดแอร์ทำให้เครื่องฉุดกำลังรถทำให้กระตุก จึงได้ปิดแอร์เป็นระยะๆ และเปิดพัดลมในรถแทน จนมาส่งเด็กถึงโรงเรียนพบว่าเด็กนักเรียนมีอาการเวียนศีรษะ จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ  
    ต่อมานางอัจฉรา เกษณียบุตร์ ขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าไม่ได้แจ้งขออนุญาตต่อสำนักงานขนส่งจังหวัดเพื่อใช้รับส่งนักเรียน และไม่พบการรั่วของแก๊สระบบเชื้อเพลิง ที่ผ่านมาการวิ่งรับ-ส่ง เปิดกระจกหน้าต่างและพัดลมในรถแทนการเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่วันนี้มีฝนตกตลอดทาง คนขับรถจึงปิดกระจกและไม่ได้เปิดพัดลม เพราะเห็นว่าอากาศเย็น คาดว่าอากาศในรถไม่หมุนเวียน ทำให้นักเรียนเกือบหมดสติ กรณีนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และดัดแปลงสภาพรถยนต์ รวมถึงใช้รถยนต์ผิดประเภท
    ต่อมานางอัจฉราได้เรียกเจ้าของรถตู้มาแจ้งข้อกล่าวหาใช้รถยนต์ผิดประเภท เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท ดัดแปลงรถยนต์อีก 1 ข้อหา ปรับ 2,000 บาท.