ครม.เห็นชอบต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อีก 45 วัน ยาวไปถึง 15 ม.ค.64 "อนุทิน" แจงงบ 6 พันล้านบาทผลิตวัคซีนในไทยสูงกว่า ตปท. เหตุรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด "ศบค." เผยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย "ตาก" คุมเข้มชายแดนเมียนมา
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 - 15 ม.ค.64 ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เสนอให้มีการต่ออายุประกาศตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 8 เป็นเวลา 45 วัน เพื่อควบคุมโรคและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงกรณีการคำนวณค่าผลิตวัคซีนของไทยที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศว่า มีค่าดำเนินการของกรมควบคุมโรค ค่าหลอด ค่าไซรินจ์ ค่าเข็มฉีดยา ค่านำวัคซีนไปฉีด เพราะเวลาวัคซีนมาถึงเมืองไทยมาเป็นขวด จึงต้องมีค่าดำเนินการมากมาย สรุปว่าเงินงบประมาณจำนวนกว่า 6 พันล้านบาทนั้นครอบคลุมไปหมดแล้ว ไม่ใช่แค่ค่าของอย่างเดียว
"เวลานี้เข้าใจว่ามีหลายสถาบันก็ทำวัคซีนประเภท mRNA อยู่ รวมไปถึงวัคซีนที่สถาบันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเขาได้วิจัยอยู่ แต่ที่เราได้จัดหาไปแล้วก็คือวัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา" นายอนุทินกล่าว
ถามว่าทีมงานบริษัทไฟเซอร์จะมาพบนายกรัฐมนตรี จะเข้าหารือด้วยหรือไม่ในประเด็นเรื่องการจัดหาวัคซีน นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯ ได้เรียกเข้าไปพบเหมือนกัน แต่ตอนนี้ต้องขอชี้แจงก่อนว่า ณ เวลานี้เราได้มีข้อตกลงร่วมกันกับบริษัท แอสตราเซเนกา และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในการร่วมลงทุนและพัฒนา ซึ่งสิ่งที่เราได้จากการร่วมลงทุนจัดหาและพัฒนาก็คือ ราคาอยู่บนหลักการ No Profit No Loss Principle หรือเป็นหลักการการไม่แสวงหาผลกำไร โดยเขาจะขายในราคาต้นทุน ในราคาต่ำ โดยอยู่ที่ราคาประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (151 บาท) ต่อหลอด ถ้าเทียบกับวัคซีนจากบริษัทอื่นๆ อาทิ จากไฟเซอร์ หรือจากบริษัท ซิโนแวก (SinoVac) ก็ปรากฏว่ายังมีราคาที่สูงอยู่ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าที่ราคาสูงเพราะเราไม่ได้ไปร่วมอะไรกับเขา
"ถ้าหากเราสามารถครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงได้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปจองจากที่อื่น และก็ในเรื่องวัคซีน mRNA เราก็ยังสนับสนุนอยู่ ทั้งการทำงานของคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ เขาก็ยังดำเนินการอยู่ ซึ่งเราก็ยังคงจะมีช่องทางในการจัดหาวัคซีนตรงนี้ด้วย" นายอนุทินกล่าว
ด้านศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน โดยมาจากเยอรมนี 1 ราย เลบานอน 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สาธารณรัฐคอซอวอ 1 ราย และกาตาร์ 1 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 3,920 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,454 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,466 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 5 ราย รวมเป็น 3,766 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 94 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่แนวชายแดนทั้งในเขต 10 จังหวัดที่ติดกับประเทศเมียนมา และพื้นที่ชายแดนประเทศมาเลเซียว่า สธ.ได้สุ่มตรวจหาเชื้อเชิงรุกตามพื้นที่แนวชายแดนอยู่เป็นระยะ ทำให้สามารถตรวจพบและดักจับผู้ติดเชื้อที่เดินทางข้ามแดนเข้ามาได้อย่างทันท่วงที และส่งผู้ติดเชื้อกลับประเทศต้นทางหรือเข้าสู่ระบบการรักษาป้องกันการนำเชื้อมาแพร่สู่คนในชุมชน นับเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19 และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ" ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไปกล่าว
ส่วน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการสอบสวนโรคในผู้ป่วยโควิด-19 เป็นแรงงานชายและนักเรียนหญิงชาวเมียนมาที่จังหวัดตากว่า ผลสอบสวนโรคกรณีแรงงานชาวเมียนมาทราบว่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว จึงคาดว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ แต่อาจเป็นการติดแนวชายแดนหรือติดจากเพื่อนชาวเมียนมาก็ได้ ซึ่งต้องรอผลการตรวจยืนยันอีกครั้ง
"ในศูนย์อพยพที่อยู่ค่อนข้างรัดกุมพอสมควร ขณะนี้ได้มีการประสานกระทรวงมหาดไทย องค์กรนานาชาติ ให้ร่วมดูแลพื้นที่ดังกล่าวอย่างเข้มงวดแล้ว" นพ.โอภาสกล่าว
รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า สำหรับการสอบสวนโรคนักเรียนหญิงชาวเมียนมา มีความชัดเจนว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อมาจากฝั่งเมียนมา เพราะว่าเป็นลูกครึ่งไทย-เมียนมา และมีประวัติเดินทางไปเมียนมามาก่อน
ที่ จ.ตาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบพื้นที่พักพิงบ้านอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวนกว่า 7,000 คน ต่างเก็บตัวอยู่ในบ้านพักกระท่อมและไม่ออกจากบ้านไปไหน หลังจากที่ฝ่ายปกครองและสาธารณสุขอำเภอพบพระ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านอุ้มเปี้ยมพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้ลี้ภัยวัย 48 ปี 1 ราย และได้นำส่งโรงพยาบาลแม่สอด พร้อมกักบริเวณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้ลี้ภัยไปแล้ว
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า เหตุการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าประเทศมาแล้วก็มาอยู่ในศูนย์พักพิง 1 ราย และส่งต่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอดนั้น เราได้ปฏิบัติงานบูรณาการร่วมกันทั้งฝ่ายความมั่นคงกับฝ่ายปกครอง เพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่สุดในทุกมาตรการ โดยจังหวัดได้ให้มีการเพิ่มลวดหนามหีบเพลงเพื่อเป็นการป้องกัน จัดชุดลาดตระเวนป้องกันคนที่จะลักลอบเข้ามาในพื้นที่ ในส่วนของการล็อกดาวน์หมู่บ้านเราปิดเป็นโซนๆ ห้ามเดินทางไปมาข้ามหมู่บ้านในศูนย์อพยพ ไม่ออกมาภายนอก สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
"การตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก บุคคลที่อยู่ในศูนย์ฯ กว่า 100 คนผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด และเรายังได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ในภาพรวมของในศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ รวมถึงศูนย์พักพิงอีก 2 แห่งของจังหวัดตาก ที่อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง ได้สั่งเพิ่มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ให้เข้มข้นขึ้นเพราะมีผู้อพยพในศูนย์อพยพเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ได้มีการสั่งการลงไปในทุกอำเภอ ฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด ทหาร ตำรวจ ชุด ชรบ.ให้เพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่ยังอยู่ในประเทศไทยทั้งหมดที่เดินทางเข้าออกมาจังหวัดตาก" นายพงศ์รัตน์กล่าว
ผู้ว่าฯ จ.ตากกล่าวด้วยว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาทำธุระหรือจะมาเที่ยวจังหวัดตาก ยังคงมาได้ตามปกติ แต่ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ จังหวัดตากเรายังเป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่รอท่านมาเที่ยวชม เช่น น้ำตกทีลอซู ธรรมชาติที่สวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกหลายแห่งยังรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านมาเที่ยวที่จังหวัดตาก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |