4 พ.ค. 2561 - บอร์ด ธ.ก.ส. ไฟเขียวผ่าตัดองค์กรครั้งใหญ่ ดีเดย์ 1 ก.ค. นี้ หวังให้สอดรับกับภารกิจรัฐบาล เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แก้จนเกษตรกร พัฒนาเอสเอ็มอี พร้อมสั่งเพิ่มส่วนงานการตลาดและท่องเที่ยวชุมชน ดึงสินค้าเกษตรขึ้นขายออนไลน์ตัดตอนพ่อค้าคนกลาง ลุยงานด้านดิจิทัลหวังเดินหน้าสู่ยุค 4.0 ฟุ้งปี 60 ปล่อยกู้ทะลุเพดานแตะ 9 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าหมายผลงานปี 61 ปล่อยสินเชื่อเพิ่มที่ 9.3 หมื่นล้านบาท
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้เห็นชอบการปรับโครงสร้างธนาคารครั้งใหญ่ ให้สอดรับกับภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการแก่ธนาคาร โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ด้าน ได้แก่ การบริการโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เน้นการให้บริการทางการเงินและช่วยเหลือลูกค้า 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเอสเอ็มอีเกษตร การสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี (สมาร์ทฟาร์เมอร์) และเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้พ้นจากเส้นความยากจน
ทั้งนี้ ยังได้มีการเพิ่มส่วนงานการตลาดลูกค้าและท่องเที่ยวชุมชนเพื่อพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวและสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรระดับท้องถิ่น โดยมีภารกิจหลัก 2 ด้าน คือ การพัฒนาสินค้าในระดับชุมชนให้มีศักยภาพและสามารถจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ได้ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถขายสินค้าได้ถึงผู้บริโภคโดยตรงไม่ต้องผ่านคนกลาง ตลอดจนส่งเสริมกลุ่มชาวบ้านที่มีความเข้มแข็งในท้องถิ่น ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังปรับโครงสร้าง ธ.ก.ส.ให้รองรับกระแสดิจิทัลที่กำลังมาแรง โดยมีการปรับโครงสร้างสายงานด้านเทคโนโลยีใหม่ให้มีความพร้อมในการนำ ธ.ก.ส.ไปสู่ยุค 4.0 ตลอดจนพัฒนาช่องทางการขาย เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่น ธ.ก.ส.เอ โมบาย สำหรับให้บริการการเงินที่หลากหลาย การให้ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ตลอดจนให้สามารถนำสินค้าของตัวเองไปจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการใช้ Big Data เพื่อบริหารข้อมูลตลอดห่วงโซ่การผลิต การให้บริการการเงิน
และส่วนสุดท้ายที่ ธ.ก.ส.มีการปรับปรุงคือการปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ซึ่งเน้นให้มีโครงสร้างการบริหารที่ถ่วงดุลกัน ตรวจสอบกันเองได้ เพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน เช่น ฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อควรแยกออกจากฝ่ายดูแลลูกค้า รวมถึงการปรับโครงสร้างระดับสาขา เช่น จากเดิมจะให้สาขาทำหน้าที่ดูแลในทุกเรื่อง แต่ต่อไปหากเป็นงานที่มีความซับซ้อนจากแยกออกมาให้มีฝ่ายทำงานโดยเฉพาะ
“การปรับโครงสร้างใหม่นี้จะมีการปรับย้ายสายงาน หรือปรับเพิ่มบางหน่วยงานขึ้นมาให้สอดรับกับภารกิจ และกลุ่มลูกค้าที่ดูแล เพราะที่ผ่านมาโครงสร้างเดิมอาจมีบางฝ่ายที่ไม่ได้อยู่ด้วยงาน ทำให้มีความล่าช้า ดังนั้นเมื่อมีการปรับโครงสร้างแล้วจะช่วยให้การบริหารคล่องตัวมากขึ้น และลูกค้าก็ประโยชน์ได้รับบริการที่สะดวกสบายกว่าเดิม เช่น กระบวนการขอสินเชื่อ การพิจารณาก็จะไวขึ้น ซึ่งในโครงสร้างงานใหม่นี้จะเริ่มมีผลใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป” นายสมศักดิ์ กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า แผนการดำเนินงานของธ.ก.ส.ปีบัญชี 2561 (1 เม.ย.61 – 31 มี.ค.62) ได้ตั้งเป้าหมาย การเป็นศูนย์กลางทางการเงินภาคการเกษตรและภาคชนบท โดยวางเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มขึ้น 9.3 หมื่นล้านบาท เงินฝากเพิ่มขึ้น 5.75 หมื่นล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 4.8 พันล้านบาท หนี้ที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน หรือหนี้เสียไม่เกิน 4% คุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น 85% มีกำไรสุทธิกว่า 8 พันล้านบาท
ส่วนผลดำเนินงานของธ.ก.ส.ในรอบปีบัญชี 2560 (1 เม.ย.60-31 มี.ค.61) ธนาคารสามารถดำเนินงานได้สูงกว่าเป้าหมาย ทั้งการให้สินเชื่อที่ปล่อยเพิ่มได้ 9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินฝากมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1.2 แสนล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เพียง 5.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีนี้ราคาข้าวหอมมะลิราคาดีทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น จึงทำให้ยอดหนี้เสียของธ.ก.ส.อยู่ระดับ 4%
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |