สัปดาห์หน้าวันพุธที่ 2 ธ.ค.นี้แล้ว กับการลุ้นผลการลงมติของที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในคดี บ้านพักทหาร ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-รมว.กลาโหม ที่เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก-อดีตหัวหน้า คสช.

                อันเป็นการตัดสินคดีที่ออกมาในช่วงสถานการณ์การเมืองกำลังร้อนระอุ กับสถานการณ์ม็อบ 3 นิ้ว ที่ดูแล้วคงไม่จบง่ายๆ และมีแนวโน้มแตกหักได้ทุกเมื่อ ชนิดที่ตอนจบของสถานการณ์สามารถออกหัว-ออกก้อยได้ทุกหน้า จนทำให้เรื่อง คดีบ้านพักทหารของบิ๊กตู่ เลยเข้าไปเป็นหนึ่งในข่าวลือทางการเมืองในเวลานี้ และคงหนักขึ้นเมื่อใกล้ถึง 2 ธ.ค.

                เพราะคดีนี้ หากศาล รธน.เสียงข้างมากเห็นว่าบิ๊กตู่ ที่เกษียณอายุราชการจาก ผบ.ทบ.ตั้งแต่กันยายน 2557 แล้ว แต่ไม่ยอมย้ายออก จึงเป็นการทำผิด รธน.ในเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ พลเอกประยุทธ์ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ทันที และทำให้รัฐบาลสิ้นสภาพไปด้วย กลายเป็นรัฐบาลรักษาการไป แถมไม่พอ บิ๊กตู่ต้อง เว้นวรรคการเมือง 2 ปี หากไม่รอด อันเป็นเรื่องที่ รธน.ฉบับปัจจุบันเขียนหลักเกณฑ์นี้ขึ้นมาใหม่ แต่หากศาล รธน.วินิจฉัยว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ทำผิดระเบียบ ไม่มีพฤติการณ์ที่ขัด รธน. ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ขัดกัน ประเทศไทยก็ยังมีนายกฯ ชื่อพลเอกประยุทธ์ต่อไป

                เมื่อไปสแกนความเป็นไปของคดีบ้านพักทหารดังกล่าวพบว่า เป็นคำร้องที่ฝ่ายค้านยื่นคำร้องหลังเสร็จสิ้นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยยื่นผ่านประธานสภาฯ เพื่อขอให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณียังอาศัยบ้านพักของข้าราชการทหาร

และหลังรับคำร้อง ศาล รธน.ก็มีการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการให้ทั้ง 2 ฝ่าย คือผู้ร้องคือพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ที่ปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรค กับพลเอกประยุทธ์ ในฐานะผู้ถูกร้อง ส่งพยานหลักฐาน โดยเฉพาะระเบียบ-ข้อกฎหมายต่างๆ มาให้ศาล รธน.วินิจฉัย โดยคำร้องคดีนี้ศาลไม่ได้มีการเปิดห้องไต่สวนพิจารณาคดีแต่อย่างใด

                จนต่อมา เมื่อ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมตุลาการศาล รธน.พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะพิจารณาวินิฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในวันพุธที่ 2 ธ.ค.63 เวลา 15.00 น.

คำร้องคดีดังกล่าว ข้อกฎหมายที่ตุลาการศาล รธน.จะนำมาพิจารณาลงมติวินิจฉัย เพื่อตัดสินว่า "บิ๊กตู่" ผิดหรือไม่ผิด มีพฤติการณ์ขัด รธน.หรือไม่ หลักๆ ก็คือการดูระเบียบที่เกี่ยวข้องของทหารทั้งหมดในเรื่องสวัสดิการ-บ้านพักต่างๆ ของทหาร เช่น ระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในอาคาร บ้านพักของข้าราชการและลูกจ้างประจำในกองทัพบก พ.ศ.2553 เป็นต้น            

จากนั้นก็นำระเบียบดังกล่าวมาพิจารณาควบคู่ไปกับ รธน.ในมาตราที่พลเอกประยุทธ์โดนร้อง ที่อยู่ในมาตรา 184 (3) ที่ห้าม ส.ส.-ส.ว.รับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ โดยมาตราดังกล่าวให้ใช้กับนายกฯ และรัฐมนตรีด้วย ซึ่งฝ่ายค้านระบุว่า พลเอกประยุทธ์ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านพักทหาร โดยที่เกษียณอายุจาก ผบ.ทบ.ไปตั้งแต่ปี 2557 แล้ว และต่อมามี รธน.ฉบับปัจจุบันออกมาบังคับใช้เมื่อ เม.ย.2560 โดยมีมาตรา 184 (3) เขียนไม่ให้ รมต.ได้ผลประโยชน์จากหน่วยงานราชการ ฝ่ายค้านจึงเห็นว่าการที่พลเอกประยุทธ์อยู่บ้านพักทหารโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จึงถือว่าได้รับประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ จึงน่าจะขัด รธน.ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง 

                โดยเรื่องนี้แหล่งข่าวจากรัฐสภาให้ข้อมูลมาถึงการสู้คดีของฝ่ายพลเอกประยุทธ์ว่า ได้มีการยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาล รธน. ตั้งแต่ศาล รธน.รับคำร้องใหม่ๆ โดยเป็นเอกสารความยาว 3 หน้า พร้อมกับแนบระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับสวัสดิการบ้านพักทหารเพื่อต่อสู้คดี

                โดยสาระสำคัญ หนังสือชี้แจงดังกล่าวที่พลเอกประยุทธ์ยื่นต่อศาล รธน. มีรายงานว่า  พลเอกประยุทธ์ได้ยอมรับว่าได้อยู่ในบ้านพักทหารจริง ส่วนที่ไม่ได้ไปอาศัยในบ้านพักรับรองนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลก เป็นเพราะขณะนั้นบ้านพักพิษณุโลกอยู่ระหว่างการซ่อมแซมปรับปรุง ขณะเดียวกันทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยประจำตัวให้คำแนะนำว่า บ้านพักทหารที่อาศัยอยู่สะดวกในเรื่องการดูแลความปลอดภัยมากกว่า และระบุตอนท้าย ขอให้ศาล รธน.ยกคำร้อง

                สายข่าวบอกอีกว่า นอกจากนี้ฝ่ายกองทัพบกก็ได้ส่งเอกสารหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าวตามที่ศาล รธน.ร้องขอมาเช่นกัน โดยฉบับแรกลงนามโดย  พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ สมัยยังเป็น ผบ.ทบ.  

                และต่อมากองทัพบก โดย บิ๊กบี้-พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ก็ได้ส่งหนังสือชี้แจงระเบียบต่างๆ ของกองทัพบก เกี่ยวกับการอยู่บ้านพักทหาร ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญอีกหนึ่งฉบับ โดยส่งไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังบิ๊กบี้เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 ตุลาคม

โดยเอกสารชี้แจงดังกล่าวมีทั้งสิ้น 3 หน้า โดยมีกระแสข่าวว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงโดยบอกตอนหนึ่งว่า การอยู่บ้านพักทหารของอดีต ผบ.ทบ.ที่เกษียณแล้ว เป็นเรื่องของ ระเบียบที่ได้รับการยกเว้น

                จึงเท่ากับว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้รับหนังสือชี้แจงเรื่องการอยู่บ้านพักทหารของพลเอกประยุทธ์ จากเบอร์ 1 ของกองทัพบก-ผบ.ทบ.ถึง 2 คน

                "พอศาล รธน.ได้รับหนังสือของบิ๊กบี้ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม การประชุมตุลาการศาล รธน.เมื่อ 4 พ.ย. ที่ประชุมคงเห็นว่า ได้เอกสารครบถ้วนหมดทุกประเด็นแล้วตามที่ตุลาการศาล รธน.ตั้งประเด็นไต่สวนเอาไว้ จนมีการนัดลงมติคดีนี้ ในวันพุธที่ 2 ธ.ค.นี้" รายงานข่าวระบุ

                อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตจากบางฝ่ายว่า ระเบียบที่ได้รับการยกเว้นให้อดีต ผบ.ทบ.ที่เกษียณแล้วยังอยู่บ้านพักทหารได้ ที่น่าจะเป็นข้อต่อสู้สำคัญของฝ่ายพลเอกประยุทธ์ ไม่มีการเขียนเป็นข้อยกเว้นใดๆ ไว้ใน รธน.มาตรา 184 (3) ที่ใช้กับนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี อีกทั้ง รธน.เป็นกฎหมายสูงสุด มีฐานะทางกฎหมายสูงกว่าระเบียบของกองทัพบก

                ก็ต้องดูกันว่า สุดท้ายเสียงส่วนใหญ่ใน 9 ตุลาการศาล รธน.จะว่าอย่างไร บิ๊กตู่จะได้เป็นนายกฯ ต่อไปหรือไม่ รอดูกัน 2 ธ.ค.นี้.