'คลัง'ยันรัฐยังมีแรงกู้ฟื้นศก.อีก9.8แสนล.


เพิ่มเพื่อน    

 

23 พ.ย.2563 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปี 2563 จะต้องยอมรับว่าสุดท้ายแล้วเศรษฐกิจจะโตติดลบประมาณ 6% โดยหลังจากนี้นโยบายการเงินและนโยบายการคลังต้องเข้าไปช่วยกัน ซึ่งหลายประเทศก็ใช้หลักการนี้ แต่ในส่วนขอไทยอาจจะทำได้เร็วกว่าประเทศอื่น ๆ เพราะไทยมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งบางส่วนนำมาใช้ในโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างโครงการคนละครึ่ง โครงการช้อปดีมีคืน และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น

ขณะที่ปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตเป็นบวกที่ระดับ 4% แม้จะเป็นการเติบโตที่ยังไม่เต็มศักยภาพ แต่ก็อยากให้มองภาพเศรษฐกิจไทยในเชิงบวกไว้ก่อน โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวในระดับปกติก่อนมีการระบาดของโควิด-19 ได้ ภายในปี 2565

“ปีนี้ไทยอาจจะลำบากหน่อย เพราะปัญหาโควิด-19 แต่ยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีปัญหาเรื่องเสถียรภาพด้านการเงินและการคลัง เพราะมีทุนสำรองในระดับสูง โดยในปีงบประมาณ 2564 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังแล้ว รัฐบาลยังมีความสามารถในการก่อหนี้ได้อีก 30% หรือคิดเป็น 9.8 แสนล้านบาท ในส่วนนี้ร่วมถึงงบประมาณขาดดุลประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาทแล้ว โดยวงเงินในส่วนนี้รัฐบาลสามารถใช้ในโครงการเพื่อดูแลเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ได้ เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น และยังมีวงเงินที่สามารถใช้ได้อีก 4 แสนล้านบาท จากงบการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลยังมีช่องที่จะใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้” นายอาคม กล่าว

สำหรับมาตรการด้านการเงินในปัจจุบันอาจจะต้องเน้นการดูแลในระยะสั้นมากขึ้น เพราะเงินทุนที่ไหลเข้ามาจะมีผลกระทบกับค่าเงินบาท ซึ่งตรงนี้เป็นเครื่องสะท้อนได้ถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังไปได้ พื้นฐานเศรษฐกิจยังดี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"