นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานภาครัฐเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจ โดยเฉพาะลูกหนี้ SME หลังเห็นตัวเลขเศรษฐกิจไทยตามรายงานสภาพัฒน์ขยับตัวดีขึ้น
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ที่นำเสนอโดยสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ปรับตัวลดลงร้อยละ 6.4 ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีการปรับตัวลดลงร้อยละ 12.1 และหากรวม 9 เดือนแรกของปี 2563 เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลดร้อยละ 6.7
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจไทยเนื่องมาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง และการผ่อนคลายการจำกัดการเดินทางภายในประเทศ
สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยของทั้งปี 2563 นั้น สศช. คาดว่าจะมีแนวโน้มที่จะลดลงร้อยละ 6.0 และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.5-4.5 โดยมีแรงสนับสนุนจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีการปรับตัวสูงขึ้นภายในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก และแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐจากการเบิกจ่ายภายใต้กรอบงบประมาณและมาตรการทางเศรษฐกิจต่างๆ
ทั้งนี้ ยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2564 ได้แก่ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศ ซึ่งอาจมีความยืดหยุ่นและรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปริมาณการค้าโลก ภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับเงื่อนไขด้านการจ้างงาน และฐานะการเงินภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ รวมทั้งความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้งและความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ
นายอนุชากล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะบ่งบอกว่าไทยมีแนวโน้มด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่นายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพื่อที่จะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น กระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมการจ้างงาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยเหลือลูกหนี้บุคคล และลูกหนี้ธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหนี้ SME และเร่งดำเนินการมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐโดยเร็ว
วันเดียวกันนี้ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “รับเงินรัฐ สนับสนุนรัฐบาลหรือเปล่า?”
โดยเป็นผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่าง รวม 1,320 หน่วย เกี่ยวกับโครงการที่ให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากรัฐบาล และการตัดสินใจของประชาชนเกี่ยวกับรัฐบาล อาทิ โครงการคนละครึ่ง, โครงการเราเที่ยวด้วยกัน, เงินเยียวยา 5,000 บาท
ซึ่งผลสำรวจพบว่า เมื่อถามเรื่องการเข้าร่วมโครงการของรัฐบาล คือ เราเที่ยวด้วยกัน ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 87.50 ระบุไม่เข้าร่วม ขณะที่ร้อยละ 12.50 ระบุว่าเข้าร่วมโครงการ
เมื่อถามถึงการตัดสินใจของผู้ที่เข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับรัฐบาล หลังเข้าร่วมโครงการที่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 38.76 ระบุว่ามีส่วนทำให้สนับสนุนรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 25.38 ระบุว่าสนับสนุนรัฐบาล แต่ไม่เกี่ยวกับโครงการที่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากรัฐบาล, ร้อยละ 22.12 ระบุว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว, ร้อยละ 12.34 ระบุว่ายังไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ผลสำรวจเปิดเผยอีกว่า เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อโครงการที่ให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 49.32 ระบุว่าประชาชนได้ประโยชน์ รองลงมา ร้อยละ 35.45 ระบุว่าเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี, ร้อยละ 17.80 ระบุว่าพ่อค้า นายทุนได้ประโยชน์จากโครงการ
และร้อยละ 13.86 ระบุว่า เป็นมาตรการเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่ม, ร้อยละ 10.15 ระบุว่าเปลืองงบประมาณ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง, ร้อยละ 8.03 ระบุว่าระบบและกติกาการใช้จ่ายยุ่งยากซับซ้อนเกินไป
ส่วนข้อถามถึงการตัดสินใจของผู้ที่เคยรับเงินช่วยเหลือหรือเยียวยา ต่อการสนับสนุนรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 35.03 ระบุว่ามีส่วนทำให้สนับสนุนรัฐบาล, รองลงมา ร้อยละ 25.73 ระบุว่าสนับสนุนรัฐบาล แต่ไม่เกี่ยวกับเงินช่วยเหลือ, ร้อยละ 24.76 ระบุว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ 12.54 ระบุว่ายังไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |