ส.ว.ไล่พระร่วมชุมนุมสึก โบว์แจ้นแจงบัญชีบริจาค


เพิ่มเพื่อน    

 

"ส.ว.วันชัย" หวดก้นพระเณรนุ่งเหลืองขึ้นเวทีม็อบไม่สมควรอย่างยิ่ง ไล่สึกไปเลยดีกว่า ฉะคณะสงฆ์-พศ.ปล่อยย่ำยีหัวใจพุทธศาสนิกชน ชง กมธ.ศาสนาวุฒิสภาแก้ปัญหาด่วน "โบว์ ณัฏฐา" โชว์ยอดบริจาคทะลุ 1.5 แสนช่วยพระลี้ภัยไปยุโรป "แกนนำแครอต" แจงจำเป็นต้องใช้เงิน
    เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เห็นพระเณรที่ชุมนุมแล้วสะท้อนใจ กระอักกระอ่วนต่อความรู้สึก ทั้งการกระทำและคำพูดดูจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยลำดับ ทำตัวเหมือนไม่ใช่พระเณรในพระพุทธศาสนา ความจริงสีไหนกลุ่มไหนจะชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองก็เป็นสิทธิเสรีภาพ แต่สีของคนนุ่งเหลืองห่มเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เคารพนับถือ โดยเฉพาะความเป็นพระเณร จะต้องมีวัตรปฏิบัติ และการประพฤติที่ต่างจากฆราวาส จะมานุ่งเหลืองห่มเหลืองสะพายย่ามขึ้นเวทีชุมนุมปราศรัยเป็นหัวหอกในการปะทะต่อต้านเหมือนกับผู้ชุมนุมโดยทั่วไป น่าจะไม่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
      "ผมเชื่อว่าเป็นการกระทำที่กระทบต่อความรู้สึกของคนที่กราบไหว้และนับถือพระพุทธศาสนาอย่างรุนแรง ทำไมไม่มีใครเข้าไปจัดการกับพระเณรกลุ่มนี้ เท่าที่ติดตามดูพวกนี้ชักจะเหิมเกริมรุนแรงขึ้นทุกวัน จนลืมความเป็นพระเณรไปหมด ถ้าอยากจะเคลื่อนไหวแบบนี้ก็สึกออกไปเสียเลยดีไหม จะได้ทำอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเอาผ้าเหลืองมาห่อหุ้มทำให้เสียวงการคณะสงฆ์ไปเปล่าๆ ปลาตายตัวเดียวทำให้วงการคณะสงฆ์พลอยเน่าเหม็นไปด้วย เรื่องแบบนี้ผมเองก็รู้สึกอึดอัดขัดข้องใจมานานแล้ว ไม่เห็นด้วยที่พระเณรออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง มันเป็นเรื่องของฆราวาส ไม่ใช่เรื่องของพระ ถ้าจะอ้างว่าประเทศนั้นประเทศนี้ทำได้ ผมว่าก็น่าจะไปบวชอยู่กับประเทศอื่น เพราะพระประเทศไทยไม่ควรเป็นเช่นนั้น แม้แต่ในแวดวงข้าราชการ อัยการ ศาล เขายังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งในวงการสงฆ์ มีข้อกำหนดและวัตรปฏิบัตรที่เข้มงวดกวดขันมากกว่าฆราวาส แต่ก็ปล่อยปละละเลย ทางฝ่ายคณะสงฆ์และฝ่ายบ้านเมืองโยนกลองกันไปโยนกลองกันมา ปล่อยให้พระเณรพวกนี้ย่ำยีหัวใจพุทธศาสนิกชนขึ้นทุกวัน" นายวันชัยระบุ
         ทั้งนี้ ขอถามดังๆ ว่าใครจะทำอะไรกับพระเณรกลุ่มนี้ได้ ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอในการบริหารจัดการของคณะสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมัวทำอะไรกันอยู่ พระเณรที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่กี่องค์ยังทำอะไรกันไม่ได้เลย ถึงคราวที่จะให้เด็กๆ หรือประชาชนออกมาเรียกร้องการปฏิรูปกันได้แล้วหรือยัง ใครมีหน้าที่รับผิดชอบจะทำอะไรก็รีบทำ อย่าปล่อยให้คนนุ่งเหลืองเหล่านี้ออกมากัดกร่อนพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นเสาหลักของประเทศอีกต่อไป วงการอื่นจะแตกแยกแตกสีกันอย่างไรก็ช่าง ขอสีเหลืองของพระสงฆ์ไว้สักสีหนึ่งเถอะ ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ โดยด่วน
    ทางด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงความคืบหน้าการเปิดบัญชีรับบริจาคเงินช่วยเหลือพระลี้ภัยไปต่างประเทศ หลังจากถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ว่า รายงานสรุปยอดวันแรกตรวจสอบเมื่อเวลา 22.30 น. (วันที่ 21 พ.ย.) หรือประมาณ 10 ชั่วโมงหลังการประกาศระดมทุน ยอดรวม 151,578.50 บาท
        เมื่อตอนที่ทราบจำนวนเงินที่จำเป็นสำหรับการเดินทางต่อให้ถึงปลายทางที่ปลอดภัย ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างซับซ้อนและเร่งด่วนนั้น กังวลมากว่าจะเป็นไปได้ทันเวลาหรือไม่ ตอนนี้ทุกคนร่วมกันทำให้เป็นไปได้แล้วในครึ่งวัน หลังจากนี้คือต้นทุนสำหรับการดำรงชีวิตและภารกิจทางศาสนาที่ท่านตั้งปณิธานไว้ และตามแต่ทุกคนจะมีจิตศรัทธา โดยจะรายงานรายละเอียดเช่นนี้ทุกวันจนปิดการระดมทุนในวันที่ 30 พ.ย. ถึงวันนั้นหวังว่าพระท่านจะเดินทางถึงปลายทางอย่างปลอดภัย และสามารถมาสื่อสารรายละเอียดเรื่องราวโดยตรงด้วยตนเองได้
         "โบว์ได้เห็นสื่อบางสำนักแสดงความไม่พอใจในการช่วยเหลือครั้งนี้ ขอยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม เมื่อพระสงฆ์รูปหนึ่งไม่อาจวางใจในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีปัญหาอย่างที่เราทราบกัน และตัดสินใจออกนอกประเทศไปแล้วอย่างตกระกำลำบาก เราได้พิจารณารายละเอียดของสิ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิด และเห็นว่าท่านไม่ได้มีการกระทำที่เป็นภัยหรือเป็นไปโดยเจตนาไม่สุจริต จึงได้ยื่นมือช่วยเหลือเมื่อได้รับการติดต่อ อย่างน้อยที่สุดเขาคือเพื่อนร่วมชาติที่ยังมีศักยภาพในการทำประโยชน์บนโลกนี้ต่อไป เชื่อว่าสื่อทุกท่านรู้จักกันมาไม่น้อยนะคะ โบว์ไม่เคยใช้วิจารณญาณอย่างมักง่ายกับเรื่องของสังคม และไม่เคยมีการสื่อสารที่ละเมิดหรือประสงค์ร้ายต่อใคร" นักเคลื่อนไหวทางการเมืองรายนี้ระบุ
         น.ส.ณัฏฐากล่าวด้วยว่า ในช่วงเวลาแบบนี้ของบ้านเมือง ขอวิงวอนให้เราทุกคนหยุดซ้ำเติมสถานการณ์ด้วยการสื่อสาร หรือนำเสนอข่าวที่สร้างความเกลียดชังต่อกัน โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่เรากำลังร่วมกันทำคือสิ่งที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำสุดที่คนเราจะทำให้กันได้ นั่นคือการช่วยชีวิตและปกป้องสิทธิมนุษยชน
    ขณะที่พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคมผู้สนับสนุนม็อบ ซึ่งขณะนี้กำลังเรียนระดับปริญญาเอก สาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธกรณีที่พระมหานรินทร์ นรินโท พระธรรมทูตจากรัฐเทกซัส เชื่อว่าพระมหาไพรวัลย์คือพระสงฆ์รุ่นใหม่ที่ถูกตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ น.ส.ณัฏฐาระบุว่ากำลังลี้ภัยไปตั้งสำนักสงฆ์ในประเทศทางยุโรปและขอระดมทุนด่วนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางว่า "กราบเรียนอาจารย์พระมหานรินทร์ที่เคารพ อย่าหาเขียนแบบนี้ครับ (หัวเราะ) พระที่ท่านจะลี้ภัยไม่ใช่ผมครับ คนอย่างผม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายครับ (หัวเราะ)" และโพสต์อีกว่า "จะลี้ภัยยังไง ปัจจัยค่ารถมาเรียนมหา'ลัยยังไม่มี ใครอยากสนับสนุนค่าเดินทางไปเรียน อินบ็อกซ์มาได้นะโยม (หัวเราะ)"
    พระปัญญา สีสัน อายุ 39 ปี เคยประจำอยู่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และเป็นแกนนำพระในกลุ่มแครอตขึ้นเวทีปราศรัยกับม็อบคณะราษฎรอย่างต่อเนื่อง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตั้งแต่วันแรกๆ ที่อาตมาถูกยัด 112 จำแลง ด้วย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อาตมาได้ปรึกษากับทุกคนที่ให้คำปรึกษาได้ เช่น ส.ส. อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งทุกคนมีน้ำใจให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ บ้างก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบว่าเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม ปลอดภัยแล้วใช่ไหม
         ทั้งนี้ อยู่ในวัด อาตมาไม่สามารถเล่าเรื่องที่ตนเองถูกกระทำได้ ถ้านึกภาพไม่ออก ให้ดูตัวอย่างที่เป็นพลทหาร ตำรวจชั้นผู้น้อย ข้าราชการตัวเล็กๆ ทำไมพวกเขาต้องปิดปากตัวเองทั้งๆ ตนเองเป็นผู้ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่ออาตมามีความพร้อมระดับหนึ่งที่จะบอกสังคมว่า อาตมาถูกระบบรัฐราชการรวมศูนย์กลั่นแกล้ง รังแก อาตมาก็ลงข้อมูลในเฟซบุ๊กตัวเอง ฝากโพสต์ไปทางกลุ่มต่างๆ แอดมินที่อยากช่วยก็อนุมัติโพสต์ให้ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง ก็ลงให้ตั้ง 3 โพสต์ ทั้งพระและโยมเมตตาช่วยกดไลค์กดแชร์ ช่วยให้ความเห็น สำนักข่าวก็เมตตาเขียนข่าวให้
         จนกระทั่งวันนี้ อาตมาจำเป็นจะต้องใช้เงินก้อนนึง เพื่อให้มีชีวิตที่ปลอดภัยขึ้น ซึ่งก็มีโยม 3 ท่านเอ่ยวาจาปวารณา รวบรวมธารน้ำใจของสาธุชนผู้ไม่ทอดธุระในความอยุติธรรมของบ้านเมืองนี้แล้วมีกำลังทรัพย์ที่เหลือพอสำหรับการกระทำจาคะ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยที่ตนเองไม่เดือดร้อน ภิกษุถูกฝึกมาโดยพระธรรมวินัย ถ้าโยมไม่เอ่ยปากปวารณาให้ขอจตุปัจจัย ภิกษุจะขอเป็นการเฉพาะเจาะจงไม่ได้ อาตมาจึงไม่เคยอินบ็อกซ์ไปบอกใครๆ ว่าต้องการจตุปัจจัย เว้นไว้แต่โยมที่ปวารณาให้อาตมาเอ่ยปากขอได้ อาตมาจึงจะขอ
         "ครูโบว์ทราบเรื่องและเห็นเอกสารด้านคดีความของอาตมามาตั้งแต่ต้น แล้วครูโบว์ได้เอ่ยวาจาให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับอาตมา ตั้งแต่วันแรกที่ครูโบว์ทราบข่าวอีกด้วย อาตมาขออนุโมทนาบุญกับญาติโยมทุกๆ ทุกท่านที่ร่วมกันกระทำจาคะมา ณ โอกาสนี้ ท่านที่ได้ยินได้ฟังเรื่องราวของการกระทำจาคะของเหล่าสาธุชน แล้วรู้สึกปลาบปลื้มใจ ปีติ ยินดี มีความสุข ก็ขอให้ท่านเหล่านั้นได้รับรู้ว่า แม้ท่านทั้งหลายก็เป็นผู้มีส่วนแห่งบุญในการกระทำจาคะของเหล่าสาธุชนในครั้งนี้" แกนนำพระในกลุ่มแครอตระบุ
    นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการระดมทุนช่วยพระลี้ภัยว่า ระดมทุนช่วยใคร ต้องตรวจสอบคนให้ดี ระวังจะเสียหมา    
    นายเอกชัยยังโพสต์เพิ่มเติมว่า "ข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีบทลงโทษที่น้อยกว่า มาตรา 112 มาก อีกทั้งผู้ต้องหาเกือบทั้งหมดในข้อหาได้รับการประกันตัว แถมการสู้คดีในศาลกินเวลาหลายปี ไม่เข้าใจทำไมต้องหนีถ้าคุณมีเส้นสาย/เงินทุนก็ยังไม่อยากว่า แต่หนีแล้วไม่มีที่ไปกลายเป็นทุกข์ทรมานยิ่งกว่าอยู่ในประเทศ แถมไม่รู้จะกลับประเทศเมื่อไหร่ยิ่งไม่ควรหนี ตอนผมโดนข้อหามาตรา 112 ผมโชคดีที่ได้รับการประกันตัว หลายคนแนะนำให้หนีออกนอกประเทศ แต่ผมยืนยันไม่หนี เพราะการหนีไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการสร้างปัญหาใหม่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่า ผมเลือกที่จะติดคุก 2-3 ปีดีกว่าที่จะหนี ซึ่งอาจต้องใช้เวลาตลอดชีวิต แถมยังต้องอยู่ด้วยความกลัว ถ้าคุณไม่มีเส้นสาย เงินทุนพอที่จะหนี ผมไม่แนะนำให้หนี".

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"