สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
22 พ.ย.63 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “อัษฎางค์ ยมนาค” โดยมีรายละเอียดดังนี้
เชิญเบิกเนตร
“ในหลวงพระราชทานที่ดินให้ สวนสุนันทาและสวนดุสิต ความจริงคนละโลกของศาสดานักบิดเบือน”
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยสวนดุสิตเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ตั้งอยู่ในพื้นที่วังสวนสุนันทา อันเคยเป็นเขตพระราชฐานของพระราชวังดุสิตในรัชกาลที่ 5 มาก่อน
และเหมือนเคย คือคณะราษฏร์ยึดไป และผ่านไปเกือบศตวรรษ คสช.ที่นำโดยบิ๊กตู่ ถึงมีโอกาสถวายที่ดินแปลงนี้คืนสู่ในหลวง รัชกาลที่ 10 และพระองค์ท่านมีพระเมตตา ยกที่ดินแปลงนี้ให้กับ ม.สวนสุนันทา และ ม.สวนดุสิต เพื่อการศึกษาของประชาชน
นักบิดหัวหงอกจอมเพี้ยน ก็ยังบิดไปหลอกสาวกโง่ได้ตามเคย ที่มันเขียนว่า “ที่ดินเดิมของทั้ง 2 มหาวิทยาลัยถูกเอาไปแน่นอน” นั้นมันตั้งใจบิดให้สาวกโง่ คิดตามไปว่า ถูกในหลวงยึดไป ทั้งที่ความจริงคนที่ยึดไป คือคณะราษฏร์ แต่ในหลวงต่างหาก ที่ยกให้ มหาวิทยาลัย ซึ่งก็คือยกให้ประชาชน นี่คือตัวอย่างที่ ศาสดาชั่ว กับสาวกโง่ เค้าสั่งสอนปลุกปั่นกันเสมอ ซึ่งแปลว่า ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยทั้งสวนสุนันทาและสวนดุสิต เป็นของพระมหากษัตริย์มาแต่เดิม
............................................................................
คสช.โดยการนำของลุงตู่ ถวายสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คืนในหลวงรัชกาลที่ 10 และในหลวงทรงยกทรัพย์สินและทรัพย์สมบัติมากมายหลายอย่างเหล่านั้นให้กับสังคม ให้กับคนไทย ให้กับชาติไทย แต่ม็อบทรราษฏร์โดนแหกตา มาเรียกร้องขอคืนสำนักทรัพย์สินฯ ทั้งที่มันคือมรดกส่วนพระองค์ ไม่ใช่สมบัติของแผ่นดิน
............................................................................
ถ้าไม่มีเวลาหรือขี้เกียจอ่าน ข้อความข้างบนที่ผมสรุปไว้ให้นั้นก็เพียงพอสำหรับความเข้าใจ ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ถ้าพอมีเวลา และอยากอ่านรายละเอียดของประวัติศาตร์ของสวนสุนันทา และสวนดุสิต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันศาสดาชั่ว จะได้ไม่ตกเป็นสาวกโง่ของมัน ตามมาครับ
............................................................................
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ได้ทรงพระราชดำริว่าสถานที่ในพระบรมมหาราชวังชั้นในคับแคบ ไม่เหมาะสมจะเป็นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน จึงโปรดให้สร้างพระตำหนักและตึกในบริเวณสวนสุนันทาขึ้นอีกหลายหลัง
แล้วโปรดให้เป็นที่ประทับของพระมเหสี เจ้าจอมมารดา เจ้าจอมและพระราชธิดา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 32 ตำหนัก รวมทั้งอาคารที่พักของบรรดาข้าราชบริพาร โดยมีสมเด็จพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฎ ปิยมหาราชปดิวรัดา ได้เสด็จมาประทับ ณ ตำหนักสายสุทธานพดล (ตึก 27)
เนื่องจากในสมัยนั้นบรรดาขุนนาง ข้าราชการ ผู้มีบรรดาศักดิ์นิยมนำบุตรี และหลานของตนมาถวายตัวต่อสมเด็จพระวิมาดาเธอฯ เป็นจำนวนมาก สมเด็จพระวิมาดาเธอฯ จึงทรงให้สร้าง "โรงเรียนนิภาคาร" ขึ้นภายในสวนสุนันทา สอนตามหลักสูตรการศึกษาในสมัยนั้น รวมทั้งอบรมจริยา มารยาท การฝีมือ ให้เป็นกุลสตรี
............................................................................
ครั้นถึงปี พ.ศ. 2475 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ ในสวนสุนันทาหวั่นเกรงภัยจากการเมือง จึงได้ทะยอยกันออกไปจากสวนสุนันทาจนหมดสิ้น บางพระองค์ได้เสด็จออกไปอยู่หัวเมืองและหลายพระองค์เสด็จลี้ภัยการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ โรงเรียนนิภาคารจึงเลิกดำเนินการไปโดยปริยาย นับแต่นั้นมาสวนสุนันทาที่เคยงดงามก็ถูกทอดทิ้ง พื้นที่ภายในรกร้างว่างเปล่า
ในช่วงนั้นรัฐบาลมีการจัดตั้งโรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย โดยมีการนำวัง พระราชวัง ที่พัก และพื้นที่ที่รัฐบาลยึดจากเชื้อพระวงศ์และบุคคลสำคัญบางแห่งใช้มาเป็นสถานที่ราชการและสถานศึกษาจำนวนมาก
เช่น วังหน้า ใช้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, บ้านนรสิงห์ ใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลไทย เป็นต้น ภายหลังทรัพย์สินเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479
และนี่เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆของโรงเรียนการเรือน ก่อนจะกลายเป็นวิทยาลัยครูสวนดุสิต ซึ่งเป็นชื่อของสถานที่ตั้งของวิทยาลัยฯ และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในปัจจุบัน
รวมทั้ง "โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย" เริ่มเปิดการศึกษามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 ก่อนจะเป็นวิทยาลัยครูสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในปัจจุบัน
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยตั้งชื่อเพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
............................................................................
สรุป สถานที่ตั้ง ทั้งที่ดินและอาคาร ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และสวนสุนันทา เป็นทรัพย์สมบัติของสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ต้น แต่ถูกคณะราษฏร์ยึดไป และผ่านไปเกือบศตวรรษ คสช. ที่นำโดยบิ๊กตู่ ถึงมีโอกาสถวายที่ดินแปลงนี้คืนสู่ในหลวง รัชกาลที่ 10 และพระองค์ท่านมีพระเมตตา ยกที่ดินแปลงนี้ให้กับ ม.สวนสุนันทา และ ม.สวนดุสิต เพื่อการศึกษาของประชาชน
นักบิดหัวหงอกจอมเพี้ยน ก็ยังบิดไปหลอกสาวกโง่ได้ตามเคย
ที่มันเขียนว่า “ที่ดินเดิมของทั้ง 2 มหาวิทยาลัยถูกเอาไปแน่นอน” นั้น มันตั้งใจบิดให้สาวกโง่ คิดตามไปว่า ถูกในหลวงยึดไป ทั้งที่ความจริงคนที่ยึดไป คือคณะราษฏร์ แต่ในหลวงต่างหากที่ยกให้มหาวิทยาลัย ซึ่งก็คือยกให้ประชาชน นี่คือตัวอย่างที่ ศาสดาชั่ว กับสาวกโง่ เค้าสั่งสอนปลุกปั่นกันเสมอ
คสช. โดยการนำของลุงตู่ ถวายสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คืนในหลวงรัชกาลที่ 10 และในหลวงทรงยกทรัพย์สินและทรัพย์สมบัติมากมายหลายอย่างเหล่านั้นให้กับสังคม ให้กับคนไทย ให้กับชาติไทย แต่ม็อบทรราษฏร์โดนแหกตา มาเรียกร้องขอคืนสำนักทรัพย์สินฯ ทั้งที่มันคือมรดกส่วนพระองค์ ไม่ใช่สมบัติของแผ่นดิน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |