"ปิยบุตร" ชูนโยบายกระจายอำนาจแบ่งสรรงบส่วนกลาง-ท้องถิ่น 50-50% ยันไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดนเหมือนที่โจมตี "ทอน" โดนอีกแล้ว! ชาวโคราชตะโกนขับไล่ขณะลงพื้นที่หาเสียง อบจ. ป้ายหาเสียงคณะก้าวหน้าถูกทำลายหลายจุด ที่ จ.กำแพงเพชรโดนสาดสีดำใส่ ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ฯ ฉีกบริเวณรูปใบหน้าธนาธร
    เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า จัดรายการสด “ก้าวหน้าทอล์ก” ทาง เฟซบุ๊กไลฟ์ในหัวข้อ “ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนงบ คืนอำนาจให้ท้องถิ่น” ร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงแนวคิดการกระจายอำนาจ ตลอดจนความเป็นมาและอุปสรรคของการกระจายอำนาจในประวัติศาสตร์ไทย ว่าเรื่องของการกระจายอำนาจนี้ เราพูดกันมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2520 จนทยอยเกิดการกระจายอำนาจ แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ การกระจายอำนาจยังไม่สำเร็จสมบูรณ์เสียที ยิ่งหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 การกระจายอำนาจยิ่งถอยหลังลงด้วยซ้ำ ความเป็นจริงควรจะมีการแบ่งสรรเป็นบริการสาธารณะในระดับชาติ และบริการสาธารณะในระดับท้องถิ่น สิ่งใดที่เป็นภารกิจในระดับท้องถิ่นต้องให้ท้องถิ่นเป็นคนดำเนินการทั้งหมด ส่วนกลางดูเพียงนโยบายใหญ่ในภาพใหญ่เท่านั้น เราเคยเสนอว่าให้มีการแบ่งสรรงบประมาณให้ถึง 50-50 คือส่วนกลางได้ 50% ส่วนท้องถิ่นได้ 50% ของงบประมาณด้วยซ้ำ
    "นี่ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน เหมือนที่มายาคติจำนวนหนึ่งพยายามโจมตีแน่นอน ประเทศไทยไม่เท่ากับกรุงเทพฯ ประเทศไทยไม่เท่ากับส่วนกลาง วันนี้กระจายอำนาจกลับไป ไม่ใช่การให้เป็นประเทศ แต่ให้มีอำนาจในการบริหารจัดการพื้นที่มากขึ้น และยังคงเป็นรัฐเดี่ยวอยู่เหมือนเดิม ที่อื่นก็ทำ ญี่ปุนเป็นราชอาณาจักร เป็นรัฐเดี่ยว อยู่ในเอเชีย ใช้การกระจายอำนาจจนไม่เหลือส่วนภูมิภาคอีกต่อไปแล้ว" นายปิยบุตรกล่าว
    วันเดียวกัน นายปิยบุตร แสงกนกกุล ร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับนายสุภวัฒน์ ศุภศิริ ผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 3 พร้อมทีมผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ. ในนามคณะก้าวหน้า โดยเริ่มต้นที่ตลาดเวียงทอง อ.เมือง ต่อด้วยตลาดสดเด่นฤดี อ.เด่นชัย โดยทั้งสองแห่งมีประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี หลายคนเข้ามาขอกอดและขอถ่ายรูปด้วย โดยบางคนบอกว่าสนับสนุนตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ จะสนับสนุนต่อไป และจะเลือกตัวแทนผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้าอย่างแน่นอน
    จากนั้น นายปิยบุตรและนายสุภวัฒน์ได้เดินทางต่อไปที่ อ.ลอง เพื่อเยี่ยมชมร้านกาแฟแห่ระเบิด จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนแพร่หันมาภาคภูมิใจกับคำว่า แพร่แห่ระเบิด และภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตัวเอง โดยมีนายเชษฐา สุวรรณสา เจ้าของร้านกาแฟแพร่แห่ระเบิด และผู้จุดกระแสความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ร่วมบรรยายและชวนพูดคุยกับเยาวชน และอีกสถานที่หนึ่งคือโฮงซึงหลวง ก่อตั้งโดยนายจีรศักดิ์ ธนูมาศ ศิลปินคนรุ่นใหม่ที่เปิดบ้านเป็นแหล่งผลิตซอ ศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องดนตรีท้องถิ่นและโฮมสเตย์
     ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ "โคราชเป็นจังหวัดที่ใหญ่อันดับสองของประเทศ แต่กลับไม่มีการคมนาคมขนส่งสาธารณะที่ดี" ว่า ใครอยู่อำเภอเมืองโคราชคงจะเบื่อกับรถติด ใครที่พอมีเงินก็ผ่อนรถผ่อนมอเตอร์ไซค์เอาตัวรอดกันตามยถากรรม คุณสาธิต ปิติวรา ผู้สมัครนายก อบจ.โคราชของคณะก้าวหน้าตั้งใจแก้ปัญหารถติด, การเดินทางของประชาชน และมลพิษทางอากาศด้วยการสร้างรถเมล์สายหลักในอำเภอเมืองและเชื่อมอำเภอต่างๆ เข้าด้วยกัน ชีวิตคนโคราชจะดีขึ้นแค่ไหนถ้าโคราชมีรถเมล์ที่สะอาด, ตรงเวลา, ราคาย่อมเยา และมีความถี่ที่เหมาะสม
    นายธนาธรระบุว่า อบจ.โคราช บริหารงบประมาณจากภาษีประชาชนปีละ 3,300 ล้านบาท มากที่สุดใน อบจ.ทั้ง 76 จังหวัด เราสามารถนำงบมาลงทุนสร้างการขนส่งสาธารณะที่ดีให้บริการประชาชนได้ ในช่วงแรกคุณสาธิตจะสร้างสายรถเมล์ 4 สาย หากรถเมล์ระยะแรกสำเร็จ เราจะลงทุนต่อเนื่องเพื่อขยายโครงข่ายต่อไปให้ครอบคลุมพื้นที่มากกว่านี้ นี่เป็นหนึ่งในนโยบายของคณะก้าวหน้าที่จะสร้างให้กับโคราช หากพี่น้องโคราชให้โอกาสเราเรายังมีนโยบายอื่นอีกมาก เช่น เรื่องน้ำเพื่อเกษตรกร, การศึกษา, ศูนย์เรียนรู้เยาวชน และการแก้ปัญหาน้ำท่วม เป็นต้น มาลองเปลี่ยนโคราชกันดูไหม
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ชาวจังหวัดนครราชสีมาจำนวนหนึ่ง พากันออกมาแสดงความไม่พอใจ ตะโกนต่อว่าและขับไล่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ระหว่างลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.นครราชสีมาของคณะก้าวหน้า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด
     ที่ จ.กำแพงเพชร เมื่อเวลา 21.30 น.ของคืนวันที่ 20 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/55 ม 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.กำแพงเพชร เบอร์ 3 คณะก้าวหน้า เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.อาทิตย์ บุญพวงสถาพร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ว่า เมื่อเวลา 20.00 น.โดยประมาณของวันเดียวกัน พบว่าป้ายหาเสียงของตนเองล้มลง และยังพบอีกว่าถูกสาดสีดำใส่ทำให้ป้ายเสียหาย จึงมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
    นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้อง เป็นการทำลายการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้กระทำผิดในครั้งนี้มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ 
    ส่วนทีมผู้สมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.สุราษฎร์ธานี คณะก้าวหน้าสุราษฎร์ธานี ได้พบป้ายหาเสียงของผู้สมัครที่บริเวณริมถนนหน้าตลาดนัดบ่อกรัง ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน ของนายราษฎร์พิชิต นาคประดิษฐ์ (ทนายโต้ง) ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 1 อ.พุนพิน และป้ายนายพงษศ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ ผู้สมัครนายก อบจ.คณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นภาพคู่กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกทำลาย 2 แผ่น โดยทั้ง 2 แผ่นมีรอยถูกฉีกที่ตรงใบหน้านายธนาธรเพียงคนเดียวเหมือนกัน
    นอกจากนี้ ที่บริเวณสี่แยกลำพูน ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร ป้ายหาเสียงของ น.ส.มารยาท ชูทุ่งยอ ผู้สมัคร ส.อบจ.คณะก้าวหน้าสุราษฎร์ธานี เขต 1 อ.บ้านนาสาร และป้ายนายพงษศ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ ผู้สมัคร นายก อบจ.คณะก้าวหน้า เป็นภาพคู่กับนายธนาธร ที่ติดตั้งคู่กันได้ถูกทำลายมีรอยถูกฉีกที่ตรงใบหน้านายธนาธร กับ น.ส.มารยาท อีกแผ่นถูกฉีกเฉพาะนายธนาธรเพียงคนเดียว จึงได้เก็บป้ายทั้งหมดมาไว้ที่ศูนย์ประสานของผู้สมัคร และได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บ้านนาสารไว้เป็นหลักฐานแล้ว
    รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมงานก้าวหน้าได้พบป้ายหาเสียงที่ ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร ถูกฉีกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน และต่อมาพบที่ ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน ในวันนี้ ซึ่งมีลักษณะเดียวกัน โดยผู้ทำลายเจาะจงภาพใบหน้านายธนาธร ซึ่งเกิดขึ้นหลังมีการชุมนุมใหญ่ของคณะราษฎร เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่กรุงเทพฯ
    ที่ อ.เมืองมุกดาหาร พบว่าป้ายหาเสียงริมถนนสองนางสถิต อ.เมืองฯ มีป้ายของผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 4 ผู้สมัครอิสระ จำนวน 1 ป้าย ถูกมือดีเอาสีสเปรย์พ่น และถ้อยคำหยาบคายที่บริเวณป้ายได้รับความเสียหาย และป้ายผู้สมัคร ส.อบจ. หมายเลข  2 เขตเลือกตั้งที่ 7 ถูกมือดีเอาสีสเปรย์มาพ่น และถ้อยคำหยาบคายเต็มป้าย ซึ่งป้ายได้รับความเสียหายเช่นกัน.