ในที่สุด “ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช....” จำนวน 7 ฉบับ ก็ได้โหวตเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ร่างฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ซึ่ง “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐกับคณะเสนอ หรือที่เรียกว่า ร่างฉบับรัฐบาล คะแนนรับหลักการมานำลิ่ว ในขณะที่ร่างฉบับที่ 1 ซึ่งเป็นฉบับที่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยกับคณะเสนอนั้น ตามมาเป็นอันดับสอง ในขณะที่ ฉบับที่ 7 ร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 98,041 คน เป็นผู้เสนอนั้น ก็ตกไปตามคาด ...๐

ผลโหวตร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เรียกว่าสร้างสีสันอย่างยิ่ง และตีแผ่อะไรหลายๆ อย่าง อาทิ “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ขานรับร่างที่ 7 พร้อมชู 3 นิ้ว ซึ่งก็เป็นการฉายภาพชัดว่า “ไอลอว์-คณะราษฎร-ก้าวไกล-ก้าวหน้า” คือไผ่แยกกอจากหน่อเดียวกันนั่นเอง เรียกว่าเป็นการตอกย้ำคำอภิปรายของ “สมาชิกวุฒิสภา” ทั้งเสรี สุวรรณภานนท์, สมชาย แสวงการ หรือ คำนูณ สิทธิสมาน ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ ...๐

ขณะที่ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ส.ว. ก็สร้างเซอร์ไพรส์ โหวตรับร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ ด้วย งานนี้คงได้เห็นภาพ “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่เคยสร้างข่าวแป๊กว่าด้วยการกรีดแขน 3 แผลมาแล้วก้มกราบเท้า “กวีรัตนโกสินทร์” ก็เป็นได้ เพราะในการอภิปรายในสุดท้ายก่อนลงมตินั้น “วิสาร” อภิปรายว่า หาก  ส.ว.มีการรับร่างไอลอว์จะเข้าไปกราบ ...๐

ขณะเดียวกันในซีกพรรคร่วมรัฐบาลเองก็มีการแหกมติวิปรัฐบาลเช่นกัน โดยเริ่มที่ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่นั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งลงมติไม่รับหลักการทั้ง 7 ฉบับ เหมือนกับ “ชาญวิทย์ วิภูศิริ” ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ที่ไม่เอาด้วย เช่นเดียวกับ “ชุมพล จุลใส” หรือลูกหมี ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ลงมติไม่รับหลักการแม้แต่ฉบับเดียวตามเพื่อน ส.ส.จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ...๐

หันมาดูควันหลงจากการปะทะของ “ม็อบราษฎร” กับ “ม็อบเสื้อเหลือง” ที่หน้าสัปปายะสภาสถานกันบ้าง เพราะเล่นปั่นแฮชแท็ก#แบนด์อัมรินทร์ทีวี ติดท็อปเท็นกันเลยทีเดียว ทั้งที่หาก ดูคลิปวิดีโอประกอบข่าวที่ช่อง 34 เสนอแล้วต้องบอกว่า “อัมรินทร์” พาดหัวเบาด้วยซ้ำไป หรือคนก้าวไกลและคณะราษฎรจะปฏิเสธว่ากลุ่มคนเสื้อดำที่ไปรุมกระทืบทุบตีคนเสื้อเหลืองจนเลือดตกยางออกเป็น “ราษฎรเทียม” เหมือนที่ “เหวง โตจิราการ” เคยปฏิเสธเรื่องชายชุดดำในการเผาบ้านเผาเมืองว่าไม่มี และเป็นพวก “แดงเทียม” มาแล้ว ...๐

แล้วที่น่าแปลกใจที่คนระดับ “เซเลบ” หรือผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ที่เห็นอกเห็นใจม็อบคณะราษฎรแบบ “ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม” กันเลย ดูอย่าง “พนัส ทัศนียานนท์” อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ ทำความผิดฐานชุมนุมในเขตต้องห้ามและไม่แจ้งการชุมนุมล่วงหน้าเท่านั้น ไม่ใช่ความผิดอุกฉกรรจ์ พิโธ่! ถ้าบริสุทธิ์ต้องการชุมนุมแบบสันติปราศจากอาวุธและเป้าประสงค์จริง ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า แล้วที่พยายามรุกคืบชิงพื้นที่นั้นเรียกว่า “สันติ” หรืออย่างไร ...๐

ยิ่ง “ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร” รายงานเหตุการณ์ปะทะที่เกียกกายว่ามียอดผู้บาดเจ็บ 55 ราย โดยเฉพาะมีผู้ถูกยิงทั้งหมด 6 ราย ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นกระสุนจริงหรือกระสุนยาง และใครยิงนั้น ก็น่าจะเป็นอะไรให้บรรดา “ขาเชียร์เซเลบ” ตระหนักคิดบ้าง หรือคำประชาธิปไตยของคณะราษฎรคือการทำอะไรก็ถูกต้องเสมออย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงเข้าสู่ยุคอนาธิปไตยเหมือนที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ แห่งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ได้วิเคราะห์ไว้ ...๐

ตลกไม่ออกอย่างยิ่งคือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เจ้าโวหารว่าด้วยทฤษฎีกระดุม 5 เม็ด ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการทำงานของรัฐบาลในเรื่องการกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดก็จะผิดไปหมด หรือแม้แต่บรรดา ส.ส.ก้าวไกลและก้าวหน้าที่เคยเอ่ยอ้างถึงเรื่อง "ผลไม้พิษ” แล้ว กรณี “ไอลอว์” ที่รับเงินจากต่างชาตินั้น ทำไมทั้ง “พิธา” และพรรคก้าวไกลกลับมองข้ามไปแบบไม่ไยดี เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของต้นไม้พิษหรือเรื่องการกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดหรืออย่างไร หรือเพราะเข้าทางและเป็นพรรคพวกเดียวกันก็เลยมองข้ามในสิ่งที่เคยด่า เคยตำหนิคนอื่นไว้จ๊ะ ...๐

...ท.ศักดิ์