โฆษกรัฐบาลยันต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิดไม่เกี่ยวชุมนุมทางการเมือง ให้รอ “ศบค.” เคาะ เผย “ศบศ.” เตรียมถกเพิ่มมาตรการกระตุ้น ศก.ช่วยประชาชน ข่าวดีคนไทยเตรียมรับวัคซีนโควิด-19 หลัง ครม.อนุมัติงบกลางกว่า 6 พันล้านบาทจัดหาวัคซีนสำหรับประชาชน "อนุทิน" หนุน สธ.ลดวันกักตัว มั่นใจประสิทธิภาพคุมโรค
เมื่อวันอังคาร นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีจะมีการเตรียมต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเวลา 45 วัน ว่าเป็นการคาดการณ์ ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย. อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากเรียนว่าในส่วนมาตรการที่จะควบคุมและอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุข ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในแต่ละครั้งก็เพื่อประโยชน์ในการดูแลประชาชน และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในด้านสาธารณสุข ไม่มีประเด็นในเรื่องการเมือง ซึ่งปัจจุบันก็มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมเรื่องโควิด-19 แต่ก็ยังมีเรื่องการชุมนุมอยู่ด้วย
"ส่วนถ้าจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเวลา 45 วัน ก็เพราะต้องการให้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปีใหม่ที่ประชาชนมีการเดินทาง สำหรับเรื่องการลดวันกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วันหรือไม่ จะมีการหารือในที่ประชุม ศบค. แต่ในเบื้องต้นจากข้อมูล ณ ปัจจุบัน ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างประเทศยังมีการตรวจพบเชื้ออย่างต่อเนื่อง แม้บางครั้งกักตัว 14 วันก็มีโอกาสพบได้ ตรงนี้จะมีการประเมินในที่ประชุม ศบค.อีกครั้ง"
นายอนุชากล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 18 พ.ย. จะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ด้วย ซึ่งในที่ประชุม ครม. มีการพูดคุยในเบื้องต้นถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาโครงการเพิ่มเติมให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และช่วยพ่อค้าแม่ค้าได้ด้วย โดยจะนำเข้าที่ประชุม ศบศ.ขอย้ำว่าโครงการทั้งหมดเมื่อผ่านที่ประชุม ศบศ.แล้ว ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.ก่อนมีผลดำเนินการ เช่น หากที่ประชุม ศบศ.อนุมัติโครงการคนละครึ่งในเฟสต่อๆ ไปแล้วประชาชนอย่าเพิ่งไปลงทะเบียน เพราะจะยังไม่มีการเปิดลงทะเบียนใดๆ จนกว่าจะผ่านที่ประชุม ครม.เพื่อความรอบคอบ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) และการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด วงเงิน 6,049,723,117 บาท โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติจะจัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า (Advance Market Commitment ; AMC) ภายใต้เงื่อนไขว่ามีโอกาสที่จะได้หรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุผลอื่นๆ ในวงเงิน 2,379,430,600 บาท และให้กรมควบคุมโรคจัดทำสัญญาในการจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้านั้น เมื่อคู่สัญญาสามารถจัดหาวัคซีนได้สำเร็จ (Purchase Agree For Supply of AZD1222 in Thailand ; PA)) ในวงเงิน 3,670,292,517 บาท โดยดำเนินการจัดทำสัญญาทั้ง 2 ฉบับ ในคราวเดียวกัน โดยสัญญาจัดซื้อวัคซีนมีผลผูกพันเมื่อได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคจะจัดทำคำของบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนตามสัญญาดังกล่าวต่อไป
ในการนี้ ครม.อนุมัติวงเงิน 2,379,430,600 บาท งบกลาง จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้า ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อการดำเนินการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า รัฐบาลมอบให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติทำการจองวัคซีนแบบล่วงหน้า โดยจะเป็นการจัดหาวัคซีนร้อยละ 20 ของประชากร หรือประมาณ 13 ล้านคน จำนวน 26 ล้านโดส ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม ในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในโลก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเตรียมที่ ศบค.ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน เตรียมเสนอในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ โดยให้ชะลอเรื่องการลดจำนวนวันเหลือ 10 วัน ตามที่มีข้อเสนอ และให้คงระยะเวลากักตัวไว้ที่ 14 วันก่อนว่า เดี๋ยวมาหารือกันเพื่อหาความลงตัวให้ได้ ทางการแพทย์ยืนยันระยะเวลา 10 วันกับ 14 วันไม่แตกต่างกันมากในการควบคุมโรค แต่ไม่ได้หมายความว่าตัดเวลา 4 วันหายไป แต่อาจจะอยู่ภายใต้การควบคุม ให้ติดตามตัวได้ตลอดให้ เราต้องพยายามลดช่องว่างลงมาจากผู้ร้องและผู้ถูกกักตัว ก็ร้องเรียนเข้ามาว่าออกไปไหนไม่ได้ ทั้งนี้เรื่องใดที่สรุปแล้วก็นำเข้ามาพิจารณา ก็ต้องรับฟัง เพราะอาจจะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และสรุปกันในที่ประชุมไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาก็ไม่ถึงกับต้องโหวต ทุกอย่างต้องว่ากันด้วยเหตุและผล
เมื่อถามว่า ศบค.ชุดเล็กที่เห็นว่าควรชะลอลดเวลากักตัวไว้อาจจะไม่นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เห็นวาระการประชุม หมอและกรมควบคุมโรคก็ยอม ถ้าเขาไม่คิดถึงความสะดวกของประชาชน และเขาว่าไม่ต้องเสนออะไรเลยก็ได้ ไม่ต้องถูกใครดุใครว่า ที่เสนอให้ลดเวลากักตัวเพราะมั่นใจในประสิทธิภาพของเขา โดยเฉพาะกรมควบคุมโรคสามารถคัดแยกคัดกรองด้วยประสบการณ์ ไม่ได้ทำแค่ตอนที่มีโควิด ไข้หวัดนก โรคซาร์ส อีโบลา ถึงมั่นใจว่าทำอย่างนี้แล้วความปลอดภัยจะเกิดขึ้น หากจะหลุดรอดไปก็คงอยู่แค่ส่วนน้อย แต่ยังมีระบบติดตามการรักษา และรับมือไม่ให้กระจายเป็นวงกว้าง ไม่มีซูเปอร์สเปรดเดอร์ เขามั่นใจอย่างนี้จึงเสนอมา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชมเชยที่กล้าเสนอลดวัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |