ตำรวจเยอรมันจับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน และบุกตรวจค้นสถานที่หลายแห่งในกรุงเบอร์ลินเมื่อวันอังคาร ในคดีปล้นเพชรครั้งใหญ่จากพิพิธภัณฑ์เมืองเดรสเดินเมื่อปีที่แล้ว

    ตำรวจเยอรมันบุกตรวจค้นสถานที่ 18 แห่งในกรุงเบอร์ลิน รวมถึงอพาร์ตเมนต์ 10 แห่ง, โรงรถและยานพาหนะหลายคัน เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยและค้นหาเครื่องเพชรที่โดนปล้นไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนปีที่แล้ว จากพิพิธิภัณฑ์กรีนโวลต์ ที่ตั้งอยู่ในพระราชวังเมืองเดรสเดิน ภาคตะวันออกของประเทศ สื่อท้องถิ่นระบุเป็นการปล้นงานศิลปะครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่

    ตำรวจและอัยการเยอรมันแถลงเมื่อวันอังคารว่า ปฏิบัติการในวันนี้มุ่งไปที่การค้นหาทรัพย์สมบัติศิลปะที่โดนขโมยและหลักฐานที่เป็นไปได้ เช่น สื่อที่ใช้เก็บข้อมูลสมบัติที่โดนขโมย, เสื้อผ้าและเครื่องมือที่คนร้ายใช้

    โจรที่เข้าไปขโมยเครื่องเพชรในพิพิธภัณฑ์เมืองเดรสเดิน ลงมือโดยจุดไฟเผาแผงควบคุมไฟฟ้าของพิพิธภัณฑ์ จนทำให้ไฟฟ้าดับบางส่วน และบุกเข้าไปทางหน้าต่างของพิพิธภัณฑ์และใช้ขวานทุบตู้กระจกจัดแสดง เพื่อขโมยเครื่องเพชรล้ำค่าซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นของพระเจ้าออกัสตัสที่ 2 แห่งโปแลนด์ ผู้ปกครองแคว้นแซกโซนีสมัยศตวรรษที่ 18

    พิพิธภัณฑ์กรีนโวลต์เมืองเดรสเดินเผยว่า สมบัติล้ำค่าที่โจรได้ไปรวมถึงดาบเล่มหนึ่งที่ประดับด้วยเพชรเม็ดใหญ่ 9 เม็ด และเพชรเม็ดเล็กๆ 770 เม็ด และที่พาดไหล่ของดาบเล่มนี้ซึ่งประดับด้วยเพชรขาวเดรสเดิน 49 กะรัต

    ในปฏิบัติการจู่โจมเพื่อตรวจค้นและจับกุมเมื่อวันอังคาร ใช้กำลังตำรวจราว 1,600 นาย โดยมีกำลังเสริมจากทั่วประเทศ ตำรวจไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้ต้องสงสัยที่โดนจับทั้ง 3 คน แต่บอกว่าเป็นพลเมืองเยอรมัน

    อัยการเมืองเดรสเดินเผยว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน โดนตั้งข้อหาปล้นทรัพย์ร้ายแรง และข้อหาวางเพลิง 2 กระทง

    หนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมันรายงานว่า สถานที่หลายแห่งที่ตำรวจบุกจู่โจมในกรุงเบอร์ลินเมื่อวันอังคาร เชื่อมโยงกับครอบครัวเชื้อสายอาหรับครอบครัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรที่ชื่อว่า "ตระกูลเรมโม"

    แก๊งอาชญากรนี้เกี่ยวพันกับเหตุปล้นพิพิธภัณฑ์โบเดอกลางกรุงเบอร์ลินเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งคนร้ายขโมยเหรียญทองคำหนัก 100 กิโลกรัม.