แก้ รธน. ปะทะเดือด “ใน-นอก” รัฐสภา ระอุ


เพิ่มเพื่อน    

 

   เป็นไปตามคาด กับการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญวันแรกเมื่อวันอังคารที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่บรรยากาศทั้งในห้องประชุมรัฐสภา กับการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ทั้งรัฐบาล-ฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีบางส่วนโยงไปถึงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองของม็อบสามนิ้ว และบรรยากาศนอกห้องประชุมรัฐสภา บริเวณสามเสน-เกียกกาย ที่ตั้งอาคารรัฐสภา ซึ่ง “เดือด-ระอุ” ตลอดตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงหัวค่ำของวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากันระหว่าง

            “กลุ่มผู้ชุมนุมม็อบสามนิ้ว VS ตำรวจ”

            เพราะฝ่ายผู้ชุมนุม ซึ่งเรียกร้องให้มีการแก้ไข รธน.ด้วยการให้ผ่านร่างแก้ไข รธน.ฉบับประชาชนหรือไอลอว์ พยายามจะเคลื่อนไปชุมนุมให้ใกล้หน้าตึกรัฐสภาให้ได้มากที่สุด แต่ทางตำรวจได้พยายามสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปถึงเป้าหมายได้ เลยใช้อุปกรณ์ขีดขวางต่างๆ เช่น ตั้งแท่นปูนแบริเออร์และลวดหนามขวางไว้สลับกันถึง 5 ชั้น แต่เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเคลื่อนตัวไปหน้ารัฐสภาให้ได้ สุดท้าย ตำรวจเลยพยายากสกัดด้วยการยิงน้ำแรงดันสูงฉีดและใช้แก๊สน้ำตา และสถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเมื่อบางช่วง กลุ่มผู้ชุมนุมม็อบสามนิ้วได้เผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองที่มาปักหลักชุมนุมก่อนตั้งแต่ช่วงเช้า โดยผู้ชุมนุมของสองฝ่ายบางส่วนมีการขว้างปาสิ่งของใส่กันวุ่น จนมีรายงานว่ามีประชาชนบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากเหตุเผชิญหน้าดังกล่าว

            ประมวลจากสถานการณ์แล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ที่มีกระแสข่าวว่ามีแนวโน้มที่จะมีการให้ความเห็นชอบร่างแก้ไข รธน.ของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่แก้ 256 เพื่อตั้งสภาร่าง รธน.มายกร่าง รธน.ฉบับใหม่ โดยบางฝ่ายตั้งความหวังว่า การแก้ไข รธน.ดังกล่าวจะช่วยถอดสลักวิกฤติการเมืองในเวลานี้ได้ แต่ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลายฝ่ายประเมินว่าอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะผลพวงการแก้ไข รธน.ที่ดำเนินอยู่เวลานี้ ต่อให้มีการแก้ 256 จนตั้งสภาร่าง รธน. แต่บางกลุ่ม เช่น แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 63 ก็ยังไม่พอใจอีก หากว่าร่างแก้ไข รธน.ฉบับไอลอว์ไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา วันพุธนี้ 18 พ.ย.

            ทำให้ดูไปแล้ว ถึงสุดท้ายมีการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมา ความขัดแย้งก็คงไม่จบง่ายๆ กับการที่คนในสังคมแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ “กลุ่มสนับสนุนให้มีการแก้ไข รธน.-กลุ่มคัดค้านการแก้ไข รธน.” ที่ต้องยอมรับว่ามีความเชื่อมโยงกับการแบ่งข้างเลือกขั้ว ระหว่าง “กลุ่มม็อบสามนิ้ว-กลุ่มต้านม็อบสามนิ้ว” ที่เคลื่อนไหวยึดโยงกับประเด็นอื่นๆ ด้วย เช่น การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ก็จะมีกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านการจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน

            ผลก็คือ การแบ่งข้างแบ่งขั้วเช่นนี้ทำให้ความขัดแย้งในสังคมการเมืองก็ยังดำเนินอยู่ต่อไปเช่นนี้เรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่า จะเดือดกันตอนไหน แม้ต่อให้มีการยกร่าง รธน.ฉบับใหม่เกิดขึ้นก็ตาม

            ซึ่งสถานการณ์การเมืองจะไปถึงจุดใดต่อจากนี้ ความร้อนแรงทั้งในและนอกรัฐสภาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ลำดับแรกเลยก็ต้องติดตามผลการลงมติของสมาชิกรัฐสภา ต่อญัตติร่างแก้ไข รธน.ในวันพุธที่ 18 พ.ย. ว่าสุดท้ายเสียงส่วนใหญ่จะเห็นชอบกับร่างแก้ไข รธน.ร่างใดบ้าง จากที่มีอยู่ในวาระการลงมติ 7 ร่าง ทั้งของพรรคร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้านและร่างไอลอว์

            เพราะมติที่จะออกมาจะเป็นจุดไคลแมกซ์สำคัญของการเมืองต่อจากนี้ โดยเฉพาะหากสุดท้ายร่างไอลอว์ไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา จะทำให้การเมืองนอกรัฐสภาร้อนระอุหรือไม่ เมื่อกลุ่มแกนนำและผู้สนับสนุนม็อบส่งสัญญาณ not a compromise หลังมีการเผชิญหน้ากันที่บริเวณโดยรอบหน้าตึกรัฐสภา เกียกกาย และมีข่าว ร่างไอลอว์จะโดนคว่ำในวาระแรก 

            ผลลงมติ 18 พ.ย.นี้ คือจุดไคลแมกซ์สำคัญที่จะบอกฉากต่อไปของการเมืองไทยร้อนๆ ต่อจากนี้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"