16 พ.ย. 2563 นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ เปิดเผยว่า การทำธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 คือ การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเรื่องความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศ และที่เคยเดินทางมาเยี่ยมเยือนโครงการของบริษัทจากทั่วโลก ขณะเดียวกันยังต้องบริหารความคาดหวังจากบรรดาร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความสำเร็จในรูปแบบใหม่ๆร่วมกัน จึงนับเป็นโอกาสที่ทำใหบริษัทฯเร่งปรับและพัฒนาองค์กรให้สำเร็จในปีนี้ ให้บรรดาบุคลากรทั้งหมดสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
สำหรับท่ามกลางความท้าทายบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงสร้างสู่การเป็นองค์กรที่นำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่แตกต่างและไม่เหมือนใครผ่านช่องทางออมนิชาแนล ที่ขยายเครือข่ายบนแพลทฟอร์มต่างๆให้เข้าถึงตัวลูกค้าทั่วประเทศและทั่วโลกแล้วเชื่อมโยงกลับมาที่สินค้าและบริการในศูนย์การค้า รวมทั้งการพัฒนาระบบอัตโนมัติในการบริหารจัดการและการให้บริการ โดยได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกแห่งหนึ่งมาจัดแผนงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งเสริมทีมงานโดยมีผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าด้านเทคโนโลยี ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย คือ นายอริยะ พนมยงค์ อดีต Head ของ Google ประเทศไทย , อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท LINE ประเทศไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational ที่จะเข้ามาเป็นผู้นำทัพการเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับบริษัทฯในครั้งนี้
“บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวจะนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลออมนิชาแนลและประสบการณ์จากการให้คำแนะนำแก่บริษัท Fortune Global 500 มากมาย มาสนับสนุนให้สยามพิวรรธน์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำออมนิชาแนลที่โดดเด่นในประเทศไทย และภูมิภาคในอนาคต และในส่วนของ อริยะ พนมยงค์ ซึ่งเคยเป็นผู้นำในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก รวมทั้งมีประสบการณ์ที่กว้างขวาง เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชียล จะมาสนับสนุนสยามพิวรรธน์ในการขับเคลื่อน และสร้างมิติใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ” นางชฎาทิพ กล่าว
นางอัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าใน 3 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ ได้ใช้เงินไปประมาณ 900 ล้านบาท ในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม และระบบบริหารฐานข้อมูลอย่างครบวงจร โดยมีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องในปี 2564 เพื่อพัฒนาระบบอัตโนมัติ 30 โครงการเพื่อลดขั้นตอนการทำงานของพนักงานในการให้บริการเรื่องต่างๆ ลดขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน ผลักดันให้ทุกคนทำงานได้สำเร็จเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีแผนที่จะปรับปรุง 3 ศูนย์การค้าในเครือ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ในปี 2564-2565 ด้วยการปรับคอนเซ็ปต์การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนลทั่วทุกอาคาร เพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ และทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงประสบการณ์ต่างๆได้ตลอดเวลา
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |