“ประยุทธ์” ยันไทยยังมุ่งมั่นสู้โควิด ปีหน้าเริ่มทดสอบวัคซีนในคนแน่ “ศบค.” เผยตัวเลขผู้ติดใหม่เพิ่ม 8 ราย ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลเหลือแค่ 99 ราย หมอโสภณชี้ “ดาวน์ซินโดรม-เบาหวาน” เสี่ยงสูง หากติดไวรัสมรณะ เตือนดูแลเข้มการ์ดอย่าตก

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เพจไทยคู่ฟ้าได้เผยแพร่คำพูด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กล่าวผ่านทางพอดแคสต์? ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เราต้องต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 เพราะมีผลกระทบตามมาทั้งเศรษฐกิจปากท้อง แต่เราไม่ได้เผชิญเพียงลำพัง เราแก้ปัญหาคนเดียวไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาในลักษณะความร่วมมือกัน ทุกประเทศมีชะตากรรมร่วมกัน แต่ไทยถือว่ามีความโดดเด่น มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก? เพราะเขาสนใจว่าเรารับมือโควิด-19 ได้อย่างไร
"เราได้รับความชื่นชม คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนภูมิใจ เพราะไทยเป็นแกนหลักสำคัญที่ถูกจับตามองในเวทีระหว่างประเทศ และวันนี้รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดในการแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งในเรื่องของวัคซีนโควิด-19 โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขณะนี้ของไทยกำลังทำวิจัย คาดว่าจะทดสอบในคนได้ในปีหน้า เราต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุด ต้องทดลองในคนจำนวนมากพอสมควร เราต้องทำให้มั่นใจว่าปลอดภัย อีกทั้งเรายังมีความร่วมมือกับอีกหลายประเทศเรื่องของการวิจัย หากสำเร็จขึ้นมาเราก็มีโอกาสร่วมใช้กับเขาด้วย”
    ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย ในสถานกักกัน ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,874 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,715 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 99 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย
         สำหรับผู้ป่วยใหม่ รายที่ 1 เดินทางมาจากประเทศเบลเยียม เป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 39 ปี อาชีพแม่บ้าน, รายที่ 2 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 37 ปี อาชีพแม่บ้าน, รายที่ 3 และรายที่ 4 เดินทางมาจากอียิปต์ เป็นชาย สัญชาติอียิปต์ อายุ 47 ปี อาชีพนักธุรกิจ และเป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 36 ปี อาชีพแม่บ้าน, รายที่ 5-7 เดินทางมาจากประเทศอินเดีย รายที่ 5 เป็นชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 45 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัวรายที่ 6 เป็นชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้าง และรายที่ 7 เป็นหญิง สัญชาติอินเดีย อายุ 46 ปี อาชีพแม่บ้าน ส่วนผู้ป่วยใหม่รายที่ 8 เดินทางมาจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 575,576 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแล้วกว่า 54 ล้านราย จึงต้องระวังตนเอง ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก สำหรับประเทศที่มีผู้ป่วยรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย และอิตาลี สำหรับไทยยังคงควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ดี อยู่ในอันดับที่ 151 ของโลก
นพ.โสภณกล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันเบาหวานโลก สหประชาชาติได้ออกมาเตือนว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อีกข้อมูลจากผลการวิจัยของหน่วยงานสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีข้อมูลระหว่างวันที่ 21 มี.ค.-5 มิ.ย. พบว่าผู้ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 มากกว่าบุคคลอื่น โดยจะมีอัตราการเสียชีวิต 451 คนต่อประชากร 100,000 คน
         “ผู้ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้บางประเภท เช่น ดาวน์ซินโดรม มักมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ โรคอ้วน และเบาหวาน จึงทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง หากติดเชื้อโควิด-19 จะมีโอกาสที่อาการรุนแรงและเสียชีวิตได้มากกว่ากลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน” นพ.โสภณกล่าว และว่า ขอให้ผู้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ดูแลเอาใส่ใจสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างใกล้ชิด เมื่อมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ต้องสวมหน้ากากผ้า และหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
 นพ.โสภณกล่าวอีกว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว โอกาสเจ็บป่วยเป็นไข้หวัดหรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ขอให้ดูแลสุขภาพกลุ่มเสี่ยงและตนเองให้แข็งแรง โดยการรักษาความอบอุ่นของร่างกาย สวมเสื้อผ้าหนาๆ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่หากพบว่าป่วยเป็นไข้หวัดหรือระบบทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากอนามัย ไม่คลุกคลีและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจและโรคโควิด-19 ได้ด้วย.