อยุธยาระอุ! ไล่ธนาธรลามพิธาแก๊ง ส.ส.ก้าวไกล ขณะที่พ่อฟ้าปากยังกล้า ไม่หวั่นชาวบ้านต้านลงพื้นที่ ชี้กระแสคณะก้าวหน้าดี ท้าศรีสุวรรณเชิญร้อง กกต.ปลุกท้องถิ่นยุติผูกขาดอิทธิพลท้องถิ่น
    เมื่อวันอาทิตย์ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่าขณะนี้กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครดำเนินการเสร็จแล้ว และทางปลัด อบจ. ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำ อบจ. ได้ประกาศผลเรียบร้อยแล้ว ในวันจันทร์ที่ 16 พ.ย. จะสามารถสรุปและประกาศได้ว่าจำนวนที่จะประกาศมีเท่าใด และไม่ประกาศมีจำนวนเท่าใด
     พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการเลือกตั้งท้องถิ่นยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีผู้ตรวจการการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประสานงานทำงานร่วมกันอยู่ในพื้นที่ ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องร้องเรียนการหาเสียง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น จะมีโทษตามมาตรา 120 หากผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเองเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง โทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
     ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่คณะก้าวหน้าถูกขัดขวางการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครท้องถิ่นหาเสียงว่า ถ้าเราไปลงพื้นที่ตามปกติโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าจะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่พอแจ้งล่วงหน้าก็มีการจัดตั้งกันมา ทำให้เราเสียประสิทธิภาพในการหาเสียง แต่เราไม่ได้ท้อถอย ยังเดินหน้าทำงานต่อเนื่อง ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ คอยบอกว่าอย่าท้อถอย ให้สู้ต่อไป
    "พอเริ่มเกิดกระแสการเมืองท้องถิ่น กระแสการสนับสนุนคณะก้าวหน้าในระดับท้องถิ่นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่มาที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการขัดขวางเหล่านี้ เรากำลังต่อสู้กับอิทธิพลในพื้นที่ของการเมืองระดับท้องถิ่น หลายจังหวัดที่เราส่งผู้สมัครถูกผูกขาดทางการเมืองมาอย่างยาวนานหลายสิบปี เมื่อเช้าได้ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เชิญชวนประชาชนให้ออกมาเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อเปลี่ยนแปลงสมุทรปราการ อย่าให้กลุ่มนายทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมายึดครองการเมืองในสมุทรปราการ ซึ่งประชาชนบอกกับผมว่าเข้าใจ แต่อย่าพูด เพราะพูดดังกลัวโดนยิง ผมจึงถามว่าเราจะเอาการเมืองที่คุกคามด้วยอิทธิพลด้วยความกลัวต่อไปอย่างนั้นหรือ จะทำอะไร จะชูสามนิ้วในชุมชนก็กลัว เพราะอิทธิพลของการเมืองท้องถิ่นที่ทำผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหัวคะแนน ตนจึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลง ยุติอิทธิพลบ้านใหญ่ ยุติอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่ที่มีมาอย่างยาวนาน" นายธนาธรระบุ
         เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมตรวจสอบคณะก้าวหน้า ตามคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ว่ามีกระทำการเลียนแบบพรรคการเมือง นายธนาธรกล่าวว่า เชิญเลย จะทำอย่างไรก็ทำ เราไม่ได้ถืออำนาจยุติธรรมไว้ ไม่มีอำนาจทางกฎหมาย ถ้าอยากจะตัดสินหรือทำอะไรก็คงเป็นหน้าที่ของพวกเขา ส่วนเราทำงานของเราให้เต็มที่ ทำทุกวันที่เหลืออยู่ให้เต็มที่ ซึ่งเหลืออีกกว่า 30 วันจะถึงวันเลือกตั้ง เราจะใช้ทุกวันให้มีความหมาย
     เมื่อถามถึงกรณีมีกลุ่มคนสวมใส่เสื้อสีเหลืองอ้างว่าออกมาปกป้องสถาบัน แต่มีพฤติกรรมขัดขวางการลงพื้นที่ นายธนาธรกล่าวว่า การดึงสถาบันมาโจมตีคณะก้าวหน้าในการเมืองท้องถิ่นไม่ได้เป็นผลดีต่อสถาบัน สำหรับตนเอง ถ้าจะรณรงค์ไม่ให้พี่น้องประชาชนไม่ให้เลือกพวกเรา ก็เป็นสิทธิของทุกคนที่จะทำได้ แต่ตนก็จะเดินรณรงค์ตามตลาด ตามพื้นที่ต่างๆ ต่อไป จะบอกประชาชนว่าให้เลือกพวกเรา ต่างฝ่ายต่างให้เหตุผล อย่าลิดรอน สิทธิเสรีภาพของกันและกัน เราต่างคนต่างรณรงค์ โดยต้องไม่ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของกันและกัน ให้ประชาชนตัดสินใจน่าจะเป็นทางออกให้ประเทศดีที่สุด  
    ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ร่วมกันพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความชุลมุน เนื่องจากมีประชาชนกลุ่มปกป้องสถาบันกษัตริย์มาชูป้ายและมารอพูดคุยกับคณะ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่หน้าวัดใหญ่ชัยมงคล
     โดยกลุ่มมวลชนออกมาชูป้ายตะโกนขับไล่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ขณะลงพื้นที่พบปะประชาชน ทำให้นายพิธาและนางอมรัตน์ออกมาพูดคุย โดยมวลชนได้บอกให้พรรคเลิกสนับสนุนการชุมนุม และยกเลิกการปฏิรูปสถาบัน จนเกิดการโต้เถียงกันนานกว่า 20 นาที ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของตำรวจ ก่อนที่มวลชนจะแยกย้าย และสมาชิกพรรคก้าวไกลเดินทางกลับโดยทันที
    โดยนายพิธากล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนกลุ่มนี้ นอกจากจะมีความเห็นต่างกันแล้ว ก็ยังเห็นร่วมกันในประเด็นที่ว่า รัฐสภาต้องเป็นต้นแบบในการเปิดพื้นที่ให้มีการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ และมีความประณีต เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์กับประชาชนดีขึ้นในยุคสมัยที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไป เมื่อการเมืองนิ่ง ประเด็นเหล่านี้ถูกพูดคุยอย่างมีวุฒิภาวะ และพูดคุยกันในพื้นที่ปลอดภัยประเทศไทย
      ที่บริเวณหมู่บ้านปรารถนา ม.3 ต.เสม็ด อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี นายภูริวัฒน์ เสมอวงษ์ ผู้สมัคร ส.อบจ.ชลบุรี เขต 6 อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี เบอร์ 1 พร้อมด้วยนายวินัย พ้นภัยพาล อดีตกำนันตำบลเสม็ด หัวหน้ากลุ่มพัฒนาเมืองอ่างศิลา พร้อมด้วยอดีตผู้นำท้องถิ่น และลูกทีมหาเสียงได้ลงพื้นที่ ขณะนี้บรรดาผู้สมัครต่างระดมหาเสียงกันทั้งช่วงเช้า เย็น และค่ำ เนื่องจากประชาชนมีเวลาทั้งก่อนและกลับจากทำงาน
         ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา ซึ่งเขต อ.เมืองฯ มี ส.อบจ.ได้ 8 คน 8 เขตเลือกตั้ง ซึ่งทีมแชมป์เก่าคือ ทีมโคราชชาติพัฒนา โดยมีนายประพจน์ ธรรมประทีป อดีต ส.จ.อำเภอเมืองฯ เป็นหัวหน้าทีม มีคู่แข่งที่ส่งผู้สมัคร 8 เขตเลือกตั้งเช่นเดียวกันคือ กลุ่มคณะก้าวหน้า (พรรคอนาคตใหม่) มีนายอนันต์ สิมมานนท์ แกนนำคณะก้าวหน้า จ.นครราชสีมา
    ที่ จ.บุรีรัมย์ นายแพ เดชพร อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เขต 1 อ.เมืองบุรีรัมย์ กลุ่มเพื่อนเนวิน ได้นำรถหาเสียงพร้อมทีมงานลงพื้นที่ติดป้ายหาเสียงตามหมู่บ้าน ชุมชนในเขตพื้นที่เลือกตั้ง ทั้งยังหาเสียงและแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายกลุ่มให้กับประชาชน ซึ่งเป็นการเข้าถึงพี่น้องประชาชนชนิดแบบเคาะประตูบ้าน
    สำหรับบรรยากาศการหาเสียงที่ จ.สงขลา ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา และ ส.อบจ.สงขลา พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา หมายเลข 2 ทีมสงขลาประชารัฐ และลูกทีมผู้สมัคร ส.อบจ. ลงพื้นที่บริเวณตลาดนัดรถไฟวันอาทิตย์ เขตเทศบาลนครสงขลา โดยเดินหาเสียงแนะนำตัวกับประชาชนในพื้นที่.