ไม่มีโอกาสได้คลุกคลีกับพวก นักการเมือง เขาซักเท่าไหร่...เลยไม่รู้ว่า หลังๆ นี้เขา ดูด กันไปถึงไหนแล้ว แต่ก็อย่างที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านว่าไว้นั่นแหละว่า การ บ๊วบ กันและกันระหว่างนักการเมือง มันน่าจะเป็นเรื่องของ ความสมัครใจ จะไปข่มโคขืนให้กลืนหญ้า หรือกลืนอะไรต่อมิอะไร มันคงเป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ ดังนั้น...คงต้อง ทำใจ ว่าการบ๊วบ หรือการดูดนั้น ถือเป็น ธรรมชาติทางการเมือง แบบที่ท่านปรึกษารองนายกฯ ดอกเตอร์ ปณิธาน ท่านว่าเอาไว้จริงๆ...
-----------------------------------------
อย่างไรก็ตาม...การที่ท่านนายกรัฐมนตรี บิ๊กตู่ ท่านแสดงให้เห็นว่า ท่านคงไม่ได้คิดจะเห็นด้วยกับกิริยา อาการ หรือพฤติกรรมทำนองนี้ ยังพอรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็ยังถือว่า...พอใช้ได้!!! คือไม่ได้ถึงกับหลับตาพริ้ม เพลิดเพลิน เจริญใจ ไปกับ ธรรมชาติทางการเมือง ที่ออกจะวิปริต ผิดเพี้ยน อยู่พอสมควร แต่ก็นั่นแหละ...ในเมื่อการได้มาซึ่ง อำนาจทางการเมือง มันคงหนีไม่พ้นต้องอาศัยคะแนนเสียงในสภาฯ เป็นตัววัดตัดสินตามระบอบประชาธิปไตย ที่มีการเลือกตั้งเป็นสรณะ จะให้ท่านไปหนีบขา หรือสวมเข็มขัดกันชู้เอาไว้ซะสองชั้น สามชั้น มันก็คงลำบาก มีแต่ต้องปล่อยเลยตามเลย ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติทางการเมือง อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
------------------------------------------
แต่ที่น่าสนใจเอามากๆ กว่าเรื่อง ดูด-ไม่ดูด ก็คือการที่ท่านนายกรัฐมนตรีท่านได้กล่าวคำพูดประโยคที่ว่า... รัชกาลนี้ เป็นรัชกาลแห่งการปฏิรูป...จำคำพูดไว้...เราทำถวายรัชกาลใหม่ สานต่อในสิ่งที่รัชกาลที่ 9 ทรงทำไว้ สืบสาน รักษา ต่อยอดตามพระราชดำรัสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเริ่มต้นไว้... อันนี้ต้องเรียกว่า...ถือเป็นคำพูดที่สำคัญเอามากๆ พอๆ กับคำพูดว่า ขอให้ทำเพื่อแผ่นดิน ที่ประธานองคมนตรี ป๋าเปรม ท่านฝากเอาไว้เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานั่นเอง เผลอๆ...อาจถือเป็นคำพูดระดับ ยุทธศาสตร์ชาติ เอาเลยก็ยังได้...
---------------------------------------------
และภายใต้คำพูดที่ว่านี้...ไม่เพียงแต่จะต้องรองรับไว้ด้วย ความรับผิดชอบ อย่างหนักแน่น มั่นคง และถาวรเท่านั้น แต่ยังต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการเบี่ยงเบน เฉไฉ ออกไปในแนวทางอื่น จากแนวทางที่ควรจะเป็น หรือแนวทางที่ได้ทรงริเริ่ม ไม่ว่าจะในทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ก็ตาม ซึ่งไม่เพียงแต่จะต้องอาศัยความมุ่งมั่น เพียรพยายาม แต่เพียงเท่านั้น ยังหนีไม่พ้นต้องอาศัย สติ และ ปัญญา ควบคู่ไปด้วย เพราะไม่ว่ารัฐบาลไหน ต่อรัฐบาลไหน เท่าที่ผ่านมานั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่าการสืบสาน รักษา ต่อยอด มันไม่ถึงกับเป็นจริง เป็นจัง มากมายซักเท่าไหร่...
-------------------------------------------------
ไม่เช่นนั้น...แนวทางพระราชดำริว่าด้วย ความพอเพียง หรือ เศรษฐกิจพอเพียง ที่ทรงประทานมาให้ปวงชนชาวไทย นับไม่รู้กี่สิบต่อกี่สิบปีมาแล้ว น่าจะไปได้ไกล จนไม่เกิดการย้อนกลับมาสู่การเผชิญหน้ากับ วิกฤติต้มยำกุ้ง ชนิดเล่นเอาระส่ำระสายไปแทบทั้งประเทศ หรือแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ด้วยการ เข้าใจ-เข้าถึง-และพัฒนา ที่ต้องสะดุดหยุดยั้ง ล้มคว่ำคะมำหงาย เมื่อเจอเข้ากับวาทะว่าด้วย โจรกระจอก ของรัฐบาลบางรัฐบาล จนก่อให้เกิดปัญหาลุกลาม บานปลาย มาจนตราบเท่าทุกวันนี้...
--------------------------------------------
การดำรงจุดมุ่งหมาย...เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไป เพื่อแผ่นดิน นั้น จึงคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ด้วยเหตุเพราะภาวะแทรกซ้อนที่อาจฉุดลากกระชากถู ให้รัฐบาลแต่ละรัฐบาลต้องหันเหไปทางอื่นนั้น มันก็เป็น ธรรมชาติทางการเมือง อีกเหมือนกัน แถมยังอาจรวมเอา ธรรมชาติความเป็นมนุษย์ เข้าไปด้วยอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นโลภะ โทสะ โมหะ หรือบรรดา กิเลส ทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้...ระหว่าง คำพูด กับ การกระทำ ต้องหาทางทำให้มันสอดคล้อง ต้องกัน เข้าไว้ อะไรที่มันทำท่าว่าจะเฉๆ ทำท่าว่าจะเบี่ยงเบนออกไป คงต้องหาทางกระชากกลับ ให้มาอยู่ในครรลอง คลองธรรม ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...
--------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...เพียงแค่มีเจตนารมณ์ มีปณิธาน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะกระทำการให้เป็นไปอย่างที่พูดๆเอาไว้ ก็ต้องถือว่าสำเร็จไปแล้วเกือบครึ่งหนึ่ง เท่าที่เหลือๆ...ก็คือต้องหมั่นตรวจสอบตัวเองให้มากๆ เข้าไว้ ว่ายังคงก้าวเดินไปในแนวทางที่หวังและตั้งใจเอาจริงๆ หรือไม่ ยังพอจะเอาชนะ กิเลส ต่างๆ นานา ที่ชำแรก แทรกซึม เข้ามาในแต่ละช่วง แต่ละระยะ ได้มาก-น้อยแค่ไหน และในฐานะผู้ที่ไม่ได้พายอะไรกะเค้าเลย แต่ก็ไม่คิดจะเอาตีนราน้ำอยู่แล้วแน่ๆ คงต้องขออนุญาตส่ง กำลังใจ มาไว้ให้ ณ ที่นี้ ขอให้ประสบความสำเร็จในการ ดูด แต่พอเพียง พอประมาณ อย่าถึงกับบ๊วบแล้วบ๊วบเล่า จนถึงขั้นหลับตาพริ้ม ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เคยตั้งอก ตั้งใจ เอาไว้ง่ายๆ...
---------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Froude (อีกครั้ง)... The upward sweep of excellence is proportioned, with strictest accuracy, to oblivion of the self which is ascending.- การก้าวขึ้นสู่เบื้องสูงแห่งคุณธรรมความดี มีส่วนสมดุลอย่างเคร่งครัดกับการลด-ละ-เลิก...อัตตา...ซึ่งมักทวีขึ้นตามลำดับ...
-------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |