'พงศ์พร'พร้อมแจงเมียไปนอก


เพิ่มเพื่อน    

    ร้องสอบเมีย ผอ.สำนักพุทธฯ ร่วมทริปอินเดีย-เนปาล อ้างส่อผิดจรรยาบรรณ ขรก. เอื้อประโยชน์ครอบครัว "พงศ์พร" รวบรวมหลักฐานเตรียมแจง ปัดใช้อำนาจมิชอบ ยันภรรยาไปในฐานะข้าราชการพศ. ผ่าน คกก.ถูกต้องตามระเบียบ ป.ป.ช.เร่งสางปมเงินทอนวัด ปล่อยนานไม่เป็นธรรมกับพระผู้ใหญ่
    ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายวิชัย ประเสริฐสุดสิริ ผู้ประสานงานองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ขอให้ตรวจสอบกรณีที่นางกนิษฐา พราหมณ์เสน่ห์ ภรรยาของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ. มีชื่อเป็นหนึ่งในคณะเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบลอินเดีย-เนปาล ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-5 เม.ย. 2561 พร้อมทั้งนำหลักฐานเอกสารที่มีรายชื่อของคณะทัวร์และโปรแกรมทัวร์มาแนบเป็นเอกสารให้ตรวจสอบด้วย 
    นายวิชัยกล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ ตนและองค์กรเครือข่ายปกป้องคุ้มครองพุทธศาสนาต้องการให้ตรวจสอบว่าการเดินทางของภรรยาของผู้อำนวยการ พศ. ได้ใช้งบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือไม่  อีกทั้งจะเข้าข่ายในการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวินัยข้าราชการพลเรือน เอื้อประโยชน์ให้กับครอบครัวด้วยหรือไม่ เบื้องต้นขอให้พ.ต.ท.พงศ์พรได้ออกมาแถลงชี้แจงภายใน 15 วัน หรือถ้าหากไม่มีการแถลง ต้องชี้แจงเป็นหนังสือเพื่อให้เป็นที่กระจ่างแก่ชาวพุทธและคนในสังคม และหลังจากนี้ตนและองค์กรเครือข่ายชาวพุทธจะยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ช่วยตรวจสอบในประเด็นนี้อีกทางหนึ่ง 
    ด้านนายประทีป พูนลาภ ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นตัวแทน พศ. ออกมารับหนังสือดังกล่าว เนื่องจากผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และผู้บริหารมีประชุมด่วน เปิดเผยว่า ได้ดูรายละเอียดเบื้องต้น และมอบให้กองเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนมัสการสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาล ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดว่าจริงเท็จอย่างไร ก่อนทำหนังสือชี้แจงต่อผู้อำนวยการ พศ. และชี้แจงต่อผู้ที่มาร้อง คาดว่าการดำเนินการขั้นตอนนี้เร็วที่สุดไม่เกิน 2 สัปดาห์ 
    สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ พศ.จัดขึ้นเพื่อนำเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร และฆราวาส ผู้ส่งเสริม สนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปศึกษาดูงานประกอบศาสนกิจ และนมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ที่ประเทศอินเดีย และเนปาล เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ สร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร และฆราวาส ผู้ส่งเสริม สนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และบุคลากร พศ. โดยพศ.ได้ดำเนินการจ้างเหมาให้บริการโครงการดังกล่าว ซึ่งบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกคือ บริษัท เอ็นซี ฮอลิเดย์ทัวร์ จำกัด ด้วยจำนวนเงิน 4,999,500 บาท
    แหล่งข่าวระดับสูงจาก พศ. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ พศ.จัดขึ้นเพื่อนำเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร และคนนอกคือฆราวาส ที่เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา ไปศึกษาดูงานประกอบศาสนกิจและนมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดียและเนปาล  ในส่วนของงบประมาณนั้น เป็นงบที่ตั้งไว้ตามโครงการของ พศ. ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภามาแล้ว
    “ก่อนเดินทางไป โครงการดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการที่ทำหน้าที่พิจารณาโครงการต่างๆ ใน พศ.แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการคณะกรรมการตรวจสอบหลักฐานการใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบราชการอย่างถูกต้อง ซึ่งเอกสารหลักฐานต่างๆ ยังอยู่ครบถ้วน” แหล่งข่าวระบุ
     ในส่วนประเด็นภรรยาของ พ.ต.ท.พงศ์พรนั้น นางกนิษฐาได้เดินทางไปกับคณะดังกล่าวจริง โดยไปในฐานะข้าราชการใน พศ. ไม่ได้ไปในฐานะภรรยาของผู้อำนวยการ พศ. โดยผ่านกระบวนการคัดเลือกบุคคลที่จะร่วมเดินทางไป มีคณะกรรมการพิจารณาอย่างถูกต้องตามระเบียบราชการ ส่วนสาเหตุที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ พศ.ไปด้วยนั้น เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลในคณะที่เดินทางไป คอยติดต่อประสานงาน และดูแลพระผู้ใหญ่ในคณะ
    “ขณะนี้ พ.ต.ท.พงศ์พรกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อชี้แจงในประเด็นดังกล่าวในเร็วๆ นี้ โดยยืนยันว่าไม่เคยคิดใช้อำนาจส่งภรรยาไปต่างประเทศ และที่เดินทางไป ไปในฐานะข้าราชการของ พศ.คนหนึ่งที่ต้องปฏิบัติงานเท่านั้น” แหล่งข่าวกล่าว
    ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนพิษณุโลก พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) นำสำนวนคดีการทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 3 ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล คาดว่าจะเข้าที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.ได้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ไม่มีความกดดันในเรื่องดังกล่าว แม้เรื่องนี้จะมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะการทำงานของ ป.ป.ช.ไม่มีใครมากดดันได้ เราทำงานเป็นอิสระ กรรมการแต่ละคนมีดุลพินิจของตัวเองในการลงมติแต่ละครั้ง โดยต้องมีเหตุผล
    “พยายามเร่งในเรื่องดังกล่าว เพราะไม่เป็นการยุติธรรม ถ้าปล่อยให้มีข้อกล่าวหาเป็นเวลานาน ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงด้วยว่าการเร่งทำสำนวนนั้นอาจจะเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นจึงต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ นำทุกประเด็นมาพิจารณา” พล.อ.บุณยวัจน์ ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"