ใครเลือก "โจ ไบเดน" เพราะอะไร? ใครเลือก "โดนัลด์ ทรัมป์" ด้วยเหตุผลอันใด?
แนววิเคราะห์มีมากมายหลายมุม
นักวิเคราะห์บางคนฟันธงว่า โควิด-19 คือปัจจัยหลักที่ทำให้ทรัมป์แพ้ และไบเดนชนะ
แม้คนหลังจะไม่มีนโยบายอะไรชัดเจน แต่ความล้มเหลวของทรัมป์ในเรื่องนี้ก็หนักหนาสาหัส
คนอาจไม่ได้ชอบไบเดนมากขนาดนั้น แต่ความไม่ชอบทรัมป์สูงกว่า ก็เลยเลือก "คนที่แย่น้อยกว่า"
เหตุผลข้อสองคือ ไบเดนชนะเพราะแนวทาง "สายกลาง" ไม่ซ้ายไม่ขวาตกขอบ เพราะถ้าซ้ายเกินไปอย่าง "เบอร์นี แซนเดอร์ส" ก็จะสร้างความหวาดกลัวให้คนจำนวนไม่น้อย
หรือถ้าไบเดนขวาไปก็จะสู้ทรัมป์ไม่ได้
ชัยชนะของเขามาจากเสียงของชนชั้นกลางที่กลัวแนวทาง "สุดขั้ว"
วันก่อนผมอ่านเจอใน Facebook มีการเล่าว่าคนไทยในสหรัฐฯ ลงคะแนนให้ทรัมป์หรือไบเดนเพราะอะไร มีเหตุผลตรงๆ ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบชาวบ้านที่น่าสนใจ
เช่นมีคนจำนวนมากที่เลือกไบเดน เพราะเกลียดทรัมป์ หรือพูดง่ายๆ คือเลือกใครก็ได้ ที่ไม่ใช่ทรัมป์
เหตุผลคือไม่ชอบบุคลิก คำพูดคำจา อีกทั้งติดตามข่าวจากสื่อที่เปิดโปงและวิพากษ์ทรัมป์อย่างหนักหน่วงรุนแรงตลอด
ทรัมป์เรียกสื่อหลักเหล่านี้ว่า Fake News
อีกคนหนึ่งเล่าว่า เด็กเสิร์ฟร้านอาหารไทยเลือกคนที่ต่อต้านการทำแท้ง และถ้าเลือกได้อยากโหวตให้เบอร์นี แซนเดอร์ส เพราะชอบนโยบายการศึกษาฟรีของเขา
เหตุผลชัดเจน เพราะคนนี้กำลังคิดเรียนต่อปริญญาโท เนื่องจากหางานทำยังไม่ได้ แต่ไม่อยากติดหนี้การศึกษา
นี่คือตัวอย่างของการตัดสินใจทางการเมืองด้วยเรื่องที่กระทบตัวเองมากที่สุด
อีกคนหนึ่งเล่าว่าเด็กที่ทำงานจะเลือกไบเดน เหตุเพราะนโยบายประกันสุขภาพฟรี
แต่เด็กอีกคนหนึ่งเลือกไบเดนเพราะนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่ดึงดูดใจคือ $15 ต่อ ชม.ทั่วประเทศ
คนไทยอีกคนไม่ชอบนโยบายอพยพเข้าเมืองที่เข้มงวดมากของทรัมป์ ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ คุณภาพ และเลือกคนที่มีการศึกษา หน้าที่การงานดีๆ เท่านั้น
คนไทยอีกคนหนึ่งบอกว่าอยู่อเมริกา เขาก็เสียภาษีไม่ได้น้อยกว่าคนอเมริกันหลายคน แต่โหวตให้ทรัมป์เพราะแม้ว่าจะ "ปากเสีย" แต่ก็ทำให้เขามีรายได้มากขึ้นเพราะเสียภาษีน้อยลง
อีกคนหนึ่งอยู่อเมริกามานานแล้วบอกว่า ไบเดนจะดีสำหรับคนต่างชาติที่มาเรียนหนังสือหรือหางานทำในอเมริกา
คนนี้บอกว่าทรัมป์ดูถูกผู้หญิง, เป็นคนไร้หลักศีลธรรม, เป็นคนโกหกคำโตได้ตลอดเวลา
แต่คำถามใหญ่ก็คือว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ไบเดนได้คะแนนมากเป็นประวัติการณ์คือกว่า 75 ล้านเสียง
ทรัมป์เองก็ได้คะแนนสูงมากคือ 71 ล้านเสียง ซึ่งสูงกว่าที่เขาเองได้รับเมื่อ 4 ปีก่อนด้วยซ้ำไป
ตัวเลขทั้งสองชุดนี้สะท้อนว่าคนอเมริกันแตกเป็นสองกลุ่มใหญ่จริงๆ
แม้ไบเดนจะชนะเลือกตั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนกว่า 70 ล้านคนที่ไม่ลงคะแนนให้เขา หมายความว่าสังคมสหรัฐฯ ยังแตกแยกกันอย่างหนัก
ด้วยเหตุนี้ในคำปราศรัยของไบเดนหลังจากเป็นที่ชัดเจนว่าเขาชนะเลือกตั้งแล้ว ว่าเขาจะต้องบริหารประเทศแบบสมานฉันท์
ไบเดนเน้นว่าเขาจะไม่มองมีรัฐสีแดงหรือรัฐสีน้ำเงิน แต่ "ทุกคนเป็นอเมริกันเหมือนกัน"
ภารกิจหลักของไบเดนจึงต้องทำให้คนที่ชอบทรัมป์เห็นว่าเขาไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็น "ศัตรู" แต่เป็นพลเมืองอเมริกันที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือและความสนใจเหมือนกัน
งานหนักรออยู่ข้างหน้าสำหรับไบเดน แต่เขาบอกว่าหน้าที่ของเขาคือจะต้องทำให้ "ความฝันของทุกคนเป็นความจริงให้ได้".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |