เห็นข่าว เห็นภาพ คุณน้อง ธนาธร อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตหมด อนาคตไหม้ ท่านถูกโห่ ถูกไล่ ถูกต่อต้าน ตั้งแต่เมือง ระยอง ไปจนถึง หนะครซี้ทำม่ะหราด โดยจะถึงขั้นล้อมกรอบกันเลยหรือไม่? อย่างไร? ก็ไม่ถึงกับอยากไปค้นหารายละเอียดอะไรมากมายจนเกินไป แต่จากข่าว จากภาพ ในลักษณะที่ว่า ก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องเก็บไปนึก ไปคิด อยู่บ้างตามสมควร...
----------------------------------------------------
คือเรื่องของอะไรถูก อะไรผิด อะไรเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร สอดคล้อง-ไม่สอดคล้อง กลมกลืน-ไม่กลมกลืน ไปกับ กาลเทศะ หรือไม่? และอย่างไร? คงแทบไม่ต้องเสียเวลาไป คิด แทน คุณน้อง ธนาธร ท่านอยู่แล้วแน่ๆ เพราะไม่ว่าจะคิดแบบไหน หรือคิดแล้วสะท้อนออกมาในมุมไหน แง่ไหน คุณน้องรายนี้...ท่านคง ไม่แคร์แดม หรือคงไม่หยิบเอามาใส่ใจ ใส่หัว ให้เป็นเรื่องรกสมองของท่านอยู่แล้วค่อนข้างแน่ แม้ว่าโดยอายุ อานาม ท่านอาจยังถือเป็น เด็ก แม้ออกไปทาง รุ่นโข่ง เพียงใดก็ตามที แต่โดยความแก่ ความชรา ที่ไม่ว่าจะหนักไปทางแก่แล้ว-แก่เลย หรือแก่แบบไหนๆ ก็แล้วแต่ของตัวเราเอง คงเป็นอะไรที่เด็กๆ หรือคนหนุ่ม-คนสาว รุ่นคุณน้อง ธนาธร ท่านคงไม่คิดหยิบเอามาเป็นเนื้อหา สาระ ตามแบบฉบับ ตามสไตล์ของบรรดาเด็กๆ รุ่น กาเหว่าที่บางเพลง โดยทั่วไป...
------------------------------------------------
ดังนั้น...สิ่งที่อดไม่ได้ที่ต้องหยิบมาคิด รวมทั้งหยิบเอามาสะท้อนไว้ ณ ที่นี้ น่าจะเป็นเรื่องของความเก่ง ความฉลาด ความเชี่ยวชาญ หรือเรื่องของขีดความสามารถ ของประสิทธิภาพ อะไรทำนองนั้น ที่คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า เด็กๆ หรือคนหนุ่มอย่างคุณน้อง ธนาธร นั้น ท่านค่อนข้างจะเอาเรื่อง เอาราว อยู่พอสมควร คือเพียงแค่โดดเข้ามาข้องแวะกับเรื่องราวทางการเมืองอย่างเป็นงาน เป็นการ แค่ไม่กี่ปีเท่านั้นเอง น้อยซะยิ่งกว่า นายใหญ่ หรือท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า รายนั้น...อย่างน้อยก็กินเวลาเกือบเป็นทศวรรษๆ กว่าจะเริ่ม เปิดตัว อย่างเป็นทางการ หรือเลิกคิดเป็น อีแอบ หันมาสว่างจิตแบบไม่คิดแอบจิตอีกต่อไปแล้ว แต่กว่าจะสร้าง ความชอบ และ ความชัง หรือ ความรัก และ ความเกลียด ให้กับ บรรดา ผู้สนับสนุน และ ผู้ต่อต้าน ตัวเอง ได้อย่างเป็นชิ้น เป็นอัน และเป็นเรื่อง เป็นราว ต้องเรียกว่า...แทบเทียบไม่ได้กับสิ่งที่คุณน้อง ธนาธร ท่านประสบความสำเร็จอยู่ในทุกวันนี้...
----------------------------------------------
คือถึงแม้น่าจะมี คนรัก เป็นจำนวนมิใช่น้อย...ไม่งั้นคงไม่สามารถหอบหิ้ว พรรคพวกและบริวาร เข้ามานั่งเก้าอี้ในรัฐสภาเกือบเป็นร้อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็น่าจะมี คนเกลียด โดยจำนวนและปริมาณคงไม่ต่ำ หรือไม่ต่าง ไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงหลังๆ...คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ ว่าออกจะเพิ่มจำนวน ปริมาณ อย่างชนิดมี นัยสำคัญ เอาเลยทีเดียวเจียว หรือพูดง่ายๆ ว่า...ประสบความสำเร็จในการสร้าง ความรัก และ ความเกลียด ให้กับใครต่อใคร ได้ในระดับพอๆ กัน ซึ่งจะถือเป็น ความสำเร็จ หรือ ความล้มเหลว อันนั้น...คงต้องไปว่ากันตามมุมมองของใครก็ของมัน แต่ที่แน่ๆ และที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ มันออกจะเป็นอะไรที่ อันตราย มิใช่น้อย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในวัยเด็กๆ หรือวัยหนุ่ม-วัยสาว ที่ยังมีอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ให้ต้องค้นหา แสวงหา อีกชนิดไม่รู้จะกี่ร้อย กี่พันเรื่อง...
---------------------------------------------------
ความ อันตราย ในลักษณะที่ว่านี้....แม้แต่คนแก่ คนชรา อย่าง นายใหญ่-ทักษิณ ก็น่าจะอ้วกแตก อ้วกแตน มิใช่น้อย ชนิดถ้าหาก แบ็ก ทู เดอะ ฟิวเจอร์ ถ้าสามารถเจาะเวลาหาอดีตกันได้จริงๆ ผู้ที่มีเงิน มีทอง นับหมื่นๆ ล้าน แม้อยู่ในวัยหนุ่ม วัยฉกรรจ์ก็ตาม แต่ในเมื่อยังต้องมี นายหญิง มี โอ๊ค มี อุ๊งอิ๊ง ฯลฯ และอะไรต่อมิอะไรตามมาเป็นพรวนๆ คงไม่น่าจะคิดโดดลงมาสู่ความอันตรายในลักษณะที่ว่า แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะ ความไม่รู้ หรือที่ภาษาพระท่านเรียกว่า อวิชชา อะไรทำนองนั้น กว่าจะรู้เนื้อ รู้ตัว ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็มีอัน สายเกินไป ซะแล้ว!!! เพราะ ความรัก และ ความเกลียด ที่มันทำปฏิกิริยาซึ่งกันและกันอย่างชนิดหนักหน่วงและรุนแรง จนหาจุดจบ หาจุดลงตัวแทบไม่ได้ จึงทำให้ยากที่จะวัดตัดสินว่า ไปๆ-มาๆ...มันคือ ความสำเร็จ หรือ ความล้มเหลว กันแน่!!!...
---------------------------------------------------
สำหรับคุณน้อง ธนาธร นั้น...แม้อาจมีไม่ถึงหมื่นล้าน แสนล้าน แต่ถ้าหาก ใช้เป็น ระดับร้อยล้าน พันล้าน ก็น่าจะเป็นอะไรที่ก่อให้เกิด ประโยชน์ ต่อผู้อื่น ต่อสังคมและชาติบ้านเมือง มากกว่าการเอามาละเลง เอามาให้พรรคอนาคตหมด อนาคตไหม้ กู้ อยู่แล้วแน่ๆ หรือแม้ไม่อาจสร้าง ความรัก หรือ คนรัก ได้มากมายมหาศาลเท่ากับการเป็นอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง พรรคใด แต่คงไม่น่าจะก่อให้เกิด ความเกลียด หรือ คนเกลียด ในจำนวนและปริมาณไม่ต่างไปจากกันซักเท่าไหร่อันอาจส่งผลถึงขั้น...ไม่มีแผ่นดินให้เหยียบ ให้ซุกหัว เอาเลยก็ไม่แน่ โดยเฉพาะถ้ายังไม่มีขีดความสามารถพอที่จะ แบ่งแยก ผืนแผ่นดินออกเป็น 2 ซีก 2 ประเทศ เป็น ราชอาณาจักรไทย ในซีกหนึ่ง และเป็น สาธารณรัฐไทยแลนด์ ในอีกซีกหนึ่ง...
---------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้วิถีชีวิตของคุณน้อง ธนาธร นับแต่นี้ไป คงหนีไม่พ้นต้องข้องเกี่ยว พัวพัน กับเรื่อง การเมือง ไปตลอดชั่วนิจนิรันดร์กาล อันเป็นเรื่องที่ ไม่น่าจะเป็นเรื่อง หรือ ไม่ได้เรื่อง-ไม่ได้ราว เอาเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะถ้ามองจากมุมมองของผู้ที่ยังเชื่อว่า การเกิดมาเป็น มนุษย์ ในชาติใด ชาติหนึ่ง น่าจะมีอะไรที่ควรต้องค้นหา แสวงหา อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่แต่เฉพาะการมง การเมือง ที่แทบไม่ได้ให้ คำตอบ ใดๆ ต่อ ความหมายแห่งความเป็นมนุษย์ ดังนั้น...ภายใต้ ความรัก และ ความเกลียด ที่หนักหน่วง รุนแรง ไม่แพ้กัน วิถีชีวิตของเด็กๆ หรือคนหนุ่ม-คนสาว อย่างคุณน้อง ธนาธร จึงเป็นอะไรที่น่าสงสาร และน่าเวทนามิใช่น้อย เพราะย่อมต้องเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วย อันตราย ไปตลอดทั่วทั้งชีวิต...
---------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Aesop’s Fables”... “A humble life with Peace and Quiet is better than a splendid one with danger and risk.- ชีวิตที่เรียบง่าย อ่อนน้อม เพียบพร้อมด้วยสุข สันติ ย่อมดีกว่าชีวิตที่หรูหรา แต่เต็มไปด้วยภยันตรายและการเสี่ยง...”.
--------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |