ไบเดนกับภารกิจ ‘กู้สถานภาพสหรัฐบนเวทีโลก’


เพิ่มเพื่อน    

 

      พอ โจ ไบเดน ได้เป็น “ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ” และจะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 20 มกราคมปีหน้า สิ่งที่คนไทยควรจะต้องพินิจพิเคราะห์ก็คือสหรัฐจะเปลี่ยนนโยบายต่อภูมิภาคนี้อย่างไร

                และจะมีผลต่อประเทศไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไร

                บางคนเชื่อว่านโยบายเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในมิติต่างๆ ระหว่างไทยกับสหรัฐ รวมทั้งระหว่างสหรัฐ จีน และอินเดีย จะเปลี่ยนแปลงในรูปแบบหรือลีลาท่าที

                แต่ในเนื้อหาสาระแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลงในหลักการ

                นั่นหมายความว่าสหรัฐยังต้องเดินหน้า “ปิดล้อม” และ “จำกัดการขยายอิทธิพล” ของจีนต่อไป

                สไตล์ของไบเดนอาจจะไม่ “โฉ่งฉ่าง” เหมือนทรัมป์

                จะชกสไตล์ “มวยมีเชิง” ไม่ใช่ “มวยวัด”

                แต่ผู้นำสหรัฐคนใหม่ก็จะต้องแสดงให้คนอเมริกันและชาวโลกเห็นว่าเขาไม่ได้ “หน่อมแน้ม” เหมือนกับที่ทรัมป์กล่าวหาเขา

                ทรัมป์เคยหาเสียงด้วยการประกาศว่าถ้าไบเดนเป็นประธานาธิบดี อเมริกาจะถูกจีนยึด

                ความหมายของทรัมป์ก็คือ ไบเดนจะไม่ “กร้าว” ต่อจีนเหมือนเขา

                นโยบายของไบเดนและพรรคเดโมแครตไม่ได้ “อ่อนข้อ” ต่อจีน ยังคงต้องการสกัดการขยายอิทธิพลของจีนทั่วโลก แต่จะทำด้วยมาตรการทางการทูต, การเมือง และด้านความมั่นคงที่กดดันต่อเนื่อง

                ในหลายๆ โอกาสไบเดนอาจจะไม่ออกข่าว ไม่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อต่อรองและกดดันจีนเหมือนทรัมป์

                แต่ไบเดนจะใช้ “การทูต” เพื่อต่อรองและกดดันจีนที่อาจจะให้ผลมากกว่าทรัมป์ด้วยซ้ำไป

                นักวิเคราะห์บางสำนักเชื่อว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงจะยังเกิดขึ้นต่อไปอย่างน้อยก็ในระยะสั้น 1-2 ปีข้างหน้า

                จนกว่าอเมริกากับจีนจะหาทางออกร่วมกันที่สองยักษ์ใหญ่เห็นว่าเป็นหนทางที่ดีกว่าการทำสงครามการค้าด้วยการขึ้นภาษีต่อสินค้ากันและกันจนเกิดความเสียหายทั้งคู่

                นี่เป็นอีกด้านหนึ่งที่ไทยเราจะต้องศึกษาค้นคว้าเพื่อวางยุทธศาสตร์ของเราเองให้สามารถตั้งรับสมการที่เปลี่ยนไประหว่างสองประเทศนี้

                ไบเดนจะกลับมาใช้การค้าเพื่อกู้สถานภาพของอเมริกาในเวทีระหว่างประเทศ

                บางคนเชื่อว่าอเมริกาจะหาทางกลับมาร่วม TPP (Trans-Pacific Partnership) ที่ยุคบารัค โอบามา (ที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี)

                แต่อีกหลายสำนักเชื่อว่าสหรัฐอาจจะหาทางเปิดเวทีการค้าใหม่ๆ ที่จะสร้างกฎกติกาที่จะเอื้อต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในของเขาอันเกิดจากผลกระทบเพราะโควิด-19

                นั่นย่อมแปลว่าเวทีการค้าใหม่ๆ ที่ว่านี้จะต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาที่สหรัฐเป็นคนเขียนขึ้น เป็นกรรมการคุมกติกา และเป็นผู้เล่นด้วย

                จีนจะยอมไบเดนแค่ไหนก็อยู่ที่ว่าปักกิ่งเห็นว่าตนจะยื่นหมูยื่นแมวกับวอชิงตันได้มากน้อยเพียงใด

                ทรัมป์ใช้นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" (America First)

                นั่นคือการทบทวนข้อตกลงเดิมๆ ต่อรองด้วยเงื่อนไขใหม่

                หรือไม่ก็ถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงการค้า ตลอดจนข้อตกลงความเป็นพันธมิตร และสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ

                อ้างว่าข้อตกลงเหล่านี้ “ไม่มีความเป็นธรรมต่อสหรัฐ”

                แต่ไบเดนให้คำมั่นว่าหากเขาชนะเลือกตั้งจะให้อเมริกากลับเข้าร่วมความตกลงปารีส หรือ Paris Agreement เพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ในวันแรกที่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ

                ทรัมป์เคยแสดงความสนิทสนมกับผู้นำประเทศที่มีระบอบการปกครองที่รวมศูนย์อำนาจ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซียหรือเกาหลีเหนือ และดูหมิ่นชาติพันธมิตร แต่ไบเดนประกาศว่าจะฟื้นฟูความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และกลับเข้าร่วมความเป็นพันธมิตรกับนานาชาติ

                และจะพาสหรัฐกลับไปร่วมมือกับ WHO หรือองค์การอนามัยโลก

                อีกทั้งยังจะสวมบทบาทผู้นำโลกในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

                ที่ชัดเจนคือไบเดนต้องการ “กอบกู้ความเป็นผู้นำของสหรัฐ” ในเวทีโลกอีกครั้ง

                เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาไบเดนบอกว่า ชื่อเสียงของสหรัฐในหมู่ชาติพันธมิตรได้ตกต่ำลงไปอย่างน่าเป็นห่วง

                พญาอินทรีจะผงาดขึ้นอีกครั้ง แต่มังกรยักษ์ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมสยบง่ายๆ

                สงครามเย็นรอบใหม่จะมาในรูปไหนเป็นเรื่องที่ไทยเราจะต้องเกาะติด, วิเคราะห์และปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกรอบ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"