12 พ.ย. 63 - เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ หรือ Constitution Advocacy Alliance-CALL และ เครือข่าย People GO จัดงานเสวนาในชื่อ “รัฐธรรมนูญประชาราษฎร์: ความฝันอันสูงสุด” ซึ่งประกอบไปด้วยเครือข่ายที่ขับเคลื่อนในประเด็นต่างๆ อาทิ เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน, เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ, กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก, สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.), กลุ่มคณะจุฬาฯ, กลุ่มเกษตรพอใจธรรม, กลุ่ม Allism (Alliance for Inclusive Society Movement), กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก, We Watch, สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม(EnLAW) โดยต่างเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2560 ต้องแก้ไข เพราะออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจรัฐประหารและมุ่งยึดกุมทรัพยากรโดยผู้มีอำนาจรัฐ มีเนื้อหาเพิ่มอำนาจรัฐ ลดอำนาจประชาชน
โดยท้ายงานเสวนามีการอ่านแถลงการณ์จากภาคประชาชน โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ประชาชนได้ออกมาแสดงพลังบนท้องถนนเพื่อสะท้อนความไม่พอใจต่อระบบระเบียบทางการเมืองที่ถูกสร้างขึ้นโดยบรรดาขุนศึกศักดินาที่พยายามจะดำรงรักษาอำนาจไว้ผ่านกลไกในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 จนนำไปสู่ข้อเรียกร้องสำคัญประการหนึ่งของคือ การผลักดันให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับผ่านการมีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็น “ฉันทามติ” หรือ ข้อตกลงร่วมในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างแท้จริง
ที่ผ่านมา สังคมไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2560 นำมาซึ่งวิกฤติทางการเมืองหลายครั้งหลายครา ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลผสมจากพรรคการเมืองเสียงข้างน้อยที่ไร้ประสิทธิภาพและเสถียรภาพ จนไม่อาจรับมือกับวิกฤติทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงวิกฤติจากระบบตรวจสอบที่ไร้ประสิทธิภาพ ทั้งอำนาจนิติบัญญัติที่อ่อนแอ และองค์กรอิสระที่ถูกแทรกแซงโดยคณะรัฐประหารจนไม่อาจทำหน้าที่ได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ภายใต้การนำของรัฐบาลขุนศึกศักดินาที่มาจากการสืบทอดอำนาจยังมีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างกว้างขว้าง ทั้งเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพสื่อ สิทธิในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้ง ยังมีการลดทอนและละเลยสิทธิของประชาชน เช่น สิทธิทางสาธารณสุข สิทธิทางการศึกษา สิทธิในความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิของชุมชนจากการพัฒนาแบบบีบบังคับจากรัฐ
เพื่อยุติความขัดแย้งและนำพาสังคมไทยไปข้างหน้า เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ หรือ Constitution Advocacy Alliance-CALL และ เครือข่าย People GO จึงมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า ประเทศไทยจำเป็นจะต้องมี “รัฐธรรมนูญประชาราษฎร์” หรือ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” เพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและมีหลักประกันว่าผู้ใช้อำนาจรัฐจะทำงานตอบสนองและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์และความผาสุกของประชาชน
และเนื่องด้วยในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นวันที่ประชุมรัฐสภามีนัดพิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อมาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ภาคประชาชนจึงเห็นว่า รัฐสภาต้องมีมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจด้วยการรื้อถอนองคาพยพทั้งหมดของคสช. เช่นช่องทางนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง วุฒิสภาที่มาจากการสรรหาและคัดเลือกโดยคสช. หรือองค์กรอิสระที่ยึดโยงกับคสช. รวมถึงยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศที่คสช. เป็นผู้กำหนด
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้กลไก สสร. เป็นเพียงพิธีกรรมรักษาอำนาจของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ภาคประชาชนจึงมีข้อเรียกร้องว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องมีหลักการดังนี้
1.สภาร่างรัฐธรรมนูญต้องประกอบด้วยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
2. สภาร่างรัฐธรรมนูญต้องมีอำนาจในการร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกหมวดทุกมาตราให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักประชาธิปไตย
3. สภาร่างรัฐธรรมนูญต้องคำนึงถึงและมีช่องทางในการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ รวมถึงต้องมีความโปร่งใสตรวจสอบได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |