2 พ.ค.61 - พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังจากศาลชั้นต้นปัตตานี พิพากษา 10 ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 คดี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยมีสื่อมวลชน และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ร่วมรับฟังที่บริเวณที่ทางเข้ามัสยิดกลางปัตตานี 1 ในจุดที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด)
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ตามที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมะซัน หรือฮากิบ สาและ กับพวกรวม 10 คน ในความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิตทำให้เสียทรัพย์ ความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน จากคดีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดร้านก๋วยเตี๋ยวเบิ้มนครปฐมหน้าตลาดโต้รุ่ง, ระเบิดร้าน JP เฟอร์นิเจอร์, ระเบิดเรือประมง 2 ลำ, ระเบิดหน้าร้านศรีปุตรีข้างมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี และขยายผลตรวจยึดอาวุธปืนพกและอุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการ รวม 6 คดี เหตุเกิดในพื้นที่เทศบาลเมืองปัตตานีในห้วง มิถุนายน–ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา
เมื่อ 30 เมษายน 2561 ศาลจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 10 คนศาลสั่ง ประหารชีวิต 6 คน คือ นายอิบรอเฮง ยูโซ๊ะ, นายอัมรีย์ ลือเย๊าะ, นายสันติ จันทรกุล,นายอายุบ เปาะลี, นายอิสมาแอ ตุยง และนายนิรอนิง นิเดร์ ศาลสั่ง จำคุกตลอดชีวิต 3 คนคือ นายมะซัน สาและ, นายอับดุลเลาะ หะยีอูมาร์ และ นายรูสรัน แวหะยี เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 คน ให้การที่เป็นประโยชน์แก่การพิพากษาคดี ศาลจึงลดโทษ จากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต และศาลสั่งจำคุก 39 ปี 12 เดือน 1 คน คือ นายฮามิด เจะมะ
จากพฤติกรรมที่ปรากฏของจำเลยทั้ง 10 คน ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุถึง 6 คดี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยในห้วงที่ผ่านมาส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้สูญเสียดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้ที่กระทำความผิด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับการดูแลจากกลุ่ม ที่อยู่เบื้องหลังของการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงแต่อย่างใด โดยทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น จึงขอให้ ช่วยกันดูแลบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด สำหรับผลคำพิพากษาตัดสินคดี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของศาล ซึ่งได้พิจารณาตามพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ และพยานแวดล้อม ที่ทำให้ศาลเชื่อว่า จำเลยทั้ง 10 คน ได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง จึงมีคำสั่งพิพากษาลงโทษดังกล่าว อย่างไรก็ตามจำเลยทั้ง 10 คน ยังมีสิทธิในการยื่นขออุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายได้กำหนดไว้
พล.ต.ต. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าวว่าการดำนินคดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมเริ่มจากการหาพยานหลักฐานนำไปสูการพิพากษาของศาลได้ พิพากษา 6 คดี มี10คนที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายอังยี่ซ่องโจร การหาพยานหลักฐานที่มีการบูณาการร่วมสามฝ่ายครั้งนี้ศาลเชื่อว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิดจริงศาลจึงสั่งติดสิน
พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้ บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 กล่าวว่า เรามีผู้ต้องสงสัย 30คน ออกหมายจับตั้งแต่ปี 2559 และตั้งแต่เดือน พ.ย.ถึงม.ค.2560 เราสามารถจับคนร้ายได้ 15 คน ศาลตัดสินยกฟ้อ ง5 คน เราปล่อยไปแล้ว ส่วน10 คนนี้ ศาลสั่งประหารชีวิต 9 คน แต่ 3 คนได้ให้การเป็นประโชนย์ศาลจึงลดโทษ
นางพยอม รักบุตร แม่ของ จ.ส.ต.อนุรักษ์ รักบุตร ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดข้างมัสยิดกลางปัตตานี ปี 2559 กล่าวว่ามีลูกชายคนเดียวคนนี้มาเสียชีวิตในเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเยียวยาแต่ก็อย่างว่าลูกคนเดียว วันนี้สามารถจับคนร้ายได้ก็คิดว่าดีเหตุการณ์จะได้ลดลงไม่มีผู้สูเสียอีก
ญาติหนึ่งในผู้ต้องหา 10 คน ที่ศาลตัดสินพิพากษา กล่าวว่าเคารพกระบวนการยุติธรรมแต่ยืนยันว่าลูกชายไม่ใช่คนร้ายเขาเป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำก็ขอสู้ต่อไปเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |