ล้อมกรอบ‘ธนาธร’! เสื้อเหลืองนครฯฮือไล่/พ่อฟ้าฮึดสู้หาเสียงใต้ต่อ


เพิ่มเพื่อน    

 คณะก้าวหน้าเตรียมหนาว “กกต.” หยิบกรณีทำตัวเสมือนพรรคการเมืองขึ้นถกแล้ว “ธนาธร” โดนแล้วม็อบเสื้อเหลืองล้อมกรอบขณะลงพื้นที่ช่วยหาเสียง "น้องช่อ" เย้ยแค่คนส่วนน้อย พ่อฟ้าคุยโวยังทำงานอยู่ที่ภาคใต้ต่อ พลิกวิกฤติโพสต์ปลุกต่อสู้อำนาจฝันร้าย

    เมื่อวันพุธที่ 11 พ.ย. มีรายงานข่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำสัปดาห์ เมื่อวันอังคารที่ 10 พ.ย. กกต.ได้หยิบยกกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของการแกนนำคณะก้าวหน้า คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ในการช่วยผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเป็นนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขึ้นมาหารือ เนื่องจากลักษณะการเคลื่อนไหวมีข้อเท็จจริงหลายกรณีที่ทำเหมือนพรรคการเมือง  ซึ่งทางสำนักงาน กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองได้รายงานว่ากำลังเร่งรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อเสนอที่ประชุมใหญ่ กกต.พิจารณาดำเนินการอีกครั้ง
    มีรายงานว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการกับคำร้องลักษณะนี้ กกต.จะให้สำนักงาน กกต.รวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อกฎหมาย เสนอเข้าที่ประชุม กกต. แล้วที่ประชุมก็จะพิจารณาว่าจะมอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมืองใช้อำนาจตามมาตรา 7 พระราช?บัญญัติ?ประกอบ?รัฐธรรมนูญ? (พ.ร.ป.)? ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้คำชี้แจง หรือให้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณา หรือจะมอบหมายให้ด้านสืบสวนทำสำนวนตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนก็ได้  
ทั้งนี้ ตามมาตรา 111 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองระบุว่า “ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดำเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใด ให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี”
    ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มก้าวหน้านั้น พบว่าเมื่อเวลา 11.30 น. ที่โรงแรมราวดี ริมถนนอ้อมค่าย หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังนายธนาธรได้เสร็จสิ้นประชุมกับแกนนำคณะก้าวหน้าและผู้สมัครนายก อบจ.ในภาคใต้เพื่อวางแผนสู้ศึกเลือกตั้ง นายธนาธรได้เดินออกจากห้องประชุมโรงแรมราวดี พร้อมคณะไปขึ้นรถด้านหลังโรงแรมโดยไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวติดตามไปแต่อย่างใด ขณะที่บรรดากลุ่มเสื้อเหลืองผู้จงรักภักดีและปกป้องสถาบันจำนวนมากที่รวมตัวกันปิดกั้นทางเข้า-ออกโรงแรมราวดี ก็มีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมาก นำโดย พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชคอยเจรจาและรักษาความสงบตลอดเวลา
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศต้องการพบตัวนายธนาธร และตะโกนด่าโจมตีนายธนาธรตลอดเวลา รวมทั้งยังได้ตรวจสอบรถที่ออกจากโรงแรมราวดีทุกคัน โดยต้องเปิดลดกระจกลงมาเพื่อตรวจสอบว่านายธนาธรนั่งอยู่ในรถหรือไม่ ท่ามกลางบรรยากาศเคร่งเครียด ซึ่งต่อมามีรถยนต์กระบะคันหนึ่งยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน สี่ประตู แล่นออกมาจากโรงแรม ติดฟิล์มมืดดำทึบ คนขับไม่ยอมลดกระจกลงมา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจพยายามทุบกระจกรถตะโกนให้รถคันดังกล่าวลดกระจกลงเพื่อดูว่านายธนาธรนั่งอยู่ในรถหรือไม่ แต่คนขับไม่ยอมและพยายามขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมอย่างช้าๆ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามขวางและเอารถจักรยานยนต์มาจอดขวาง จึงถูกกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้ามาดึงกลุ่มผู้ชุมนุมออก จนเกิดการชุลมุนอยู่นานหลายนาที ในที่สุดรถคันดังกล่าวก็ฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมออกไปได้ มีการวิ่งไล่ทุบกระจกรถตามหลังจนรถคันดังกล่าวแล่นหายไป โดยยังไม่ทราบว่านายธนาธรนั่งไปกับรถคันดังกล่าวหรือไม่
    ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังปักหลักปิดทางเข้า-ออกโรงแรมและตรวจสอบรถที่ออกจากโรงแรมทุกคัน จนแน่ใจว่านายธนาธรหลบหนีออกจากโรงแรมไปได้กับรถคันใดคันหนึ่งแน่นอน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัวในที่สุด และประกาศจะตามไปขับไล่นายธนาธรทุกแห่งที่ไปปรากฏตัว ไม่ว่าที่ไหนทุกจังหวัดในภาคใต้ ส่วนนายธนาธรก็ไม่ได้แจ้งกำหนดการว่าจะเดินทางต่อไปไหน ขณะเดียวกันมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนไปดักรอที่สนามบินนครศรีธรรมราชอีกกลุ่มหนึ่งด้วย
    ส่วนที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่นายธนาธรพร้อมคณะมีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ในเวลา 13.00 น. เพื่อพบปะกลุ่มนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช หรือเกษตรไสใหญ่ และที่บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา เขตเทศบาลทุ่งสง ซึ่งคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย มีประกาศห้ามใช้พื้นที่เด็ดขาด พร้อมปิดประตูมหาวิทยาลัย โดยอ้างไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนที่บริเวณหอนาฬิกาก็ปรากฏว่ามีกลุ่มมวลชนเสื้อเหลืองกว่า 100 คน รวมตัวชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ปักหลักรอนายธนาธรและคณะ พร้อมจัดกิจกรรมปกป้องเทิดทูนสถาบัน
ท่ามกลางการดูแลความสงบของตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบของ สภ.ทุ่งสง
        และในเวลา 15.30 น. นายธนาธรและคณะไม่ได้เดินทางมาตามกำหนดการ ขณะที่กลุ่มมวลชนมีการส่งเสียงโห่ร้องและเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความสงบ โดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย
    น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีมวลชนบุกคุกคามขบวนหาเสียงคณะก้าวหน้าว่า ไม่กระทบกับการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.คณะก้าวหน้า ยืนยันว่าในการหาเสียงทั้งที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดอื่นๆ ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี มีคนทักทายถ่ายรูปและแสดงความสนใจในตัวผู้สมัครตลอด คนที่มาชูป้ายต่อต้านมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่กลับได้รับพื้นที่สื่อมาก เพราะลักษณะการกระทำมีความรุนแรงชัดเจนมากกว่า
    "ขอถามผู้ที่ชูป้าย เนรคุณแผ่นดิน ล้มเจ้า ชังชาติ ผู้ที่เกลียดชังคณะก้าวหน้า ว่าพวกคุณกำลังตกหลุมพรางเดิมๆ ตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจรึเปล่า พวกเขาหลอกให้พวกคุณกลัวความเปลี่ยนแปลง กลัวว่าการเมืองใหม่ๆ จะทำให้เกิดการล้มเจ้า พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน เมื่อกลัวเปลี่ยนแปลง ก็หมายถึงการยอมอยู่กับสิ่งชั่วร้ายเดิมๆ" น.ส.พรรณิการ์กล่าว
ในเวลา 17.31 น. นายธนาธรได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้ออำนาจแห่งฝันร้าย ในทำนองเดียวกันว่า คนที่ชูป้ายไล่ล่าตนเองและคณะก้าวหน้าตอนนี้ ลองถามตัวเองให้ดีว่ากำลังตกหลุมพรางเดิมๆ อยู่หรือไม่ ซึ่งหลุมพรางที่ว่านั่นคือการสร้างฝันร้ายขึ้นมาให้พวกเรากลัว และไม่กล้าลืมตาตื่นขึ้นมามองหาอนาคตและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ซึ่งเรารู้อยู่เต็มอกว่าผู้บริหารท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมกินหัวคิว เอื้อประโยชน์พวกพ้อง การเมืองท้องถิ่นคือการเมืองมาเฟีย การเมืองบ้านใหญ่ การเมืองกอบโกยผลประโยชน์โดยไม่สนใจประชาชนเลย แต่เรากลับยอมจมปลักอยู่กับความชั่วร้ายเหล่านี้ เพราะพวกเขาหลอกให้เราเชื่อว่า อนาคตข้างหน้าเป็นเรื่องน่ากลัว คนที่จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง ต้องเป็นพวกล้มเจ้า พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน
        “ในเมื่อไม่กล้าเปลี่ยน ก็เท่ากับเราต้องจำยอมอยู่กับความชั่วร้ายเดิมๆ แล้วคุณลองคิดดูดีๆ ว่าใครยังได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้อยู่ และเขาคือคนเดียวกับคนที่สร้างฝันร้ายมาหลอกหลอนพวกคุณหรือไม่ สิ่งที่เป็นภัยต่อพวกเรามากที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเจอเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา แต่คือฝันร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกหลอนเราไม่จบไม่สิ้น” นายธนาธรโพสต์ทิ้งท้าย
    ต่อมาในเวลา 17.52 น. นายธนาธรทวีตรูปพร้อมข้อความว่า มีคนถามเข้ามาเยอะเรื่องกลุ่มคนสวมเสื้อเหลืองล้อมรถที่นครศรีฯ ขอแจงตามนี้ว่า ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในรถคันนี้ และรถก็ไม่ใช่ของตนเองด้วย เป็นห่วงคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มากกว่า ส่วนตอนนี้มาลงพื้นที่ดูนโยบายกับผู้สมัครและยังทำงานรณรงค์อยู่ภาคใต้ต่อ
    มีรายงานว่านายธนาธรยังเดินหน้าหาเสียงในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยได้ไปสำรวจเขาพลายดำ อุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช.
    

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"