สวมแว่นเสมือนจริงสัมผัสระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลงเพราะสภาพภูมิอากาศ ผลงานโดย มารีน่า อบราโมวิช

     ในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2020  (BAB 2020) ในแนวคิด Escape Routes หรือ ศิลป์สร้าง ทางสุข  โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ภาครัฐและเอกชน และเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน นำผลงานศิลปะกว่า 200 ชิ้น จาก 82 ศิลปินชั้นนำทั่วโลก  35 ประเทศ 5 ทวีป  มาเนรมิต พื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร  10แห่ง ให้เป็นเมืองศิลปะระดับโลก 

                ศ.  ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ในนามประธานอำนวยการ และ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ เผยว่า งานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 ถือเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่มีความยิ่งใหญ่ระดับโลก ที่จะทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงแห่งเมืองศิลปวัฒนธรรม  และมีพื้นที่ "เดอะ ปาร์ค "โครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งพื้นที่ของการจัดแสดง  ณ ที่ชั้น 15 ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร  ผู้เข้าชมนิทรรศการนอกจากจะได้เสพงานศิลปะแล้ว  ยังได้เห็นวิวกรุงเทพฯ ที่สวยงาม 

    จากผลงานศิลปะกว่า 200 ชิ้น จาก 82 ศิลปิน  35 ประเทศ   นำมาจัดแสดงที่เดอะปาร์ค   25  ผลงาน จากศิลปิน 16  คน อาทิ มารียา อบราโมวิช, มาร์ธา เอเทียนซา, อนิช คาพัวร์, แดนสรวง สังวรเวชภัณฑ์, ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์ หรือโน้ต กฤษดา เป็นต้น  

    "ปีนี้ เรามีอุปสสรคจากสถานการณ์โควิด 19  ทำให้เราต้องขอบคุณศิลปินที่ยังไม่ล้มเลิก และยังพยายามในการสร้างสรรค์ผลงานพร้อมกับเดินทางมายังประเทศไทยด้วย  ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการกักตัวอยู่ใน State Quarantine ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และที่กำลังมีแพลนเดินทางมาอีกคือ  สเปน แคนาดา และตุรกี "ศ.ดร.อภินันท์กล่าว 

           ในรายละเอียดการแสดงผลงานที่ The PARQ พื้นที่จัดแสดงศิลปะของคนกรุงเทพฯ แห่งใหม่ ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 4 ที่น่าสนใจอย่างมาก อาทิ   มารีน่า อบราโมวิช ผู้บุกเบิกศิลปะการแสดงสด ได้นำเสนอผลงาน" Rising "เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยจะพาผู้ชมไปสัมผัสระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น หรือศิลปินไทย รุ่งเรือง สิทธิฤกษ์ กับผลงาน "กลาย  "ที่ได้บอกเล่าบริบทของเมืองกับชนชั้นแรงงาน หรือผลงานศิลปะที่สะท้อนบริบทสังคม สิ่งแวดล้อม สิทธิเสรีภาพ    

     นอกจากนี้ยังมีอีก 9 สถานที่สำคัญใจกลางกรุง ได้แก่ BAB BOX / เดอะ พรีลูด โครงการวัน แบงค็อก จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 และจะเปิดแสดง เพิ่มในพื้นที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร / วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร / วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร / หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร / ล้ง 1919 /  มิวเซียมสยาม และ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก รับชมผลงานศิลปะได้คั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2564 

ณรงค์ยศ ทองอยู่

    ด้านศิลปิน ณรงค์ยศ ทองอยู่ ศิลปินศิลปะจัดวาง เจ้าของผลงานชุด Child’s World in the Days of Adults กล่าวว่า จากช่วงชีวิตในวัยเด็กที่ตนได้อาศัยและเติบโตใกล้ชิดกับชายหาดสทิงพระ จ.สงขลา จึงอยากนำเสนอผลงานที่ทำให้เห็นโลกวัยเด็ก  เพราะปัจจุบันตนอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เวลากลับบ้านที่สงขลาช่วงวันหยุดเทศกาล ก็จะไปเก็บขยะจากริมชายหาด เพราะชายหาดสทิงพระ แม้ว่าจะไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหลักแต่ก็มีขยะที่ถูกพัดพามากับทะเลเยอะ บางครั้งไม่ใช่มีแค่ขยะพลาสติก แต่ยังมีขยะอันตรายอย่าง เข็มฉีดยา ที่อาจจะเป็นอันตรายกับเด็กในพื้นที่ เพราะในตอนที่ตนยังเด็กก็มักจะเก็บขยะมาทำของเล่น จึงเอามาเป็นแรงบันดาลใจมาสร้างงานกว่า 90% เป็นขยะจากบ้านเกิด 

เหล่าตุ๊กตาตาบอด ที่สะท้อนปัญหาขยะในทะเล

    “ผลงานของผมคือ การเชื่อมโยงความน่าสนใจเข้าด้วยการเล่าเรื่องแบบนิทาน สร้างเป็นตุ๊กตาตาบอด เพราะเวลาเล่นกับตุ๊กตา เราก็จะคิดว่าเขามีความรู้สึก มีชีวิต และเพื่อนที่ไว้ใจที่สุด ดังนั้น ตรงดวงตาผมจึงใช้ทุ่นประมง ที่ผูกกับอวนที่มีน้ำทะเลขัง 3-4 ปี ผมพยายามเขย่าก็ไม่ออก จึงคิดว่านี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนน้ำตา และน้ำตาของคนจริงๆก็มีความเค็ม จึงอยากให้ตุ๊กตาที่สร้างขึ้นเป็นตัวแทนของความรู้สึกที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์  แฝงเรื่องของสภาพแวดล้อมของชุมชนริมทะเล  ได้สร้างคำถามแบบปลายเปิดให้คนได้เข้ามาจินตนาการ และทบทวนคิดถึงปัญหาเหล่านี้ นอกจากนี้ผลงานยังเชื่อมกับไดอารี่ ที่บันทึกการทำงานการเก็บขยะริมทะเลอีกด้วย  อยากให้คนที่ได้เข้ามาชมงานได้คิดตาม เพราะบางครั้งธรรมชาติก็พยายามที่จะเยียวยาทุกสิ่งอย่างเต็มที่แล้ว” ณรงค์ยศ กล่าว 

ยุรี เกนสาคู 

    อีกหนึ่งศิลปิน ยุรี เกนสาคู ศิลปินจิตรกรรมและปติมากรรม เจ้าของผลงาน BLEU BLANC ROUGE (Blue, White, Red), Broken Victoria และ Louis XVI กล่าวว่า ผลงานที่ได้นำเสนอออกมานั้นเป็นการนำเรื่องราวเมื่อครั้งที่ไปอยู่ประเทศฝรั่งเศส ได้ไปสัมผัสศิลปวัฒนธรรม สังคม การเมือง วรรณกรรม รวมไปถึงตัวการ์ตูนต่างๆ จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานในเชิงเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

BLEU BLANC ROUGE สีสันสดใส แต่สื่อความหมายทางสังคม การเมือง ได้อย่างแยบยล

    ยุรี เล่าถึงภาพ  BLEU BLANC ROUGE  เป็นสิ่งที่ต้องการเปรียบเปรย บางสิ่งที่อาจจะคิดว่าไทยได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส แต่จริงแล้วแทบจะไม่มีมีอะไรเหมือนกัน โดยได้นำภาพ Liberty Leading The People หรือชื่อ เสรีภาพนำชาวประชา ของ เออแฌน เดอลาครัว (Eugène Delacroix) จิตรกรชื่อดังของฝรั่งเศส โดยในภาพจริงจะเป็นหญิงชาวบ้านที่ได้รับชัยชนะในการต่อสู้เรื่องการปฏิวัติ แต่เราได้เปลี่ยนเป็นไก่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส และ ตัวของเดอลาครัว ที่เข้าร่วมการปฏิวัติเป็นผู้ชายถือปืน ก็เปลี่ยนมาเป็นถืออุปกรณ์ศิลปะ เพราะเป็นการบ่งบอกถึงตัวตนของเดอลาครัวที่เป็นคนวาดภาพ และในภาพยังมีสามทหารเสือ หรือภาพมารี อ็องตัวแน็ต แต่เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น  ที่คนทำได้แรงบันดาลใจมาจากการปฏิวัติ เรื่อง The Rose of Versailles หรือประติมากรรม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เทพไนกี้ปีกหัก ซึ่งเป็นเทพแห่งชัยชนะ  ตนยังมองไปถึงเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ที่ศิลปินอย่างเราก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย  

ผลงาน"กลาย "ที่บอกเล่าบริบทเมืองกับชนชั้นแรงงาน

woven chronicle ของศิลปิน รีน่า ไซนี กัลลัด

ผลงาน ร้อยพ่อ พันแม่ ของศิลปิน ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์ 

    ผูัสนใจสามารถเข้าชมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2564 ติดตามรายละเอียด ตารางการจัดกิจกรรมของงาน เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020”(Bangkok Art Biennale) ได้ที่ www.facebook.com/Bkkartbiennale  หรือ www.bkkartbiennale.com