เลขาฯก้าวไกล ซัดเปรี้ยง 'ไพบูลย์' และพวกเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย


เพิ่มเพื่อน    

11 พ.ย.63 - จากกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเเละสมาชิกวุฒิสภา นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน เเละนายสมชาย แสวงการ เสนอญัติต่อประธานรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 เพื่อให้มีการจัดทำ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

ล่าสุดนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าว่า ผู้ยื่นญัตติดังกล่าวเห็นว่า รัฐธรรมนูญ  2560 ไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจรัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีแต่อำนาจแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราเท่านั้น ดังนั้น การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ม.256 ให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทั้งของ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และของประชาชนที่เข้าชื่อกัน รวม 3 ฉบับ จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยในกรณีนี้ นายไพบูลย์และคณะยังยืนยันว่า ไม่ใช่การเตะถ่วง เพราะการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภาก็ยังดำเนินการต่อไปได้คู่ขนานกัน

“พรรคก้าวไกลเห็นด้วยว่า คุณไพบูลย์และคณะไม่ใช่แค่การเตะถ่วงการแก้ไข รธน. แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการยุติหรือไม่อนุญาตให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาแทนที่รัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช. โดยเด็ดขาด ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256 เพื่อให้มี สสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นอำนาจโดยชอบของรัฐสภาและเป็นอำนาจโดยชอบของประชาชน ผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ การจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ผ่าน สสร. จะเป็นกุญแจดอกสำคัญเพื่อเปิดประตูหาทางออกจากวิกฤตการเมืองให้แก่ประเทศไทย  ซึ่ง รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 255 ได้กำหนดข้อห้ามไว้เพียงว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทํามิได้ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ม.256 ทั้งสามฉบับของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประชาชน ก็มิได้เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวแต่ประการใด”

นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคก้าวไกลยังระบุว่า การร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่มาแทนที่ฉบับเก่าโดยกระบวนการทางประชาธิปไตยไม่ว่าจะผ่านรัฐสภาหรือผ่าน สสร.ในอดีตประเทศไทยได้เคยทำกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น รัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2489 หรือ พ.ศ. 2540  แนวคิดของนายไพบูลย์ และคณะจึงเป็นแนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย การเสนอญัตตินี้เป็นการแช่แข็งประเทศไทย เพียงเพื่อทำให้รัฐธรรมนูญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. ) เป็นรัฐธรรมนูญ ตราบนิรันดร์ โดยนายไพบูลย์และคณะเห็นว่า รัฐธรรมูญมีเจตนารมณ์ให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ จะต้องมีบทบัญญัติไว้ให้กระทำได้เท่านั้น ดังเช่นใน รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 หรือฉบับ 2549 เป็นต้น

“การบอกว่า รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นฉบับถาวร ไม่ใช่ฉบับชั่วคราว จึงไม่บัญญัติให้อำนาจรัฐสภาจัดทำ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐสภาจึงไม่มีอำนาจแก้ไขให้มี สสร. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะจะเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ การจัดทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ก็กระทำมิได้เช่นกัน ดังนั้น โดยสรุปในความหมายของคุณไพบูลย์และคณะก็คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่าจะโดยอาศัยอำนาจของรัฐสภา หรืออาศัยอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของประชาชนในทางใดๆจะไม่สามารถจะกระทำได้เลย เพราะล้วนแต่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ประเทศไทยต้องถูกปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช. ไปตลอดกาล

ดังนั้น เมื่อถึงที่สุดแล้ว แนวคิดและการตีความของคุณไพบูลย์และคณะก็คือแนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะเท่ากับเป็นการยืนยันว่า การจัดทำ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศไทย จะไม่สามารถกระทำได้เลยตามกระบวนการของรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยจะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ด้วยวิธีการ รัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น”เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า หากญัตตินี้ผ่านจะถือว่าเป็นการปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใต้กระบวนการประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลด้วยว่าควรต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะร่วมพายเรือให้โจรนั่งหรือจะตลบแตลงแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"