11 พ.ย.2563 - ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระกระทู้ถามสด โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามนายกฯ กรณีการทุจริตถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.)ว่า มีอดีตสื่อมวลชนชื่อ เสี่ย อ.ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ประมาณ 2 เดือน แล้วก็มาขายถุงมือยางให้กับ อคส.ถึง 500 ล้านกล่อง มูลค่ากว่าแสนล้านบาท ทั้งที่ อคส.มีหน้าที่ดูแลเกษตรกรและประชาชน แต่เรื่องที่ประชาชนเขาเดือดร้อนกลับไม่ทำ นอกจากนี้ การที่ อคส.จ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า 2 พันล้านบาท กลับไม่มีหนังสือค้ำประกันใดๆ ให้กับ อคส. แสดงว่า มีการวางแผน มีการเตรียมการ ส่อไปในทางทุจริตใช่หรือไม่ อยากถามว่า สัญญาเพียง 4 หน้ากระดาษ และไม่ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด แต่จ่ายเงินมัดจำไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาทนั้น ทำให้อคส.เสียหายหรือเจ๊งได้เลย นายกฯ จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เพราะท่านประกาศจะจัดการกับเรื่องทุจริต และอดีตรักษาการ ผอ.อคส.คงไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน ท่านปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะเกิดการทุจริตมาเป็นเดือนแล้ว แต่ท่านนายกฯ ยังเฉยอยู่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้มาตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่า มีความเห็นเช่นเดียวกับนายยุทธพงศ์ ที่อดีตรักษาการ ผอ.อคส.ไปทำสัญญา ทั้งที่ไม่มีอำนาจ ส่อไปในทางทุจริต ทันทีที่ทราบเรื่อง ได้มีการหารือกันที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ มีคำสั่งย้ายอดีตรักษาการ ผอ.อคส.ไปประจำสำนักนายกฯ ในทันที คือสิ่งแรกที่ดำเนินการ เป็นการพิสูจน์ว่า นายกฯ และกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการจัดการกับการทุจริต จากนั้นบอร์ดของ อคส.มีการประชุมและสั่งให้ระงับโครงการ ขณะเดียวกันยังตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้น รวมถึงไปแจ้งความดำเนินคดีต่อดีเอสไอ และ ปปง. เพื่อขอให้ตรวจสอบและระงับเส้นทางการเงิน พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งทราบว่าขณะนี้ ป.ป.ช.มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนแล้ว หากผลการตรวจสอบพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องในทางมิชอบ รัฐบาลจะดำเนินการโดยเคร่งครัดและไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น
นายยุทธพงศ์ถามอีกว่า เงิน 2 พันล้านบาทได้ออกจาก อคส.ไปอยู่ที่คู่สัญญาเรียบร้อยแล้ว เงินจ่ายออกไปจนถึงขณะนี้ 2 เดือนเศษแล้ว นายกฯ จะตามเงิน 2 พันล้านบาทนี้อย่างไร จะยับยั้งอย่างไร เพราะถ้าตามเงิน 2 พันล้านบาทนี้คืนมาไม่ได้ อคส.จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จะเป็นหนี้ขึ้นมา 2 พันล้านบาท นอกจากนี้ คนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นได้ดำเนินการกับใครบ้าง และคืบหน้าอย่างไร
นายจุรินทร์ ชี้แจงว่า เราพยายามตามเอาเงินกลับคืนมาให้กับ อคส.ให้ได้ ลำพัง อคส.ไม่มีอำนาจโดยตรงในการเข้าไปตรวจสอบบัญชี เส้นทางการเงิน และสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ได้อย่างเต็มที่ จำเป็นต้องไปแจ้งต่อดีเอสไอ ถ้าดีเอสไอชี้ว่ามีมูลก็ขอให้ปปง.สั่งระงับเส้นทางการเงินได้ แต่เมื่อแจ้งต่อดีเอสไอแล้วก็ได้รับแจ้งว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบอดีตรักษาการ ผอ.อคส. แต่เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงได้มีการไปร้องต่อ ป.ป.ช. และมีการระงับเส้นทางการเงินบางส่วนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นการดำเนินการภายใน จึงไม่ใช่สิ่งที่จะมาแจ้งในที่ประชุมสภาฯ ให้รับทราบได้ ไม่ว่าผลสอบสวนจะไปถึงใครอย่างไรนั้น จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และถือว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่งถ้าเป็นกรณีการทุจริต ใครที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และ อคส. พร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการตรวจสอบทุกประการ
นายยุทธพงศ์ข้อสุดท้ายว่า วันนี้เงิน 2 พันล้านบาทยังอยู่หรือไม่ ท่านนายกฯ จริงใจกับนโยบายปราบทุจริตหรือเปล่า และกระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงระดับกระทรวงด้วยหรือไม่
นายจุรินทร์ ชี้แจงอีกว่า เป้าหมายสูงสุดคือต้องเอาเงินคืนมาให้ได้ และใครที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการทางวินัยด้วย นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการในการเรียกร้องค่าเสียหาย จะไล่เบี้ยจนกว่าจะได้เงินของ อคส.กลับคืนมา รัฐบาลมีความตั้งใจจริงที่จะจัดการกับเรื่องนี้ หากเป็นกรณีทุจริต รัฐบาลจะไม่ละเว้นอย่างแน่นอน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |