การหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศที่จะเลือกตั้งกัน 20 ธ.ค. พบว่าหลายจังหวัดผู้ลงสมัครลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก แต่ความเข้มข้นน่าจะเกิดขึ้นในช่วง 7-10 วันสุดท้ายก่อนวันหย่อนบัตร 20 ธ.ค. โดยเฉพาะหลายจังหวัดที่เห็นชัดถึงการแข่งขันที่เข้มข้นดุเดือด ช้างชนช้าง บนเดิมพันสู้หมดหน้าตัก ก็ยิ่งทำให้การแข่งขันดุเดือดมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ภาพใหญ่พบว่า บางพรรคการเมืองอย่าง "เพื่อไทย" ที่แม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นพรรคที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภา ก็เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรค 25 คน ไปเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่คาดว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยก็คงคาดหวังว่าคนของเพื่อไทยจะปักธงยึดพื้นที่ท้องถิ่น โดยเฉพาะนายก อบจ.ได้หลายแห่ง ในระดับน่าจะไม่ต่ำกว่า 15 จังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งหวังผลมากที่สุดอย่างภาคเหนือ-อีสาน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพใหญ่ กลุ่มการเมืองที่คาดหวังไว้กับศึกเลือกตั้งท้องถิ่นรอบนี้มากสุดคงไม่พ้น "คณะก้าวหน้า" ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เตรียมการเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ยังไม่โดนยุบพรรคด้วยซ้ำ ซึ่งแม้อนาคตใหม่โดนยุบ แต่แกนนำพรรคที่ตอนนี้มาอยู่ในปีกคณะก้าวหน้าก็ยังคงเดินหน้า หวังปักธงเลือกตั้งท้องถิ่นในนามคณะก้าวหน้า จนมีการแบ่งทีมช่วยผู้สมัครหาเสียงอย่างหนัก
ซึ่งพบว่าในจังหวะขับเคลื่อนช่วยหาเสียงของ "ธนาธร" ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ก็เกิดภาพ-ข่าวที่เริ่มเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นเหมือนๆ กันเวลาธนาธรลงพื้นที่ นั่นก็คือ กระแสต่อต้านธนาธรระหว่างลงพื้นที่หาเสียง อันเป็นกระแสต่อต้านที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีต่อธนาธรบนความเชื่อมโยงไปถึงภาพใหญ่การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว ที่มีข่าว-ภาพของธนาธรไปร่วมปรากฏตัวในการชุมนุมหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นที่มาของแรงต้านเวลาธนาธรไปช่วยหาเสียง
ไม่ว่าจะเป็นกรณีเมื่อ 6 พ.ย. ที่ จ.สมุทรสงคราม ที่ธนาธรไปช่วยหาเสียง แล้วมีผู้ชายถือป้ายประท้วงขับไล่มีข้อความว่า "เรารักสถาบัน ไม่เอาธนาธร" โดยมีภาพข่าวผู้ชายตะโกนด่านายธนาธร "ประชาธิปไตยอะไรคุกคามแต่คนอื่น ปลุกปั่น ยุยงเด็กให้แตกแยก ไม่รักสถาบัน ..อยู่เมืองไทยทำไมวะ คนหนักแผ่นดิน ยุยงปลุกปั่นเด็ก .. มานำหน้าม็อบเลย" แต่ยังดีที่ไม่เกิดเหตุเผชิญหน้าอะไร
และต่อมา วันที่ 8 พ.ย. ที่บริเวณหน้าตลาดกบินทร์แพน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งแม้จะมีคนออกมาต้อนรับธนาธรที่ไปลงพื้นที่หาเสียง แต่ก็มีข่าวว่ามีคนออกมาต่อต้านนายธนาธรพร้อมชูป้ายเขียนว่า "หนักแผ่นดิน" โดยสื่อรายงานว่า ชายคนที่ถือป้ายดังกล่าวพยายามเดินเข้าไปบริเวณที่นายธนาธรจะขึ้นหาเสียงที่หน้าบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ แต่ชายคนดังกล่าวกับถูกกลุ่มที่สนับสนุนธนาธรโห่ตะโกนไล่
และล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ จ.ระยอง ซึ่ง ธนาธร ไปช่วยหาเสียงลงพื้นที่ในตลาดนัดไทยทนุ ริมถนนสุขุมวิท ท้องที่หมู่ 5 เมืองบ้านฉาง ระยอง โดยสื่อมวลชนรายงานข่าวและภาพคลิปเสียงว่า ขณะที่ ธนาธร ช่วยลูกทีมหาเสียง ได้มีประชาชนพร้อมแม่ค้าในตลาดนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาด้วย บุกกลางวงหาเสียง โดยมีการเข้าไปถามธนาธรว่า "สู้เป็นไทย ถอยเป็นทาส คำว่าทาสของคุณคืออะไร มันเลิกทาสไปตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แล้ว แต่ขอให้หยุดจาบจ้วง พวกเราขอแค่ว่า ถ้าจะหาเสียง จะทำการเมืองให้ดีขึ้น อยากพัฒนาประเทศก็ทำไป แต่ต้องบอกพรรคพวกหยุดจาบจ้วงในหลวง สัญญากับคนบ้านฉางว่าจะไม่จาบจ้วงได้หรือไม่"
ทำให้ธนาธรอธิบายว่า "อยากให้ไปดูดีๆ ว่าจาบจ้วงตรงไหน อย่าฟังสิ่งที่คนอื่นเค้าพูดถึงผม ลองไปฟังสิ่งที่ผมพูด" ทางด้านแม่ค้าคนเดิมสวนกลับว่า "ไม่ได้ฟังจากใครเลย เราฟังจากคลิป คำว่าสู้เป็นไทย ถอยเป็นทาสของคุณ คุณหมายความว่าอะไร" ซึ่งธนาธรอธิบายว่า "สู้เป็นไทย ถอยเป็นทาส คือคนทุกคนในประเทศนี้มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน คนทุกคนในประเทศนี้มีสิทธิเสรีภาพทางการเมืองเท่าเทียมกัน ถ้าเราไม่ต่อสู้ เราจะไม่มีสิทธิ์เสียงเท่ากลุ่มคนที่มีอำนาจอยู่ในปัจจุบัน"
โดยมีข่าวและภาพปรากฏออกมาถึงการพูดคุยตอบโต้กันระหว่างธนาธรกับประชาชน เช่น มีประชาชนถามว่า "คุณจะหมายความว่าอย่างไรก็ตามแต่ แต่คุณอย่าก้าวร้าวในหลวง" ทำให้ธนาธรย้อนถามว่า "ผมก้าวร้าวตรงไหนครับ" แม่ค้าจึงสวนไปว่า "คุณไม่รู้เลยหรือว่าคุณก้าวร้าวตรงไหน คุณอย่าพูดเลย คุณนะเป็นคนพูดดี พูดดีมาก เอาเป็นว่าคุณหยุดจาบจ้วงสถาบันเท่านั้น แค่นั้นพอ คนไทยรับไม่ได้ คุณจะหาเสียง คุณจะพัฒนาให้การเมืองมันดีขึ้น มีสิทธิเสรีภาพ โอเค เราเห็นด้วย แต่หยุดจาบจ้วงสถาบันแค่นั้นเอง" ก่อนที่สุดท้ายวงดังกล่าวต่างคนก็ต่างแยกย้าย
ภาพและข่าวที่เกิดขึ้นข้างต้นที่สรุปมาพอสังเขป ระหว่างการช่วยหาเสียงของ ธนาธร ที่สมุทรสาคร-ปราจีนบุรีจนถึงระยอง มีการมองกันว่าธนาธรคงต้องเจอกับสภาพการณ์แบบนี้ไปเรื่อยๆ ในช่วงลงพื้นที่ช่วยลูกทีมหาเสียง โดยที่ผ่านมาก็ถือว่าธนาธรคุมสถานการณ์ได้ดี ไม่ทำให้สถานการณ์บานปลาย
กระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องยอมรับกันทางการเมืองว่า มันคือราคาที่ธนาธรต้องจ่ายกับการที่ตัวเขาเองมีข่าวเชื่อมโยงกับแกนนำม็อบสามนิ้ว ท่ามกลางสภาพการณ์ทางสังคมที่คนไทยจำนวนไม่น้อยอยู่ในสภาพแบ่งข้าง-เลือกขั้วกันไปแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |