จากนี้ไปทรัมป์ยังป่วนได้ไหม?


เพิ่มเพื่อน    

 

       เมื่อ "โจ ไบเดน" ประกาศชัยชนะเพราะนับคะแนนแล้วได้เกิน 270 electoral votes แต่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ยังไม่ยอมแพ้

            ปกติคู่แข่งที่เห็นคะแนนตัวเองตามหลังมากขนาดนั้น โดยมารยาททางการเมืองก็จะโทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับผู้ชนะ

            และผู้ชนะก็จะออกมาบอกว่าได้รับโทรศัพท์จากคู่แข่งแล้ว จึงพร้อมจะปราศรัยเพื่อประกาศชัยชนะ

            แต่ในกรณีนี้เมื่อทรัมป์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และยืนยันว่าตัวเองยังชนะอยู่ อีกทั้งยังจะร้องเรียนให้นับใหม่และอ้างว่ามีคะแนน "ผิดกฎหมาย" มากมาย

            และเขียนทวีตว่า "ผมได้คะแนน 71 ล้านเสียง สูงกว่าอดีตประธานาธิบดีทุกคนที่เคยได้ ดังนั้นผมยังไม่แพ้"

            แต่ทรัมป์ไม่ได้เขียนว่าไบเดนได้กว่า 75 ล้านเสียง popular votes ซึ่งเป็นจำนวนคะแนนเสียงสูงสุดในประวัติศาสตร์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี

            ไบเดนตัดสินใจปราศรัยเพื่อประกาศชัยชนะ เพราะรู้ว่าทรัมป์จะยังเล่นบท "ขี้แพ้ชวนตี" อยู่ต่อไป

            ไม่อาจจะรอให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ได้

            อีกทั้งยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือการจัดการกับโควิด-19 (ด้วยการตั้งคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ 12 คนเพื่อทำเรื่องนี้ภายในเมื่อวาน) และแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัส

            ไบเดนได้ "คณะผู้เลือกตั้ง" หรือ state electors หรือ electoral votes แล้วอย่างน้อย 279 เสียง             เรียกขานเขาว่าเป็น President-Elect หรือว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46

            จากนี้ไปก็ต้องรอให้แต่ละรัฐรับรองผลการเลือกตั้ง

            ต้องรับรองให้เสร็จก่อนวันการประชุม "electors meeting"

            รัฐสภากำหนดไว้ว่าการประชุมต้องจัดพร้อมกันทุกรัฐในวันจันทร์หลังวันพุธที่สองของเดือนธันวาคม

            กติกาและตารางเวลาของขั้นตอนหลังวันเลือกตั้งวางเอาไว้อย่างละเอียดเพื่อไม่ให้มีการตีความเองของแต่ละรัฐ   

            ทุกรัฐจะจัดประชุม state electors เพื่อทำการเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี โดยการหย่อนบัตรอย่างเป็นทางการ

            การลงคะแนนในขั้นตอนนี้ โดยปกติแล้วจะทำการโหวตตามชื่อผู้สมัครที่แต่ละคนได้สัญญาหรือรับปากรับคำเอาไว้แล้ว

            มีการ "เบี้ยว" บางไหม

            ก็มีบ้างแต่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นนัก เพราะโดยหลักการแล้วเขาถือว่าในระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีความจริงใจและเคารพในกติกา แม้จะไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ก็ตาม

            หากเกิดเหตุการณ์ "งูเห่า" ก็จะเป็นเรื่องอื้อฉาว เป็นรอยด่างของรัฐและเจ้าตัวเอง

            เมื่อแต่ละรัฐลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแล้วก็จะส่งผลนั้นๆ ไปยังสภา Congress

            คนที่รับผลการลงมตินี้คือประธานของวุฒิสภา ซึ่งรองประธานาธิบดีอันได้แก่ ไมก์ เพนซ์ เป็นประธานโดยตำแหน่ง

            ว่าแล้วประธานวุฒิสภาก็จะเรียกประชุมสภารวมทั้งสภาล่างและสภาบนเพื่อทำพิธีเปิดคะแนนรับรองผลอย่างเป็นทางการ

            ในกระบวนการนี้สามารถ "สอดไส้" ได้ไหม

            ไม่ได้ เพราะผลการโหวตของแต่ละรัฐ นอกจากที่ประธานวุฒิสภาแล้วก็ยังส่งสำเนาผลนี้ไปอีก 3  แห่ง คือ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ, รัฐมนตรีต่างประเทศ และประธานสภาสูงอีกด้วย

            และวันที่เปิดผลในสภาคองเกรสนั้น ผู้อำนวยการของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หรือ National  Archive ก็จะต้องตรวจสอบผลไปพร้อมกับสำเนาของตนว่าตรงกันหรือไม่

            โอกาสจะโกงกันในขั้นตอนนี้ก็ไม่เกิดขึ้นเช่นกัน

            จากนั้นเมื่อเปิดผลคะแนน electoral college แล้ว สภาคองเกรสจะรับรองผล

            จากนั้นก็ถือว่า "ว่าที่ประธานาธิบดี" และ "ว่าที่รองประธานาธิบดี" ได้ถูกรับรองแล้ว

            เตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป

            ถ้าถึงวันนั้น ทรัมป์ยังไม่ยอมแพ้จะเกิดอะไรขึ้น

            รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า เมื่อไบเดนทำพิธีสาบานตนเรียบร้อยวันที่ 20 มกราคมแล้ว ตกเที่ยงวันทรัมป์ก็ต้องออกจากทำเนียบขาว

            ถ้าไม่ยอมออกก็เป็นหน้าที่ของหน่วยรักษาความปลอดภัยหรือ Secret Service มาเชิญออกไป

            หวังว่าคงไม่ต้อง "อุ้ม" ออกไป

            แต่จากนี้ไปถึง 20 มกราคมปีหน้า ทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ เขาจะยังทำอะไรที่ตรงกันข้ามกับไบเดนได้ไหม

            โดยประเพณีแล้ว ประธานาธิบดีที่แพ้เลือกตั้งจะไม่ออกกฎหมายหรือทำอะไรที่เป็นนโยบายสำคัญ ๆ เพราะต้องเคารพในอำนาจและสิทธิของคนที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำหน้าที่แทนเขา

            ถ้าทรัมป์ไม่สนใจและทำอะไรเพี้ยนๆ ที่คาดไม่ถึง ก็คงจะได้เห็นมาตรการที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเหมือนกัน

            ถ้าทรัมป์ฟ้องศาลขอนับคะแนนใหม่ ก็ทำได้ตามขั้นตอน แต่กระบวนการยุติธรรมก็จะเดินตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญวางเอาไว้ ล่าช้าออกไปไม่ได้

            อีกทั้งกองทัพและหน่วยงานของรัฐทั้งหลายต้องฟังคำสั่งของคนที่ประชาชนเลือกมา

            ถ้าทรัมป์กล้าบ้าเลือดไม่ทำตาม "กติกามารยาท" ที่มีมายาวนานก็จะได้เห็นกัน!

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"