กสทช.จัดหนักนำเข้า โดรน เข้าทุกกรณี ต้องขอใบอนุญาตเพื่อแสดงต่อศุลกากร ย้ำผู้ครอบครองต้องขึ้นทะเบียนระบุตัวตน ฝ่าฝืนโทษจำคุก 5 ปี-ปรับ 1 แสนบาท

10 ม.ค.61-นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า มติที่ประชุมกรรมการกสทช.เห็นชอบออกประกาศเพื่อบังคับใช้ โดยให้ผู้นำเข้าโดรน (Drone) ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดา จะต้องขอใบอนุญาตค้าวิทยุคมนาคมเพื่อนำเข้าจากกสทช.ทุกกรณี โดยต้องระบุบัญชีเครื่อง รุ่น และนำไปจำหน่ายที่ร้านใดบ้าง ส่วนผู้ที่ซื้อโดรนมาใช้เองจะต้องมาขึ้นทะเบียนยืนยันตัวตนในการครอบครอง เนื่องจากที่ผ่านมาการนำเข้าโดรนนั้นทำได้โดยอิสระ ต่อจากนี้จะต้องในใบอนุญาตนำเข้าจากกสทช.ไปแสดงทุกครั้ง เพื่อให้ศุลกากรได้ตรวจสอบก่อนนำเข้าประเทศ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากสทช.ได้ดำเนินการเชิญชวนเป็นเวลา 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 2560 ถึงวันที่ 9 ม.ค. 2561 ให้ผู้ที่มีโดรนในครอบครองมาขึ้นทะเบียน ซึ่งพบว่ามีการนำโดรนมาขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 8,943 เครื่อง โดยแบ่งเป็นการขึ้นทะเบียนที่สำนักงานกสทช. จำนวน 8,219 เครื่อง ,สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จำนวน 706 เครื่อง และที่สถานีตำรวจ 18 เครื่อง และหลังจากนี้หากมีการสุ่มตรวจพบว่า โดรนที่กำลังใช้งานอยู่นั้นไม่มีการขึ้นทะเบียนจะมีความผิดตาม ตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ระบุโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อีกทั้ง กสทช.ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการลงทะเบียนยืนยันตัวตนการครอบครองโดรนเพื่อให้ร้านค้าที่จำหน่ายสามารถลงทะเบียนผู้ซื้อได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์ และเพื่อความสะดวกในการเก็บข้อมูลของกสทช. ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้จะใช้ระบบเดียวกับแอปพลิเคชั่นในการลงทะเบียนซิมการ์ดของโทรศัพท์เคลื่อนที่